แอสทรีโอแนม (Aztreonam)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 24 เมษายน 2561
- Tweet
- บทนำ
- แอสทรีโอแนมมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- แอสทรีโอแนมมีไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- แอสทรีโอแนมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- แอสทรีโอแนมมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- แอสทรีโอแนมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้แอสทรีโอแนมอย่างไร?
- แอสทรีโอแนมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาแอสทรีโอแนมอย่างไร?
- แอสทรีโอแนมมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- แบคทีเรีย: โรคจากแบคทีเรีย (Bacterial infection)
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- เบต้า-แลคแทม (Beta-Lactam antibiotic)
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
- ถุงยางอนามัยชาย (Male Condom)
บทนำ
ยาแอสทรีโอแนม(Aztreonam)เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มเบต้า-แลคแทม(Beta-Lactam antibiotic)มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดแกรมลบ(Gram negative bacteria) เช่น Pseudomonas aeruginosa ทางคลินิกใช้ยานี้ในการรักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียที่มีระดับอาการรุนแรง อาทิ การติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อที่ผิวหนัง ที่อวัยวะในช่องท้อง ที่อวัยวะของระบบทางเดินหายใจ(การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ) การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะะ ตลอดจนกระทั่งใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ
รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาแอสทรีโอแนมเป็น ยาชนิดฉีด และยาพ่นเข้าทางลมหายใจ ตัวยานี้ในกระแสเลือดจะโดนทำลายโดยตับ และร่างกายต้องใช้เวลานานประมาณ 1.7 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยานี้ทิ้ง โดยผ่านไปกับปัสสาวะ
ยาแอสทรีโอแนมมีกลไกยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ในตัวแบคทีเรียจึงเป็นเหตุให้แบคทีเรียตายลง การใช้ยาแอสทรีโอแนม ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกมีอาการดีขึ้นภายใน 2–3 วัน แต่ยังต้องใช้ยานี้ต่อเนื่องให้ครบคอร์ส(Course)ของการรักษาเหมือนกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่นๆทั่วไป
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้บริโภคควรทราบเกี่ยวกับยาแอสทรีโอแนมมีดังนี้
- แอสทรีโอแนมเป็นยาที่ใช้ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ไม่สามารถนำมารักษาโรคที่มี สาเหตุจากเชื้อไวรัสได้
- ผู้ที่ได้รับยาแอสทรีโอแนมอาจมีอาการท้องเสีย กรณีที่พบอาการท้องเสียอย่าง รุนแรง หรือมีเลือดปนมากับอุจจาระ/อุจจาระเป็นเลือด ควรต้องรีบแจ้งแพทย์/มาโรงพยาบาล ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยไปซื้อยาแก้ท้องเสียมารับประทานเอง
- ยาแอสทรีโอแนมอาจทำให้การรวมตัวของเกล็ดเลือดช้าลงกว่าเดิม ระหว่างการใช้ยานี้จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลและที่ทำให้มีภาวะเลือดออกตามมา
- การใช้ยานี้กับผู้สูงอายุต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยเสี่ยงต่อการเกิดพิษหรืออาการข้างเคียงรุนแรงได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
- สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังผลข้างเคียงรุนแรงจากการใช้ยาแทบทุกชนิด ซึ่งรวมถึงยาแอสทรีโอแนมด้วยเช่นกัน
องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ยาชนิดนี้เป็นยาจำเป็นขั้นพื้นฐานที่สถานพยาบาลควรมีสำรองไว้ให้บริการกับผู้ป่วย และหากผู้ป่วยมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวยาแอสทรีโอแนม สามารถสอบถามได้จากแพทย์ผู้ที่ทำการรักษาหรือเภสัชกรได้ทั่วไป
แอสทรีโอแนมมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาแอสทรีโอแนมมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดแกรมลบตามอวัยวะของร่างกาย เช่น ในเลือด ผิวหนังที่รวมถึงโครงสร้างผิวหนังในระดับลึก อวัยวะในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินปัสสาวะ ในช่องท้อง และระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง
- รักษาและบำบัดอาการโรคซิสติกไฟโบรซิส (Cystic fibrosis) ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas aeruginosa ร่วมด้วย
แอสทรีโอแนมการออกฤทธิ์อย่างไร?
ตัวยาแอสทรีโอแนมจะมีกลไกออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของกลุ่มเชื้อแบคทีเรียที่ตอบสนองต่อยานี้ เช่น Citrobacter species, Enterobacter species, Escherichia coli, Haemophilus influenzae, Klebsiella oxytoca, Klebsiella pneumoniae, Proteus mirabilis, Pseudomonas aeruginosa, Serratia species, Aeromonas hydrophila, Morganella morganii, Neisseria gonorrhoeae, Pasteurella multocida, Proteus vulgaris, Providencia stuartii, Providencia rettgeri, Yersinia enterocolitica ส่งผลให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโต หยุดการแบ่งเซลล์ และตายลงในที่สุด
แอสทรีโอแนมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
แอสทรีโอแนมมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีด ที่ประกอบด้วยตัวยา Aztreonam ขนาด 1 และ 2 กรัม/ขวด
- ยาพ่นเข้าทางเดินหายใจ ที่ประกอบด้วยตัวยา Aztreonam ขนาด 75 มิลลิกรัม/ขวด
แอสทรีโอแนมมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาแอสทรีโอแนมมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. สำหรับการติดเชื้อในกระแสเลือด:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 6–8 ชั่วโมง อาจต้องใช้ยา 10–14 วันต่อเนื่อง
ข. สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงระดับกลางๆ:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 1–2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำหรือเข้ากล้ามเนื้อ ทุก 8–12 ชั่วโมง
ค. สำหรับรักษาอาการ Cystic fibrosis:
- ผู้ใหญ่: ใช้ยาแบบสูดพ่นขนาด 75 กรัมผ่านเครื่องพ่นยา (Nebulizer) ประมาณ 2–3 นาที วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 28 วัน หลังจากผู้ป่วยได้รับยา 28 วัน ให้หยุดการให้ยานี้ไปอีก 28 วัน จึงกลับมาเริ่มใช้ยาชนิดนี้โดยเป็นไปตามคำสั่งแพทย์
ง. สำหรับการติดเชื้อในช่องท้อง:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 1–2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 8–12 ชั่วโมง กรณีอาการรุนแรง ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดฯทุกๆ 6–8 ชั่วโมง และใช้ยาเป็นเวลาต่อเนื่อง 10–14 วัน
จ. สำหรับการติดเชื้อในกระดูก/กระดูกอักเสบ:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 1–2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 8–12 ชั่วโมง กรณีอาการรุนแรง ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดฯทุกๆ 6–8 ชั่วโมง และใช้ยาเป็นเวลาต่อเนื่อง 4–6 สัปดาห์
ฉ. สำหรับรักษาโรคปอดบวม:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 1–2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 8–12 ชั่วโมง กรณีอาการรุนแรง ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดฯทุกๆ 6–8 ชั่วโมง และใช้ยาเป็นเวลาต่อเนื่อง 21 วัน
ช. สำหรับรักษากรวยไตอักเสบแบบเฉียบพลัน:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 1–2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 8–12 ชั่วโมง กรณีอาการรุนแรง ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดฯทุกๆ 6–8 ชั่วโมง และใช้ยาเป็นเวลาต่อเนื่อง 14 วัน
ซ. สำหรับรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาขนาด 0.5–1 กรัม เข้าหลอดเลือดดำหรือเข้ากล้ามเนื้อทุกๆ8–12 ชั่วโมง
อนึ่ง:
- เด็ก: การใช้ยานี้กับเด็กให้เป็นไปตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา หรือเป็นไปตามคำสั่งแพทย์
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาแอสทรีโอแนม ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาแอสทรีโอแนมอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
แอสทรีโอแนมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาแอสทรีโอแนมสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร : เช่น มีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเป็นตะคริว ช่องปากเป็นแผล
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ชัก มีอาการปวดศีรษะ มีอาการนอนไม่หลับ
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีภาวะผดผื่นคัน ลมพิษ มีภาวะผิวหนังร้อนแดง
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น อาจพบภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแตก เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ
- ผลต่อตับ : เช่น ตับอักเสบ ตัวเหลือง เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มขึ้น
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตต่ำ
- ผลต่อระบบสืบพันธุ์สตรี: เช่น มีภาวะช่องคลอดอักเสบ ติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอด(เชื้อราช่องคลอด)
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดกล้ามเนื้อ
- ผลต่อไต: เช่น ไตอักเสบเฉียบพลัน
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น กรณีใช้ยาพ่นอาจทำให้เกิดอาการไอ มีน้ำมูก คัดจมูก หายใจมีเสียงวี๊ด หลอดลมหดเกร็งตัว/หายใจขัด
มีข้อควรระวังการใช้แอสทรีโอแนมอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาแอสทรีโอแนม เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยาแอสทรีโอแนม หรือแพ้ยากลุ่มเพนิซิลลิน
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ นอกจากมีคำสั่งจากแพทย์
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ ตับ ไต ทำงานผิดปกติ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาแอสทรีโอแนมด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
แอสทรีโอแนมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาแอสทรีโอแนมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาแอสทรีโอแนมร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิด เช่น Ethinyl estradiol อาจทำให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดด้อยลง และเสี่ยงต่อภาวะตั้งครรภ์ตามมา ระหว่างใช้ยานี้จึงต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัยชาย
- ห้ามใช้ยาแอสทรีโอแนมร่วมกับวัคซีนอหิวาตกโรค เพราะตัวยาแอสทรีโอแนมจะทำให้ประสิทธิผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนอหิวาตกโรคล้มเหลว
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสทรีโอแนมร่วมกับ ยาDicumarol เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อภาวะเลือดออกตามมา
ควรเก็บรักษาแอสทรีโอแนมอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาแอสทรีโอแนม ดังนี้
- กรณียาชนิดสูดพ่น: ให้เก็บที่อุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส (Celsius)
- กรณียาที่เป็นผงแห้ง: ให้เก็บยาที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
- เก็บยานี้ทุกรูปแบบในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
แอสทรีโอแนมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาแอสทรีโอแนม มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Azactam (อะแซคแทม) | Bristol-Myers Squibb Company |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Atreon, Aztreo, Trezam
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Aztreonam [2018,April7]
- https://davisplus.fadavis.com/3976/meddeck/pdf/aztreonam.pdf [2018,April7]
- https://www.drugs.com/mtm/aztreonam-injection.html [2018,April7]
- https://www.drugs.com/dosage/aztreonam.html#Usual_Adult_Dose_for_Bacteremia [2018,April7]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/aztreonam/?type=brief&mtype=generic [2018,April7]