โปรตามีน ซัลเฟต (Protamine sulfate)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 25 มกราคม 2561
- Tweet
- บทนำ
- โปรตามีน ซัลเฟตมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- โปรตามีน ซัลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- โปรตามีน ซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- โปรตามีน ซัลเฟตมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- โปรตามีน ซัลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้โปรตามีน ซัลเฟตอย่างไร?
- โปรตามีน ซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาโปรตามีน ซัลเฟตอย่างไร?
- โปรตามีน ซัลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาเฮพาริน (Heparin)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยากันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)
- เฮพารินโมเลกุลเล็ก (Low molecular weight heparin)
- โรคเลือด (Blood Diseases)
บทนำ
ยาโปรตามีนซัลเฟต(Protamine sulfate หรือบางท่านสะกดว่า Protamine sulphate) หรือบางท่านเรียกสั้นๆว่า Protamine เป็นยาที่มีฤทธิ์ต่อต้านการทำงานของยาเฮพาริน (Heparin) ในยุคแรกๆนักวิทยาศาสตร์ต้องนำเอาอสุจิของปลาแซลมอล(Salmon)มาแยกสกัดสารโปรตีนที่ชื่อว่าโปรตามีน(Protamine)และใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาโปรตามีนซัลเฟต แต่ปัจจุบัน การสังเคราะห์สาร/ยาโปรตามีนซัลเฟตได้ใช้เทคโนโลยีชีวภาพซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่าวิธีการดั้งเดิม ทั้งนี้รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาโปรตามีนซัลเฟตเป็นแบบ ยาฉีด หลังจากได้รับยาชนิดนี้เข้าสู่กระแสเลือด ภายใน 5 นาที ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ แต่ก็จะถูกกำจัดออกจากร่างกายประมาณ 50% จากปริมาณที่ได้รับภายในประมาณ 7.4 นาทีเช่นกัน
ประโยชน์ทางคลินิกของยาโปรตามีนซัลเฟตที่สามารถสรุปได้มีดังนี้ ได้แก่
- ใช้เป็นยารักษาสมดุลการทำงานของยาเฮพาริน ขณะที่ต้องทำหัตถการถ่ายเลือดไหลเวียนออกนอกร่างกายแล้วบังคับให้เลือดกลับเข้าสู่ร่างกายใหม่ (Extracorporeal circulation) เช่น กระบวนการฟอกเลือดของเครื่องไตเทียม(การล้างไต) หรือการผ่าตัดหัวใจ
- ใช้กับสตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับยาเฮพารินและใกล้คลอด ยาโปรตามีนซัลเฟตจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะเลือดออกง่ายจากยาเฮพาริน(Heparin neutralization in pregnant women near delivery)
- ใช้บำบัดผู้ป่วยที่ได้รับยาประเภทเฮพารินโมเลกุลเล็ก(Low molecular weight heparin/LMWH) และ Unfractionated heparin(UFH) เกินขนาด
อนึ่ง ขนาดการใช้ยาโปรตามีนซัลเฟตจะขึ้นกับปริมาณยาเฮพารินที่ผู้ป่วยได้รับ โดยการออกฤทธิ์ของยาโปรตามีนซัลเฟตจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามการใช้ยาโปรตามีนซัลเฟตยังมีข้อพึงระวังบางประการที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบ อาทิ ตัวยาชนิดนี้/ตัวยานี้สามารถทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ การทำงานของหัวใจและปอดผิดปกติจนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นขณะที่ได้รับยาโปรตามีนซัลเฟต แพทย์ พยาบาล จะคอยควบคุมสัญญาณชีพผู้ป่วย เช่น ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อใช้เป็นดัชนี/ตัวชี้วัดที่บ่งบอกอาการของผู้ป่วยว่าปลอดภัยมากน้อยเพียงใด
*กรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาโปรตามีนซัลเฟตเกินขนาด ก็อาจทำให้เลือดออกง่ายได้เช่นเดียวกัน ทำให้ขัดต่อความรู้สึกของผู้อ่านบทความหลายคน มีคำอธิบายได้ดังนี้ ขณะที่โปรตามีนซัลเฟตเข้ารวมตัวกับยาเฮพาริน(UFH และ LMWH)เพื่อยับยั้งการทำงานของยาเฮพารินทั้งสองชนิด ยาโปรตามีนซัลเฟตที่เกินความต้องการ จะเข้ารบกวนการทำงานของเกล็ดเลือดและFibrinogen ทำให้เกล็ดเลือดและ Fibrinogen ไม่สามารถทำหน้าที่ได้เช่นกัน แต่ฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดจากโปรตามีน ซัลเฟตจะเกิดขึ้นในระดับต่ำๆและอาจกินเวลา 30 นาที ถึง 18 ชั่วโมง สำหรับการแก้ไข/รักษาการได้รับยาโปรตามีนซัลเฟตเกินขนาด แพทย์จะรักษาตามอาการ(การรักษาประคับประคองตามอาการ) เช่น ให้ยา Epinephrine หรือ Dopamine เมื่อผู้ป่วยเกิดความดันโลหิตต่ำ หรือใช้วิธีให้เลือดหรือพลาสมาเข้าทดแทนเลือดของผู้ป่วยที่มีตัวยาโปรตามีนซัลเฟตเกินขนาด
*ข้อพึงระวังอีกประการที่บุคลากรทางการแพทย์ให้ความสำคัญและยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ คือ การฉีดยาโปรตามีนซัลเฟตให้ผู้ป่วยนั้น ต้องใช้เวลาในการฉีดยา นาน 10 นาทีขึ้นไป การให้ยากับผู้ป่วยเร็วเกินไปจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหัวใจเต้นช้า หายใจไม่ออก/หายใจขัด/หายใจลำบาก รู้สึกร้อนตามร่างกาย ใบหน้าแดง ความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรง หรือไม่ก็อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงตามมา
ทั้งนี้ กฎหมายยาของไทยได้ระบุให้ยาโปรตามีนซัลเฟตอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และจัดเป็นยาอันตรายที่ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์แต่ผู้เดียว
โปรตามีน ซัลเฟตมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาโปรตามีน ซัลเฟตมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้เป็นยาต้านฤทธิ์ของยาเฮพาริน และช่วยบำบัดอาการเลือดออกมากผิดปกติจากการได้รับยาเฮพารินเกินขนาด
*หมายเหตุ: หากยาโปรตามีนฯ ถูกนำไปผสมกับยาอินซูลินแอสพาร์ท(Insulin aspart) จะทำให้ได้ยาอินซูลินที่ออกฤทธิ์ได้นานยิ่งขึ้น
โปรตามีน ซัลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาโปรตามีนซัลเฟตคือ ตัวยาจะเข้ารวมตัวกับยาเฮพาริน ทำให้คุณสมบัติต้านการจับตัวของเกล็ดเลือดของยาเฮพารินหมดฤทธิ์ลง
โปรตามีน ซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาโปรตามีน ซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีดที่มีองค์ประกอบของ Protamine sulfate 10 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร และมีขนาดบรรจุ 5 มิลลิลิตร/ขวด
โปรตามีน ซัลเฟตมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาโปรตามีน ซัลเฟตมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. ใช้ต่อต้านฤทธิ์ของยาHeparin(Unfractionated heparin):
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาโปรตามีน ซัลเฟตเข้าหลอดเลือดดำ โดยคำนวณการใช้ยาโปรตามีนซัลเฟต 1 มิลลิกรัมต่อยาเฮพาริน/เฮพาริน โซเดียมไม่ต่ำกว่า 100 ยูนิตสากล การให้ยาโปรตามีน ซัลเฟตกับผู้ป่วยควรปฏิบัติภายใน 2–3 นาที เมื่อทราบว่าผู้ป่วยได้รับยาเฮพารินเกินขนาด
ข. ใช้ต้านฤทธิ์ยาเฮพารินโมเลกุลเล็ก(Low molecular weight heparin):
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาโปรตามีน ซัลเฟตเข้าหลอดเลือดดำ โดยคำนวณการใช้ยาโปรตามีนซัลเฟต 10 มิลลิกรัมต่อยาเฮพารินโมเลกุลเล็ก โดยคำนวณเทียบกับ Anti-factor Xa(การตรวจเลือดวัดค่ายาเฮพารินในน้ำเลือด) ทุกๆ 1,000 ยูนิตสากล
อนึ่ง:
- การใช้ยาโปรตามีนซัลเฟตสามารถเจือจางด้วย 5% Dextrose หรือ 0.9% Sodium chloride สัดส่วนการเจือจางให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเอก สารกำกับยา
- การใช้ยาโปรตามีนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับยาเฮพารินเกินขนาด ไม่ควรใช้เวลาในการเตรียมยานานเกินไป ผู้ป่วยต้องได้รับยาทันเวลาและมีขนาดที่แม่นยำเหมาะสม
- การใช้ยาโปรตามีน ซัลเฟตเกินขนาด แพทย์จะรักษาตามอาการผู้ป่วย และอาจต้องใช้การให้เลือดหรือให้พลาสมาทดแทนเพื่อช่วยผู้ป่วย
- เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
*****หมายเหตุ: ขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาโปรตามีนซัลเฟต ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาโปรตามีน ซัลเฟตอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
โปรตามีน ซัลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาโปรตามีนซัลเฟตสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบโลหิตวิทยา: เช่น ทำให้มีภาวะเลือดออกง่ายซึ่งมีสาเหตุจากการได้รับยาโปรตามีนซัลเฟตเกินขนาด
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นช้า ใบหน้าแดง
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น หายใจขัด
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น รู้สึกร้อนตามร่างกาย
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้อาเจียน
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง
มีข้อควรระวังการใช้โปรตามีน ซัลเฟตอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาโปรตามีนซัลเฟต เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้ หรือแพ้อาหารทะเล
- การใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีในช่วงให้นมบุตร และเด็ก ต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
- กรณีพบอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นคัน ผิวหนังบวมแดง ผิวหนังลอก แน่นหน้าอก หายใจขัด ใบหน้า-ปาก-คอมีอาการบวม ซึ่งเป็นอาการแพ้ยานี้ ต้องหยุดใช้ยานี้ทันที และรีบให้แพทย์ทำการรักษาโดยเร็ว
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาโปรตามีน ซัลเฟตด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
โปรตามีน ซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาโปรตามีนซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาโปรตามีน ซัลเฟตร่วมกับยา Azithromycin, Allopurinol ด้วยจะทำให้ร่างกายทำลายยาโปรตามีนซัลเฟตได้น้อยกว่าปกติ จนเป็นเหตุให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงจากยาโปรตามีนซัลเฟตรุนแรงมากขึ้น
- ห้ามใช้ยาโปรตามีน ซัลเฟตร่วมกับ ยาAmobarbital เพราะจะทำให้ร่างกายเร่งการทำลายยาโปรตามีน ซัลเฟตได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของยาโปรตามีน ซัลเฟตด้อยลงไป
- ห้ามใช้ยาโปรตามีน ซัลเฟตร่วมกับ ยาClopidogrel เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่ายตามมา
ควรเก็บรักษาโปรตามีน ซัลเฟตอย่างไร?
ควรเก็บยาโปรตามีน ซัลเฟตร่วมภายใต้อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
โปรตามีน ซัลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาโปรตามีน ซัลเฟต มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Protamine Sulphate LEO (โปรตามีน ซัลเฟต ลีโอ) | LEO Pharma |
บรรณานุกรม
- https://www.drugbank.ca/drugs/DB09141 [2017,Dec7]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Protamine_sulfate [2017,Dec7]
- http://www.mims.com/philippines/drug/info/protamine%20sulfate?mtype=generic [2017,Dec7]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/protamine%20sulphate%20leo/?type=brief [2017,Dec7]
- https://www.drugs.com/monograph/protamine-sulfate.html [2017,Dec7]
- https://www.drugs.com/pro/protamine-sulfate-injection.html [2017,Dec7]
- http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/medicine/essential/list/16#item-9117 [2017,Dec7]
- https://www.drugs.com/sfx/protamine-side-effects.html [2017,Dec7]
- https://reference.medscape.com/drug/protamine-343746#3 [2017,Dec7]