โซเดียม ฟอสเฟต (Sodium phosphate oral suspension) หรือ สวิฟฟ์ (Swiff)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

โซเดียม ฟอสเฟต (Sodium phosphate) จัดเป็นเกลือชนิดหนึ่ง วงการแพทย์นำมาใช้รักษาภาวะท้องผูก รวมถึงเป็นยาถ่าย/ยาระบายของผู้ป่วย ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ก่อนการตรวจเอกซเรย์ลำไส้ใหญ่ด้วยการสวนแป้ง (Barium enema) หรือก่อนการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (การกำจัดอุจจาระออกจากลำไส้ใหญ่ เพื่อความสะอาดของลำไส้ ลดโอกาสติดเชื้อจากอุจจาระ และเพื่อให้แพทย์สามารถตรวจลำไส้ใหญ่ได้แม่นยำขึ้นจากไม่มีอุจจาระบดบัง) โดยผลิตออกมาในรูปยารับประ ทานและยาสวนทวาร นอกจากนี้โซเดียม ฟอสเฟตยังนำมาใช้รักษาภาวะฟอสเฟต (Phosphate/ Phosphorus) ในร่างกายต่ำ โดยมีการผลิตออกมาในรูปแบบยารับประทานและยาฉีด และด้วยวัตถุประสงค์ของการใช้โซเดียม ฟอสเฟตมีมากกว่า 1 อย่าง การเลือกใช้เกลือชนิดนี้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการรักษาจึงต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น

อนึ่ง ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะการนำโซเดียมฟอสเฟตมาใช้เป็นยาระบายหรือยาแก้ท้อง ผูกเท่านั้น

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

โซเดียมฟอสเฟต

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีสรรพคุณดังนี้

  • เป็นยาระบายเมื่อมีอาการท้องผูก
  • เป็นยาระบายสำหรับผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด, ก่อนการตรวจลำไส้ใหญ่ ด้วยเอกซเรย์สวนแป้ง หรือด้วยการส่องกล้อง
  • รักษาภาวะฟอสเฟตในเลือดต่ำ (ไม่กล่าวถึงในบทความนี้)

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตคือ ตัวยาจะกระตุ้นให้มีน้ำเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ ทำให้ผนังลำไส้ใหญ่เกิดแรงดัน และสามารถขับถ่ายอุจจาระออกมาได้ในที่สุด

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาระบายโซเดียมฟอสเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายดังนี้

  • ยาระบาย ชนิดน้ำแขวนตะกอน ขนาดบรรจุ 45 และ 90 มิลลิลิตร
  • ยาสวนทวาร

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีขนาดรับประทานดังนี้

ก. สำหรับเป็นยาระบายเมื่อท้องผูก (Purgative):

  • ผู้ใหญ่: รับประทาน 45 - 90 มิลลิลิตร
  • เด็ก: ขนาดรับประทานขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์

ข. สำหรับเป็นยาระบายอย่างอ่อน (Laxative):

  • ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป: รับประทาน 20 มิลลิลิตร
  • เด็กอายุ 10 ปี แต่ไม่เกิน 12 ปี: รับประทาน 10 มิลลิลิตร
  • เด็กอายุ 5 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี: รับประทาน 5 มิลลิลิตร
  • เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์

***** หมายเหตุ:

  • รับประทานยานี้ได้ ทั้งก่อน พร้อม หรือหลังอาหาร
  • ขนาดที่ใช้ในการสวนทวาร ขึ้นกับแต่ละรายบุคคล จึงขึ้นกับคำแนะนำของแพทย์

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาระบายโซเดียม ฟอสเฟต ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจ ลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาระบายโซเดียม ฟอสเฟต อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาระบายโซเดียมฟอสเฟต สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้ เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้าง เคียง) ดังนี้ เช่น ทำให้รู้สึกไม่สบายในช่องท้อง หรือมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน มีภาวะโซเดียมสูงในร่างกาย เกิดภาวะขาดน้ำ อาจมีอาการชัก วิงเวียน ใจสั่น อารมณ์แปรปรวน เบื่ออาหาร กล้ามเนื้อเกร็งตัว ปวดศีรษะ ง่วงนอน การหายใจผิดปกติ ขาบวม น้ำหนักขึ้น ปัสสาวะน้อยลง กระหายน้ำ ปวดกระดูกและข้อ

มีข้อควรระวังการใช้ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตดังนี้

  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคไตระยะรุนแรง ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยด้วยอาการท้องผูกขั้นรุนแรง ผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
  • ระวังการใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และไม่มีข้อมูลการใช้ยานี้ในหญิงให้นมบุตร (การ ใช้ยานี้จึงอยู่ในคำแนะนำของแพทย์)
  • ระหว่างการใช้ยานี้ควรตรวจเลือดเพื่อควบคุมการทำงานของไต รวมถึงระดับแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และโซเดียม
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นดังนี้

  • การใช้ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตร่วมกับยาที่มีองค์ประกอบของแคลเซียม (เช่น Calcium carbonate) แมกนีเซียม (เช่น ยาโรคกรดไหลย้อน บางชนิด) จะทำให้ลดการดูดซึมเกลือฟอสเฟต จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
  • การใช้ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตร่วมกับวิตามินดี จะทำให้การดูดซึมเกลือฟอสเฟตเพิ่มมากขึ้นได้ อาจเกิดความเสี่ยงให้ร่างกายมีเกลือฟอสเฟตเกิน รวมทั้งระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และอาจเกิดภาวะคั่งของโซเดียมในร่างกายเพิ่มขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
  • การใช้ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตร่วมกับนม จะลดประสิทธิผลของยาระบายโซเดียมฟอสเฟต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกัน

ควรเก็บรักษายาระบายโซเดียม ฟอสเฟตอย่างไร?

ควรเก็บยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตที่อุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius) เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่ ควรเก็บยาในห้องน้ำ

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
RISS (ริส) Patar Lab
Swiff (สวิฟฟ์) Berlin Pharm
Xubil (ซูบิล) Unison

บรรณานุกรม

1 http://www.mims.com/Thailand/drug/info/Xubil/?type=brief [2014,Sept27]
2 http://www.mims.com/Thailand/drug/info/RISS/ [2014,Sept27]
3 http://www.mims.com/Thailand/drug/info/Swiff/?type=brief [2014,Sept27]
4 http://www.mims.com/USA/drug/info/sodium%20phosphate/?q=sodium%20phosphate&mtype=generic [2014,Sept27]
5 http://en.wikipedia.org/wiki/Sodium_phosphates [2014,Sept27]

apai Keywords: - ยา Symptom: ยาระบาย Organ: ลำไส้ System:เภสัชกรรม Quote : ยาระบายโซเดียม ฟอสเฟตมีสรรพคุณดังนี้ เป็นยาระบายเมื่อมีอาการท้องผูก/เป็นยาระบายสำหรับผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด, ก่อนการตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยเอกซเรย์สวนแป้งหรือด้วยการส่องกล้อง/รักษาภาวะฟอสเฟตในเลือดต่ำ ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคไตระยะรุนแรง ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยด้วยอาการท้องผูกขั้นรุนแรง ผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ