แดคติโนมัยซิน (Dactinomycin/Actinomycin-D)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 6 มีนาคม 2562
- Tweet
- บทนำ
- แดคติโนมัยซินมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- แดคติโนมัยซินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- แดคติโนมัยซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- แดคติโนมัยซินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไรขณะได้รับแดคติโนมัยซิน?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
- แดคติโนมัยซินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้แดคติโนมัยซินอย่างไร?
- แดคติโนมัยซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาแดคติโนมัยซินอย่างไร?
- แดคติโนมัยซินมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- มะเร็ง (Cancer)
- เนื้องอก (Tumor)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- การฉายรังสีรักษา เทคนิคการฉายรังสี (External irradiation)
- สะตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson syndrome)
บทนำ
ยาแดคติโนมัยซิน(Dactinomycin) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ แอคติโนมัยซิน-ดี(Actinomycin D) เป็นยาปฏิชีวนะที่สกัดได้จากเชื้อแบคทีเรีย Streptomyces parvullus ทางการแพทย์นำมาใช้เป็นยาเคมีบำบัด เพื่อรักษามะเร็ง/ เนื้องอกได้หลายชนิด อาทิ Wilms’ tumor, Ewing’s sarcoma, Rhabdomyosarcoma, Soft tissue sarcoma, Osteosarcoma, Testicular tumorsระยะแพร่กระจาย เป็นต้น
กลไกการออกฤทธิ์ของยาแดคติโนมัยซิน จะเป็นการยับยั้งการถอดรหัสพันธุกรรมในเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งหยุดการเจริญเติบโต แต่ทางกลับกัน ยาแดคติโนมัยซิน ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อระบบการทำงานของอวัยวะสำคัญๆของร่างกาย เช่น ไต ตับ และไขกระดูก จึงถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์ และสตรีในภาวะให้นมบุตร
รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาแดคติโนมัยซิน เป็นแบบยาฉีดที่ต้องให้ยาทางหลอดเลือดดำเท่านั้น การแทงเข็มฉีดยาผิดพลาดจนทะลุหลอดเลือดจะส่งผลให้ตัวยยา แดคติโนมัยซินเข้าทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆหลอดเลือดฯที่สัมผัสยานี้ ดังนั้นหลังแทงเข็มฉีดยาเข้าหลอดเลือดแล้วเกิดอาการ ปวด บวม แดง ของผิวหนังบริวณให้ยาฯ จะต้องหยุดการให้ยานี้โดยเร็ว และบำบัดอาการดังกล่าวทันที
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาแดคติโนมัยซิน มักจะเกิดหลังการหยุดให้ยานี้ไปแล้ว 2–4 วัน และอาจทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อให้ยาในครั้งถัดไป อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียง/ผลข้างเคียงดังกล่าวจะหายและผู้ป่วยมะเร็งจะมีอาการกลับมาปกติเมื่อหยุดการใช้ยานี้
เราจะพบเห็นการใช้ยาแดคติโนมัยซินทั้งในและนอกประเทศ ภายใต้ยาชื่อการค้าว่า ‘Cosmegen’
องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ยาชนิดนี้เป็นยาจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับใช้บำบัด รักษาผู้ป่วยมะเร็งชนิดต่างๆตามสรรพคุณที่ได้ระบุไว้ในหัวข้อถัดไป
แดคติโนมัยซินมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร ?
ยาแดคติโนมัยซิน เป็นยาเคมีบำบัดกลุ่มยาปฏิชีวนะ ที่ใช้รักษามะเร็งและเนื้องอกได้หลายชนิด เช่น
- โรคมะเร็งวิมส์/เนื้องอกวิมส์/ มะเร็งไตในเด็ก (Wilms’ tumor)
- โรคมะเร็งกล้ามเนื้อลายในวัยเด็ก (Childhood rhabdomyosarcoma)
- โรคมะเร็งรังไข่ (Ovarian cancer)
- มะเร็งไข่ปลาอุก (Gestational trophoblastic neoplasm)
- มะเร็งกระดูกชนิด Ewing’s sarcoma
- มะเร็งอัณฑะระยะแพร่กระจาย (Matastatic testicular tumors)
- มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน/ มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน (Soft tissue sarcoma)
- มะเร็งกระดูก ชนิด Osteosarcoma
แดคติโนมัยซินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาแดคติโนมัยซินคือ ตัวยาจะเข้าจับกับสารพันธุกรรม (DNA) ของเซลล์มะเร็งตรงบริเวณไนโตรเจนเบสที่มีชื่อเรียกว่า กัวนีนหรือกวานิน (Guanine portion) แล้วเกิดเป็นสารประกอบเชิงซ้อนขึ้นมา จากเหตุการณ์นี้ ส่งผลให้เซลล์มะเร็งหมดสภาพในการถอดรหัสทางพันธุกรรม ทำให้ไม่สามารถจำลองสารพันธุกรรมรุ่นใหม่ขึ้นมาได้ เกิดการชะลอ/หยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในที่สุด
แดคติโนมัยซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
แดคติโนมัยซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็น
- ยาฉีด แบบผงแห้งปราศจากเชื้อที่ประกอบด้วย Dactinomycin 0.5 มิลลิกรัม หรือ 500 ไมโครกรัม/ขวด(Vial)
แดคติโนมัยซินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
การใช้ยาแดคติโนมัยซินรักษาผู้ป่วยมะเร็ง จะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ปัจจัยที่แพทย์นำมาใช้คำนวณขนาดการใช้ยา ได้แก่ น้ำหนักตัวของร่างกายผู้ป่วย รวมถึงอายุ และประวัติการเจ็บป่วยหรือโรคประจำตัวต่างๆ ผู้ป่วยอาจต้องมารับการฉีดยาต่อเนื่อง 5 วัน และเว้นช่วง 2 สัปดาห์ จากนั้แพทย์จะนัดมารับยาในรอบใหม่
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ได้รับยาแดคติโนมัยซิน แล้วพบอาการดังต่อไปนี้ ต้องรีบนำผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็วหรือฉุกเฉิน ขึ้นกับความรุนแรงของอาการ เช่น
- มีไข้สูง 38 องศาเซลเซียส(Celsius)
- เป็นไข้หนาวสั่น
- คลื่นไส้ทุกครั้งที่มีการรับประทานอาหาร
- อาเจียน 4-5 ครั้งต่อวัน
- ท้องเสีย 4-6 ครั้ง ภายใน 24 ชั่วโมง
- ไม่มีแรง หรือ อ่อนเพลีย อย่างรุนแรง
- เกิดแผลในช่องปากและคอ
- มีภาวะเลือดออกง่ายตามร่างกาย
- เกิดผื่นคันอย่างรุนแรงตามผิวหนัง หรือมีภาวะผิวหนังลอก
- ตัวเหลือง-ตาเหลือง
- อุจจาระมีสีเข้มดำ หรือมีเลือดปนมากับอุจจาระ/อุจจาระเป็นเลือด
- เจ็บ/ปวด มีผื่นแดง รอยบวม ในบริเวณที่ได้รับการฉีดยานี้
ดูแลตนเองอย่างไรขณะได้รับแดคติโนมัยซิน?
การดูแลตนเองขณะได้รับยาแดคติโนมัยซิน เช่น
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน
- ล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค โดยเฉพาะ ก่อนกินอาหาร และหลังใช้ห้องน้ำ
- หากมีอาการคลื่นไส้เมื่อจะรับประทานอาหาร ให้ใช้ยาแก้คลื่นไส้ ตามที่แพทย์สั่งจ่ายเท่านั้น ห้ามซื้อยาอื่นใดมาใช้ด้วยตนเอง ผู้ป่วยสามารถปรับการรับประทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยครั้งขึ้น เพื่อลดอาการคลื่นไส้ดังกล่าว
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีผู้คนแออัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคต่างๆ
- หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมหนักที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเป็น แผลเลือดออก
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
- พักผ่อนให้เต็มที่ และรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วนตามที่ แพทย์ พยาบาล แนะนำ
- เพื่อป้องกันการเกิดแผลในปาก ให้ใช้แปรงสีฟันชนิดขนอ่อนในการแปรงฟัน
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิด รวมยาแดคติโนมัยซิน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น อีสุกอีใส งูสวัด รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาแดคติโนมัยซินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิด ปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรมารับการให้ยาแดคติโนมัยซินตรงตามเวลาที่แพทย์นัดหมาย หากลืมมารับการฉีดยาต้องแจ้งให้ แพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยว ข้องทราบ และทำการนัดหมายการให้ยาครั้งต่อไปโดยเร็ว
แดคติโนมัยซินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาแดคติโนมัยซิน อาจก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น
- ผลต่อตับ: เช่น เป็นพิษกับตับ
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น เกิดแผลในระบบทางเดินอาหาร (เช่น แผลในกระเพาะอาหาร) ช่องปากเป็นแผล ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน
- ผลต่อหัวใจ: เช่น บวมตามร่างกาย
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีผื่นแดง เกิดสิว ผมร่วง ผิวลอก ผื่นแพ้แสงแดด และกลุ่มอาการ Stevens-Johnson syndrome
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เม็ดเลือดแดงต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เกลือแคลเซียมในเลือดต่ำ
- ผลต่อไต: เช่น ไตทำงานผิดปกติ
*อนึ่ง อาการข้างเคียงดังกล่าว อาจเกิดขึ้น และมีความรุนแรงมากน้อยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ การตอบสนองของร่างกายของแต่ละบุคคล และอาการข้างเคียงเหล่านี้ที่ไม่รุนแรงจะหายไปเองหลังจากหยุดการให้ยานี้ แต่ถ้าอาการรุนแรง ควรรีบด่วนกลับไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล
มีข้อควรระวังการใช้แดคติโนมัยซินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้แดคติโนมัยซิน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชนิดนี้/ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วย โรคอีสุกอีใส หรือโรคงูสวัด เพราะตัวยาจะกระตุ้นให้อาการของโรคดังกล่าวทวีความรุนแรงมากขึ้นจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต
- การใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และ ผู้สูงอายุ ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น
- หลังจากได้รับยาชนิดนี้ หากพบอาการ อึดอัด/หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก มีผื่นคันขึ้นเต็มตัว ให้ตั้งสมมุติฐานว่าเกิดอาการแพ้ยา และต้องให้แพทย์ช่วยเหลือ/ไปโรงพยาบาลโดยเร็ว/ฉุกเฉิน
- มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภาวะแทรกซ้อนและรับการฉีดยาตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาแดคติโนมัยซินด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุก ชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่องข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
แดคติโนมัยซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาแดคติโนมัยซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาแดคติโนมัยซินร่วมกับ การทำรังสีรักษา เพราะจะทำให้เกิดพิษต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น
- ห้ามฉีดวัคซีนชนิดมีชีวิตเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายขณะที่ผู้ป่วยยังได้รับยาแดคติโนมัยซิน ด้วยจะทำให้ฤทธิ์การทำงานของวัคซีนด้อยประสิทธิภาพลง
- ห้ามใช้ยาแดคติโนมัยซินร่วมกับ ยา Adalimumab, Certolizumab, Leflunomide, เพราะเสี่ยงทำให้ร่างกายมีภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรงตามมา
- ห้ามใช้ยาแดคติโนมัยซินร่วมกับ ยาClozapine ด้วยจะเกิดภาวะกดการทำงาน ของไขกระดูกจนเป็นเหตุให้เม็ดเลือดขาวต่ำอย่างรุนแรง
ควรเก็บรักษาแดคติโนมัยซินอย่างไร?
ควรเก็บรักษาแดคติโนมัยซิน เช่น
- เก็บรักษายาภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส(Celsius)
- ห้ามเก็บในช่องแช่แข็งตู้เย็น
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- ไม่เก็บยาที่หมดอายุแล้ว
- ห้ามทิ้งยาลงในแม่น้ำลำคลองหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
แดคติโนมัยซินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
แดคติโนมัยซิน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Cosmegen (คอสมีเจน) | Almac Pharma |
บรรณานุกรม
- http://chemocare.com/chemotherapy/drug-info/dactinomycin.aspx [2019,Feb16]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Dactinomycin#Mechanism[2019,Feb16]
- https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2009/050682s025lbl.pdf[2019,Feb16]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/dactinomycin/?type=brief&mtype=generic [2019,Feb16]
- http://www.mhra.gov.uk/home/groups/spcpil/documents/spcpil/con1494570017851.pdf[2019,Feb16]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/dactinomycin-index.html?filter=3 [2019,Feb16]