เอ็นเอ็นอาร์ทีไอ (NNRTIs: Non-nucleoside reverse-transcriptase inhibitors)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 1 ตุลาคม 2564
- Tweet
- บทนำ : คือยาอะไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไออย่างไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไออย่างไร?
- ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- เอดส์ (AIDS)
- เอชไอวี: โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV: HIV infection)
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กามโรค (STD: Sexually transmitted disease)
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- ยาต้านไวรัส (Antiviral drugs)
- ยาต้านรีโทรไวรัส (Antiretroviral Agent)
- ถุงยางอนามัยชาย (Male Condom)
บทนำ : คือยาอะไร?
ยาต้านไวรัสกลุ่มเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ (NNRTIs: Non-nucleoside reverse-transcriptase inhibitors) คือ กลุ่มยารับประทานหนึ่งหมวดที่ถูกนำมารักษาโรคเอดส์/เอชไอวี มีการพัฒนายา กลุ่มนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ.2523) และถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ.2552) เป็นจำนวน 4 รายการ และมักใช้ร่วมกับยาต้านเอชไอวีตัวอื่นด้วยเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถพัฒนาตัวเองให้ทนต่อยาที่นำมาใช้รักษาได้มากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นที่ทราบกันดีว่า ไวรัสเอชไอวีแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ เอชไอวี 1 และ เอชไอวี 2, ชนิดที่แพร่ระบาดมากที่สุดคือเอชไอวี 1, ในขณะที่ชนิดเอชไอวี 2 จะแพร่ระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตก, จากการเก็บสถิติตัวเลขจำนวนผู้ป่วยพบว่า ในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) มีผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์ทั่วโลกถึงประมาณ 40 ล้านคน
ยาต้านไวรัสกลุ่มเอ็นเอ็นอาร์ทีไอที่นำมาบำบัดอาการป่วย ไม่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ เพียงแต่ทำให้อาการป่วยทุเลา และยืดระยะเวลาการมีชีวิตได้ยาวนานขึ้น ส่วนใหญ่ยาต้านเอชไอวี/เอดส์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมามีวัตถุประสงค์ของการบำบัดอาการป่วยจากไวรัสกลุ่มเอชไอวี 1 ซึ่งรวมถึงยากลุ่มเอ็นเอ็นอาร์ทีไอนี้ และกลุ่มเอ็นอาร์ทีไอ (NRTIs: Nucleoside reverse transcriptase) ด้วย
สำหรับยาต้านไวรัสกลุ่มเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ ประกอบด้วยตัวยาต่างๆ เช่นยา Efavirenz, Nevirapine, Delavirdine, Etravirine, Rilpivirine
ยาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ส่วนใหญ่ที่รวมถึงยาเอ็นเอ็นอาร์ทีไอขึ้นทะเบียนในหมวด ยาควบคุมพิเศษ ผู้ป่วยไม่สามารถหาซื้อได้เองตามร้านขายยาทั่วไป การรับยาต้องผ่านทางสถานพยาบาลที่ลงชื่อรักษาไว้ และต้องมีใบสั่งจากแพทย์ประกอบในการรับยากลับบ้าน
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น
- บรรเทาอาการป่วยด้วยโรคเอดส์/ เอชไอวี
- ป้องกันการติดเชื้อเอดส์/เอชไอวีหลังการสัมผัสเลือดของผู้ป่วย
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ มีกลไกการออกฤทธ์ โดยตัวยาจะเข้าไปทำให้กระบวนการจำลองของสารพันธุกรรมชนิด อาร์เอ็นเอ (RNA) ในตัวไวรัสสูญเสียความสามารถในการเปลี่ยนไปเป็นสารพันธุกรรมชนิด ดีเอ็นเอ (DNA) ด้วยกลไกนี้จึงทำให้การแพร่พันธุ์ของไวรัสเอดส์ชะลอตัวลง และทำให้อาการของผู้ป่วยบรรเทาและดีขึ้น
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาน้ำขนาด 10 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
- ยาเม็ดขนาด 25, 50, 100, 200 และ 600 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาเม็ดชนิดผสมตัวยาต้านไวรัสมากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีหลายชนิด ในที่นี้ขอยกตัวอย่างเฉพาะชนิดยาที่ใช้บ่อยซึ่งมีขนาดรับประทาน เช่น
1. Efavirenz: เช่น
ก. ผู้ใหญ่และเด็กที่มีน้ำหนักตัว 40 กิโลกรัมขึ้นไป: เช่น รับประทานวันละ 600 มิลลิกรัมวันละ1 ครั้ง
ข. เด็กอายุ 3 - 17 ปี: เช่น
- น้ำหนักตัว 32.5 - 40 กิโลกรัม: รับประทาน 400 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
- น้ำหนักตัว 25 - 32.5 กิโลกรัม: รับประทาน 350 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
- น้ำหนักตัว 20 - 25 กิโลกรัม: รับประทาน 300 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
- น้ำหนักตัว 15 - 20 กิโลกรัม: รับประทาน 250 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
- น้ำหนักตัว 13 - 15 กิโลกรัม: รับประทาน 200 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
อนึ่ง:
- ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่เพียงพอในการใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี การใช้ยานี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
- สามารถรับประทานยานี้ ก่อน หรือ พร้อมอาหารก็ได้ และ
- มักใช้ยานี้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอดส์ตัวอื่น
2. Nevirapine: เช่น
- ผู้ใหญ่: เช่น รับประทาน 200 มิลลิกรัมวันละครั้งเป็นเวลา 14 วัน แล้วแพทย์อาจปรับเป็น 200 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น
- เด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป: เช่น รับประทาน 4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมวันละครั้งเป็นเวลา 14 วัน แล้วแพทย์อาจปรับเป็น 4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น
- เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี: ขนาดยาขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
อนึ่ง:
- สามารถรับประทานยานี้ ก่อน หรือ พร้อมอาหารก็ได้ และ
- มักใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอดส์ ตัวอื่น
3. Etravirine: เช่น
- ผู้ใหญ่: เช่น รับประทาน 200 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น สามารถรับประทานยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ มักใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอดส์ตัวอื่น
- เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): ขนาดยาขึ้นกับอายุและน้ำหนักตัวของเด็กรวมทั้งดุลพินิจของแพทย์
อนึ่ง:
- ควรรับประทานยานี้หลังอาหาร
4. Rilpivirine: เช่น
- ผู้ใหญ่: เช่น รับประทาน 25 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
- เด็ก: การใช้ยานี้ในเด็กยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย
อนึ่ง:
- ควรรับประทานยานี้ พร้อมอาหาร เพื่อช่วยการดูดซึมยาที่ดีขึ้น
- ยานี้ใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอดส์ตัวอื่น
5. Delavirdine: เช่น
- ผู้ใหญ่: เช่น รับประทาน 400 มิลลิกรัมวันละ 3 ครั้ง
- เด็ก: การใช้ยานี้ในเด็กยังอยู่ในการศึกษาวิจัย
อนึ่ง:
- สามารถรับประทานยานี้ พร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร ก็ได้
- ยานี้ใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ตัวอื่น
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก / หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไออาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/ มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
อนึ่ง ในผู้ป่วยแต่ละราย แพทย์อาจแนะนำวิธีรับประทานเมื่อลืมรับประทานยาต่างกันได้ขึ้น กับอาการของโรค ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าไว้ก่อนว่า ควรทำอย่างไรเมื่อลืมรับประทานยา
อย่างไรก็ตาม การลืมรับประทานยานี้บ่อยๆหลายครั้ง ย่อมส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโดยตรงและ อาจทำให้อาการโรคลุกลามมากยิ่งขึ้น
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอสามารถทำให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ผื่นคัน
- เป็นพิษกับตับ/ตับอักเสบ (ซึ่งหากพบอาการตับทำงานผิดปกติต้องหยุดใช้ยา)
- มีไข้
- คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องเสีย
- ค่าไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ และคอเรสเตอรอลในเลือดสูง
- ปวดท้อง
- ปวดหัว
- ไตวาย
- โลหิตจาง/ โรคซีด
- เบื่ออาหาร
- ซึมเศร้า หงุดหงิด
- นอนไม่หลับ
- วิงเวียน
- อ่อนเพลีย
มีข้อควรระวังการใช้ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไออย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาในกลุ่มยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ
- ห้ามใช้ยา Efavirenz ร่วมกับยาต่อไปนี้ เช่นยา Terfenadine (ยาแก้แพ้), Astemizole (ยาแก้แพ้), Cisapride (ยาโรคกระเพาะอาหาร), Midazolam (ยาให้นำเพื่อให้ง่วงนอนก่อนการให้ยาสลบ), Triazolam (ยานอนหลับ), Pimozide (ยาจิตเวช), Bepridil ( ยาโรคหัวใจ), และ Voriconazole (ยาต้านเชื้อรา)
- พบแพทย์เพื่อตรวจสภาพร่างกายหลังการใช้ยานี้ตามแพทย์นัดหมายอย่างเคร่งครัด
- ปกติทั่วไป หญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรจะถูกห้ามการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา เพื่อป้องกันการส่งผ่านเชื้อไวรัสเอดส์จากน้ำนมมารดา แนะนำให้เลี้ยงบุตรด้วยผลิตภัณฑ์นมที่มีจำหน่ายตามเกณฑ์มาตรฐานของอายุทารก ดังนั้นการใช้ยานี้ในหญิงให้นมบุตรจะขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วย โรคไต โรคตับ หญิงตั้งครรภ์ และเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)
- หลังรับประทานยานี้แล้ว มีอาการคล้ายกับการแพ้ยาเกิดขึ้น ให้หยุดใช้ยาแล้วรีบไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพื่อแพทย์ปรับเปลี่ยนการรักษาที่เหมาะสม
- ควรรับประทานยานี้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เปลี่ยนแปลงขนาดรับประทานหรือหยุดการใช้ยาเองโดยไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบัน ทุกชนิด (รวมยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานใน การใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่น กัน
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ Nevirapine ร่วมกับ ยาแก้ปวด เช่นยา Methadone อาจทำให้ฤทธิ์ของการรักษาจากยาMethadone ด้อยลงไป หากมีไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยา Etravirine ร่วมกับยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่นยา Amiodarone สามารถลดความเข้มข้นของยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจกระทบต่อประสิทธิภาพของการรักษา ควรปรับการรับประทานของผู้ป่วยให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
- การใช้ยา Etravirine ร่วมกับยารักษาโรคลมชัก/ ยากันชักยาต้านชัก เช่นยา Carbamazepine, Phenobarbital, และ Phenytoin สามารถลดความเข้มข้นของยา Etravirine ในกระแสเลือด หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยา Efavirenz ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจทำให้เกิดผลเสียต่อตับและสมอง จึงห้ามการรับประทานร่วมกันโดยเด็ดขาด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา Delavirdine พร้อมยาลดกรด ควรรับประทานห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
ควรเก็บรักษายาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไออย่างไร?
สามารถเก็บยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ: เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาต้านไวรัสเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Estiva-600 (เอสทิวา-600) | Hetero |
Stocrin (สะโตคริน) | MSD |
Neravir (เนราเวียร์) | GPO |
Nevirapine Mylan (เนวิราพีน มายแลน) | Mylan |
Intelence (อินเทเลนซ์) | Janssen-Cilag |
Edurant (เอดูแรนท์) | Janssen-Cilag |
Viramune (วีรามูน) | Boehringer Ingelheim |
GPO-Vir Z250 (จีพีโอ-เวียร์ ซีท250) | GPO |
GPO-Vir S30 (จีพีโอ-เวียร์ เอส30) | GPO |
Atripla (อะทริพลา) | Gilead |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Discovery_and_development_of_non-nucleoside_reverse-transcriptase_inhibitors [2021,Sept25]
- https://www.poz.com/drugs/classes/Non-Nucleoside-Reverse-Transcriptase-Inhibitors?utm_campaign=301_Redirect&utm_source=aidsmeds [2021,Sept25]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Reverse-transcriptase_inhibitor [2021,Sept25]
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2745993/ [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Stocrin/?type=brief [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Estiva-600/?type=brief [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Neravir/?type=brief [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Intelence/?type=brief [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Edurant/?type=brief [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Nevirapine%20Mylan/?type=brief [2021,Sept25]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/intelence [2021,Sept25]
- https://www.webmd.com/drugs/2/drug-1088/rescriptor-oral/details [2021,Sept25]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Delavirdine [2021,Sept25]