แนฟาโซลีน (Naphazoline)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 19 พฤศจิกายน 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- แนฟาโซลีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- แนฟาโซลีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- แนฟาโซลีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- แนฟาโซลีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมหยอดยาควรทำอย่างไร?
- แนฟาโซลีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้แนฟาโซลีนอย่างไร?
- แนฟาโซลีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาแนฟาโซลีนอย่างไร?
- แนฟาโซลีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ซิมพาโทมิเมติค (Sympathomimetic drug)
- ยาหยอดตา (Eye drops)
- ต้อหิน (Glaucoma)
- เอมเอโอไอ (Monoamine oxidase inhibitor: MAOI)
- ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism)
- ความดันตาสูง (Ocular hypertension)
บทนำ: คือยาอะไร?
แนฟาโซลีน (Naphazoline) คือ ยาหยอดตา ที่ทางคลินิกใช้เพื่อลดอาการคั่งของเลือดในบริเวณเยื่อตา และเพื่อช่วยลดอาการตาแดงและตาบวมจากเหตุดังกล่าว, ตัวยานี้ออกฤทธิ์ได้เร็ว, และถึงแม้จะไม่ใช่ยารับประทาน แต่ตัวยาฯก็สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดในบริเวณเยื่อตาได้, ยานี้จัดเป็นยาในกลุ่ม ซิมพาโทมิเมติค (Sympathominetic agent)
ก่อนการใช้ยาแนฟาโซลีน แพทย์จะต้องซักถามประวัติอาการป่วยว่ามีโรคเหล่านี้หรือไม่ เช่น มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง หัวใจทำงานผิดปกติ มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (เช่นโรคเบาหวาน) ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ/ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน, ด้วยตัวยาสามารถส่งผลเสียต่ออาการเจ็บป่วยดังกล่าวได้
นอกจากนี้ มีอาการโรคตาบางอย่างที่ในทางคลินิกถือเป็นข้อห้ามใช้ยาแนฟาโซลีน เช่น
- โรคต้อหิน ด้วยตัวยานี้จะทำให้เกิดความดันตาสูงมากกว่าเดิม หรือ
- การใช้ยานี้กับเด็ก (นิยามคำว่าเด็ก) อาจทำให้เกิดภาวะกดการทำงานของสมอง และอาจก่อให้เกิดภาวะโคม่าตามมา หรือทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลงอย่างผิดปกติ
การใช้ยาแนฟาโซลีน ควรเห็นประสิทธิผลภายใน 48 ชั่วโมง, หากอาการไม่ดีขึ้น *ผู้ป่วยควรต้องรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
มีข้อพึงปฏิบัติบางประการที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบในขณะที่มีการใช้ยาหยอดตายาแนฟาโซลีน เช่น
- หลีกเลี่ยงมิให้ปลายหลอดหยอดยาสัมผัสกับตาขณะทำการหยอดตา เพื่อป้องกันการปนเปื้อนต่างๆ, และหลังหยอดยา ให้ปิดปากหลอดให้สนิท, โดยไม่ต้องล้างทำความสะอาดหลอดหยอดยาแต่อย่างใด
- การหยอดยา ให้หยอดบริเวณในเปลือกตา/หนังตาด้านล่าง โดยใช้นิ้วเปิดเปลือกตาอย่างเบามือ, เมื่อหยอดยาแล้ว ให้หลับตาแล้วใช้นิ้วมือคลึงบริเวณหัวมุมตาอย่างแผ่วเบา, รอเวลาประมาณ 1 นาทีเป็นอย่างต่ำเพื่อให้ตัวยากระจายตัวไปทั่วตา
- ใช้ปริมาณยาหยอดตาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ไม่ใช้ยาหยอดตาที่มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น สีเปลี่ยน มีตะกอนเกิดขึ้น หรือมีสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นผงปนลงไป
ยาหยอดตาแนฟาโซลีน สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) เหมือนกับยาหยอดตาชนิดอื่นได้เช่นกัน เช่น รู้สึกแสบคันหลังการหยอดยา ตาพร่า มีน้ำตาไหลออกมามาก, ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการ ปวดหัว วิงเวียน หรือกระสับกระส่ายร่วมด้วย, ทั่วไปอาการข้างเคียงเหล่านี้จะเริ่มดีขึ้นเองหลังใช้ยาไปสักพักหนึ่ง *แต่ถ้ามีอาการมากขึ้น หรือเป็นกังวล ควรต้องกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ได้ตรวจพิจารณาการรักษาอีกครั้ง
อนึ่ง: สามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์ยาหยอดตาแนฟาโซลีนที่มียาชนิดอื่นผสมอยู่ในสูตรตำรับด้วย, และเพื่อความปลอดภัยต่อตาและต่อร่างกายของผู้บริโภค การใช้ยาแนฟาโซลีน จึงควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์เท่านั้น
แนฟาโซลีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาหยอดตาแนฟาโซลีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น
- ช่วยลดอาการ ตาบวม และอาการตาแดง ที่มีระดับไม่รุนแรงมากนัก โดยทำให้หลอดเลือดในตาหดตัว
แนฟาโซลีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ตัวยาแนฟาโซลีนมีกลไกการออกฤทธิ์ต่อตัวรับ(Receptor)ที่ผนังหลอดเลือดในเยื่อตาที่ ชื่อว่า ‘Alpha-adrenergic receptor’ ส่งผลให้หลอดเลือดดังกล่าวหดตัว จึงส่งผลต่อเนื่องให้ลดอาการบวม และลดอาการตาแดงของเยื่อตา, จากกลไกเหล่านี้จึงทำให้เกิดฤทธิ์ของการรักษาตามสรรพคุณ
แนฟาโซลีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาแนฟาโซลีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย: เช่น
- ยาหยอดตา ขนาดความเข้มข้น 1%
- ยาหยอดตาที่ผสมร่วมกับยาอื่น: เช่น
- Chloramphenicol 200 มิลลิกรัม+ Prednisolone Na(Sodium) phosphate 50 มิลลิกรัม+ Naphazoline HCl(Hydrochloride) 100 มิลลิกรัม/100 มิลลิลิตร
- Naphazoline HCl 0.025% + Pheniramine maleate 0.3%
- Zinc sulfate 0.02%+ Naphazoline nitrate 0.005%
แนฟาโซลีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาแนฟาโซลีนมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา: เช่น
- ผู้ใหญ่: หยดยา (ขนาดความเข้มข้น 0.1%) 1 – 2 หยด ในตาข้างที่มีอาการ บวมแดงทุกๆ 3 – 4 ชั่วโมง ตามคำสั่งแพทย์ผู้รักษา
- *เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก): ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกมาสนับสนุนความปลอดภัยของการใช้ยาหยอดตา แนฟาโซลีนในเด็ก การจะใช้ยานี้กับผู้ป่วยเด็กนั้น ต้องเพิ่มความระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆตามมา เช่น กดการทำงานของประสาทส่วนกลางหรือสมองจนอาจเกิดภาวะโคม่าโดยเฉพาะกับเด็กทารก นอกจากนี้ยังอาจทำให้อุณหภูมิของร่างกายของเด็กลดต่ำกว่าปกติอีกด้วย
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาแนฟาโซลีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาแนฟาโซลีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตรเพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมหยอดตาควรทำอย่างไร?
หากลืมหยอดตา/หยอดยาแนฟาโซลีน สามารถใช้ยานี้หยอดตาเมื่อนึกขึ้นได้, กรณีที่เวลาของการหยอดตาใกล้เคียงกับการใช้ยาในครั้งถัดไป ให้ใช้ยาแนฟาโซลีนหยอดตาตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดที่ใช้หยอดตาเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา ควรหยอดยาแนฟาโซลีนตามคำสั่งแพทย์ และตรงเวลา
แนฟาโซลีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
อาจกล่าวในภาพรวมว่า ยาหยอดตาแนฟาโซลีน สามารถกระตุ้นให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง): เช่น
- ตาพร่า รูม่านตาขยาย
- วิงเวียน
- ปวดหัว
- เหงื่อมาก
- คลื่นไส้
- กระสับกระส่าย
- อ่อนเพลีย
*สำหรับอาการของผู้ป่วยที่ใช้ยาแนฟาโซลีนเกินขนาด เช่น อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำลง/ตัวเย็นผิดปกติ ง่วงนอน ชีพจรเต้นช้า และไม่มีแรง, *หากพบอาการดังกล่าวควรต้องรีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน
มีข้อควรระวังการใช้แนฟาโซลีนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาแนฟาโซลีน: เช่น
- ห้ามใช้ยาหยอดตาแนฟาโซลีนกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก รวมถึงผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามไปซื้อยานี้มาใช้เองโดยมิได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์/แพทย์สั่งใช้
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น สีเปลี่ยนไป มีตะกอน หรือแม้แต่มี ฝุ่นผงปนลงในขวดยา
- ห้ามปรับขนาดการหยอดยาด้วยตนเอง
- ยาชนิดนี้ไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ จึงไม่สามารถนำมาใช้ฆ่าเชื้อโรคในตา หรือไม่สามารถนำมาใช้รักษาการติดเชื้อในตาได้
- แจ้งประวัติอาการป่วยหรือโรคประจำตัวต่อแพทย์ทุกครั้งที่มาตรวจรักษาตา ด้วยโรคบางประเภทต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาแนฟาโซลีน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ รวมถึงการบาดเจ็บหรือการติดเชื้อของตา
- แจ้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทุกครั้งว่ามีการใช้ยาอะไรอยู่ก่อนหน้านี้ ด้วยยาบางกลุ่มอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับแนฟาโซลีน เช่น ยากลุ่ม MAOIs
- *หากอาการ บวม แดง ของตายังไม่ดีขึ้นหลังใช้ยานี้ไปแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง ให้ผู้ป่วยรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล
- *หยุดการใช้ยานี้ทันที หากพบอาการแพ้ยา เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก ใบหน้าบวม มีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย, และ*รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน
- กรณีมีการนัดหมายกับแพทย์เพื่อดูความคืบหน้าของการรักษา ให้มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามที่นัดหมายทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาแนฟาโซลีนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
แนฟาโซลีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาแนฟาโซลีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแนฟาโซลีน ร่วมกับยากลุ่ม MAOIs ด้วยจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงตามมา
- การใช้ยาหยอดตาแนฟาโซลีน ร่วมกับยา Albuterol/Salbutamol, Selegiline , Turbutaline, อาจทำให้ หัวใจเต้นเร็ว หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงมีความดันโลหิตสูงตามมา กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยาหยอดตาแนฟาโซลีน ร่วมกับยา Ergotamine อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ลดการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ตามร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการ ชา ผิวสีซีด ปวดที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดหัวมาก ปวดท้อง ตาพร่า เจ็บหน้าอก หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันและเพื่อหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าว แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาแนฟาโซลีนอย่างไร?
ควรเก็บยาแนฟาโซลีน: เช่น
- เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 20 – 25 องศาเซลเซียส(Celsius)
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง ความร้อน และความชื้น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
แนฟาโซลีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาแนฟาโซลีน มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Levoptin Simplex (เวโวบทิน ซิมเพล็ก) | Archifar |
Naphcon-A (แนฟคอน-เอ) | Alcon |
Oculosan (โอคิวโลแซน) | Excelvision AG |
อนึ่ง: ยาชื่อการค้าอื่นของยาแนฟาโซลีนในประเทศตะวันตก เช่น AK-Con, Albalon, Allersol, Clear Eyes, Clear Eyes + Redness Relief, Naphcon, Redness Relief Eye Drops
บรรณานุกรม
- https://www.drugs.com/mtm/naphazoline-ophthalmic.html [2022,Nov19]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Naphazoline [2022,Nov19]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/search?q=naphazoline [2022,Nov19]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/naphazoline-ophthalmic-index.html?filter=2&generic_only= [2022,Nov19]