แดดจัดเสี่ยงตาย (ตอนที่ 1)

แดดจัดเสี่ยงตาย-1

      

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนที่ออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ เสี่ยงต่อการเป็นโรคลมร้อนหรือ โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) โดยผู้ที่ออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนจัด ระบบระบายอากาศไม่ดี ใส่เสื้อผ้าหนาดื่มน้ำน้อย ทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

โดยสัญญาณสำคัญของโรคนี้คือไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากการเพลียแดดทั่วไปที่จะพบมีเหงื่อออกด้วยจะกระหายน้ำมาก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียนปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด หายใจเร็วและอาจรุนแรงถึงขั้น เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว ตับและไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้ช็อก หมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งควรลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัดโดยเฉพาะช่วงเวลา 11.00–15.00 น. สวมชุดออกกำลังกายที่ระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในช่วงที่อากาศร้อนจัด และหากมีอาการที่เข้าข่ายให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที

หากต้องอยู่หรือออกกำลังกายกลางท่ามกลางสภาพอากาศร้อน ควรจิบน้ำบ่อย ๆ เพราะสามารถป้องกันภาวะขาดน้ำได้ และควรออกกำลังกายในที่ร่ม เช่น โรงยิม หรือเลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าและช่วงเย็น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ได้แก่ กลุ่มเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน โดยให้อยู่ในสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรให้ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคอ้วน ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือทำกิจกรรมที่เหนื่อยจนเกินไป

ส่วนหญิงตั้งครรภ์หากต้องเดินทางไกลควรมีผู้ดูแลร่วมเดินทางด้วยเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดและป้องกันอุบัติเหตุหากมีอาการหน้ามืด วิงเวียน หรือเป็นลม เมื่อเจออากาศที่ร้อนจัดภายนอก และไม่ควรทิ้งเด็กหรือผู้สูงอายุให้อยู่ในรถที่ปิดสนิทจอดและกลางแจ้งตามลำพังเป็นเวลานาน

และเมื่อพบเห็นผู้ที่เป็นโรคลมร้อน ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการนำตัวเข้ามาในที่ร่ม จากนั้นให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง คลายเสื้อผ้าให้หลวม แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัวและศีรษะ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด หากมีสติให้จิบน้ำ หากหมดสติให้ประเมินตามกระบวน CPR แจ้ง 1669 และนำส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยทันที

การเจ็บป่วยจากความร้อน (Heat-related illnesses) เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถลดอุณหภูมิในตัวเองได้ทันตามปกติ (ผ่านการมีเหงื่อออก) เพราะอุณภูมิของร่างกายสูงเร็วมากจนร่างกายเย็นลง (Cool down) ไม่ทัน จนทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลายได้ เช่น สมอง เป็นต้น

แหล่งข้อมูล:

  1. กรมอนามัย แนะ เลี่ยงออกกำลังกายกลางแดดนาน เสี่ยงโรคลมร้อน. http://www.anamai.moph.go.th/ewt_news.php?nid=14199 [2020, May 1].
  2. Heat Illness. https://medlineplus.gov/heatillness.html[2020, May 1].
  3. About Extreme Heat. https://www.cdc.gov/disasters/extremeheat/heat_guide.html[2020, May 1].