เอเวอโรลิมัส (Everolimus)
- โดย ภก.วิชญ์ภัทร ธรานนท์
- 11 กุมภาพันธ์ 2559
- Tweet
- บทนำ
- ยาเอเวอโรลิมัสมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาเอเวอโรลิมัสมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาเอเวอโรลิมัสมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาเอเวอโรลิมัสมีขนาดรับประทานหรือวิธีใช้ยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาเอเวอโรลิมัสมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาเอเวอโรลิมัสอย่างไร?
- ยาเอเวอโรลิมัสมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาเอเวอโรลิมัสอย่างไร?
- ยาเอเวอโรลิมัสมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- เนื้องอก (Tumor)
- มะเร็ง (Cancer)
- การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ (Heart transplantation)
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- ยาต้านไวรัสพีไอ (PIs: Protease inhibitors)
- แองจิโออีดีมา (Angioedema)
บทนำ
ยาเอเวอโรลิมัส (Everolimus) หรือยาชื่อการค้าในประเทศไทยว่า เซอร์ติแคน (Certican) เป็นยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค/ภูมิต้านทานชนิดรับประทาน ยานี้ใช้เพื่อป้องกันปฏิกิริยาไม่ยอม รับอวัยวะที่เปลี่ยนถ่ายในผู้ป่วยที่เปลี่ยนไต ตับ หรือหัวใจ โดยสูตรยากดภูมิต้านทานที่ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะได้รับมักจะเป็นยากดภูมิต้านทาน 3 ชนิดเช่น เอเวอโรลิมัส, ไซโคลสปอริน (Cyclosporine) และยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ในกรณีปลูกถ่ายไตหรือปลูกถ่ายหัวใจ
นอกจากนี้ยาเอเวอโรลิมัสยังมียาชื่อการค้าอีกชื่อหนึ่งคือ อะฟินิทอร์ (Afinitor) เป็นยาเม็ดชนิดรับประทานซึ่งมีขนาดยาสูงกว่าขนาดยาเซอร์ติแคน โดยมีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคมะเร็งหลาย ชนิดเช่น มะเร็งเต้านม (Breast cancer), มะเร็งตับอ่อนชนิด Pancreatic neuroendocrine tumors (PNET), เนื้องอกที่ไตชนิด Renal angiomyolipoma, มะเร็งไต (Renal Cell Carcinoma, RCC), โรคเนื้องอกสมองชนิด Subependymal giant cell astrocytoma (SEGA), มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิด Carcinoid tumor
การใช้ยาเอเวอโรลิมัสควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น โดยยาทั้งสองชื่อการค้าดังกล่าวมีข้อบ่งใช้ของยาแตกต่างกัน ดังนั้นผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ยาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยามีผลกดภูมิต้านทานอาจทำให้เพิ่มโอกาสของการติดเชื้อโรคต่างๆได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับยาเอเวอโรลิมัสชนิดยาเดี่ยวหรือได้รับร่วมกับยากดภูมิต้านทานชนิดอื่นๆอยู่ พึงระมัดระวังการติดเชื้อต่างๆเสมอ อีกทั้งเพื่อให้ระดับยากดภูมิต้านทานในร่างกายอยู่ในช่วงการรักษาและคงที่ ผู้ป่วยควรรับประทานยากดภูมิต้านทานตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ และติดตามการรักษาตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
ยาเอเวอโรลิมัสมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาเอเวอโรลิมัสมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้สำหรับ
- ใช้ป้องกันปฏิกิริยาที่ร่างกายปฏิเสธอวัยวะที่ปลูกถ่าย (Organ rejection) เช่น ตับ ไต หรือ หัวใจ โดยใช้ร่วมกับยากดภูมิต้านทานชนิดอื่นๆอีก 2 ชนิดเช่น ไซโคลสปอริน (Cyclosporine) หรือยาทาโครลิมัส (Tacrolimus) และยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) และ
- ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งหลายชนิดเช่น มะเร็งเต้านม, มะเร็งตับอ่อนชนิด Pancreatic neuroendocrine tumors (PNET), เนื้องอกที่ไตชนิด Renal angiomyolipoma, มะเร็งไต, โรคเนื้องอกสมองชนิด Subependymal giant cell astrocytoma (SEGA), มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิด Carcinoid tumor
ยาเอเวอโรลิมัสมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาเอเวอโรลิมัสคือ ตัวยาจะยับยั้งการเติบโตของเซลล์โดยการหยุดการส่งสัญญาณการเจริญเติบโตของเซลล์ ทำให้เซลล์หยุดการเจริญเติบโตซึ่งให้ผลลัพธ์คือการป้องกันการปฏิเสธอวัยวะ (Organ rejection) ที่ได้รับการปลูกถ่ายและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ยาเอเวอโรลิมัสมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
รูปแบบที่มีจำหน่ายของยาเอเวอโรลิมัสในประเทศไทยมีรูปแบบทางเภสัชภัณฑ์คือ ยาเม็ดสำหรับรับประทานมี 2 ยาชื่อการค้าได้แก่
- เซอร์ติแคน (Certican) มีขนาดยาดังนี้ 0.25, 0.5, 0.75 และ 1 มิลลิกรัม และ
- อะฟินิทอร์ (Afinitor) มีขนาดยา 5 และ 10 มิลลิกรัม
ยาเอเวอโรลิมัสมีขนาดรับประทานหรือวิธีใช้ยาอย่างไร?
ยาเอเวอโรลิมัสเป็นยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค/ภูมิต้านทานชนิดรับประทาน มีข้อบ่งใช้สำหรับ
- ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อป้องกันการปฏิเสธอวัยวะที่ปลูกถ่าย
- รวมถึงเป็นยารักษาโรคมะเร็งหลายชนิดเช่น มะเร็งเต้านม, มะเร็งตับอ่อนชนิด Pancreatic neuro endocrine tumors (PNET), เนื้องอกที่ไตชนิด Renal angiomyolipoma, มะเร็งไต, โรคเนื้องอกสมองชนิด Subependymal giant cell astrocytoma (SEGA), มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิด Carcinoid tumor
ขนาดยาเอเวอโรลิมัสที่ใช้ขึ้นกับข้อบ่งใช้ยาโดยแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้กำหนดขนาดยาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยควรรับประทานยาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและตรงตามเวลา ห้ามผู้ป่วยปรับวิธีการรับประทานยานี้เอง ในผู้ป่วยบางรายอาจได้รับการตรวจวัดระดับยานี้ในเลือดเพื่อแพทย์ปรับขนาดยาให้เหมาะสม
วิธีการรับประทานยาเอเวอโรลิมัส ผู้ป่วยควรรับประทานยานี้ในเวลาเดิมทุกวันเพื่อให้ระดับยาในกระแสเลือดคงที่ การรับประทานยานี้สามารถรับประทานยาช่วงก่อนอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ ดังนั้นหากท่านกำลังใช้ยานี้อยู่ควรรับประทานยาให้ตรงตามที่แพทย์สั่ง ไม่เพิ่มลดหรือปรับขนาดยาด้วยตนเองโดยเด็ดขาด หากท่านมีอาการไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/ผลไม่พึงประสงค์)จากยานี้ที่รุนแรงหรือมีอาการผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเกิดขึ้นในช่วงที่ได้รับยานี้อยู่ ท่านควรต้องรีบไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนกำหนดเสมอเพื่อรับการตรวจรักษาอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาเอเวอโรลิมัส ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยา/แพ้อาหาร/แพ้สารเคมีทุกชนิด
- มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาเอเวอโรลิมัสอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่กินร่วมกัน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาเอเวอโรลิมัสมีผลพิษต่อทารกในครรภ์ซึ่งอาจทำให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดขึ้นได้ อีกทั้งหากอยู่ในช่วงให้นมบุตรแนะนำให้หลีกเลี่ยงการให้นมบุตร เพราะยานี้ถูกขับออกทางน้ำนมอาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงแก่บุตร
- ผู้ป่วยควรจำชื่อยากดภูมิต้านทานพร้อมขนาดยาที่รับประทานอยู่ให้ได้ทุกตัวหรือจดบันทึกไว้ หากมีการเปลี่ยนแปลงขนาดยาหรือวิธีการรับประทานยาควรจดบันทึกไว้ทุกครั้ง
- ผู้ป่วยที่กำลังรับการรักษาด้วยยากดภูมิต้านทานควรแจ้งแพทย์/เภสัชกรทุกครั้งก่อนจะรับประทานยาชนิดอื่นๆร่วมด้วย และไม่ควรซื้อยาต่างๆหรือสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงวิตามินมารับประทานเอง เนื่องจากยากดภูมิต้านทานสามารถเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากดภูมิต้านทานกับยาชนิดอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพร ฯลฯ ได้ซึ่งอาจส่งผลเพิ่มหรือลดระดับยากดภูมิต้านทานในร่างกาย
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
กรณีลืมรับประทานยาเอเวอโรลิมัส โดยทั่วไปสำหรับการป้องกันการปฏิเสธอวัยวะ ยาเอเวอโรลิมัสมีวิธีการรับประทานยาวันละ 2 ครั้งต่อวัน ซึ่งหากผู้ป่วยลืมรับประทานยานี้ให้รับประทานยานี้ทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้กับเวลาที่ต้องรับประทานยามื้อถัดไป (เกินกว่าครึ่งหนึ่งของระยะห่างระ หว่างมื้อคือเกิน 6 ชั่วโมงจากเวลารับประทานยาปกติ) ให้ข้ามมื้อยาที่ลืมไป รอรับประทานยามื้อถัด ไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่าเช่น ปกติรับประทานยาวันละ 2 ครั้งเวลา 7.00 น. และ 19.00 น. หากผู้ป่วยนึกขึ้นได้ว่าลืมรับประทานยามื้อ 7.00 น. ตอนเวลา 10.00 น. ก็ให้รับประทานยามื้อ 7.00 น. ทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากนึกขึ้นได้ในช่วงที่ใกล้กับช่วงเวลาของยามื้อถัดไป (หมายถึงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของช่วงห่างจากเวลารับประทานยาปกติถึงมื้อถัดไป) เช่นนึกขึ้นได้ว่าลืมรับประทานยามื้อ 7.00 น. ตอนเวลา 16.00 น. ให้รอรับประทานยามื้อถัดไปคือเวลา 19.00 น. ในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องนำยามื้อที่ลืมรับประทานมารับประทานเพิ่ม
กรณีอาเจียนยาออกมา ถ้ามีอาการคลื่นไส้และอาเจียนหลังรับประทานยานี้ หากผู้ป่วยเห็นเม็ดยาออกมาควรเว้นระยะสักครู่รอให้อาการคลื่นไส้หรืออาเจียนดีขึ้นจึงรับประทานยาใหม่ แต่หากผู้ป่วยไม่แน่ใจว่ามียาออกมาพร้อมกับอาเจียนหรือไม่ไม่ควรรับประทานยาซ้ำเพิ่มโดยเด็ดขาด
กรณีผู้ป่วยต้องเดินทางไกลควรเตรียมยาติดตัวไปเพียงพอตลอดการเดินทาง หากเดินทางไปต่างประเทศควรรับประทานยาตามเวลาของประเทศไทย แต่หากต้องปรับเวลารับประทานยาตามประเทศที่ไปพักอาศัย พิจารณาปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทาง อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไกลในช่วง 6 เดือนแรกของการปลูกถ่ายอวัยวะหากไม่จำเป็น และควรได้รับอนุญาตจากแพทย์ผู้รักษาก่อน
กรณีในการรักษาโรคมะเร็งควรรับประทานยาเอเวอโรลิมัสให้ตรงเวลาเช่นกัน และควรสอบถามแพทย์ผู้รักษาไว้ล่วงหน้าว่า ในกรณีลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร เพราะจะแตกต่างกันในแต่ละโรคมะเร็งและแต่ละสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน
ยาเอเวอโรลิมัสมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ผล/อาการไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง) ของยาเอเวอโรลิมัสที่พบได้บ่อยเช่น ปวดท้อง ท้อง เสียหรือท้องผูก ความดันโลหิตสูง คลื่นไส้อาเจียน มีแผลในปาก และอาจมีผลต่อการหายของแผล /แผลหายช้า เม็ดเลือดขาวต่ำซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อได้ง่ายทั้งเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ภาวะ/โรคไขมันในเลือดสูงทั้งค่าคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
หากท่านกำลังใช้ยาเอเวอโรลิมัสอยู่หรือกำลังรับประทานยากดภูมิต้านทานอยู่และเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังต่อไปนี้เช่น มีไข้สูง, ปวดศีรษะรุนแรง, รู้สึกหอบเหนื่อย, หายใจไม่ปกติ, อาเจียนอย่างหนัก, ปวดท้องอย่างรุนแรง, ท้องเสียหรือถ่ายท้องอย่างมากจนอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงและมีภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ (อาการที่สังเกตได้เช่น เหนื่อย สับสน อ่อนเพลีย อ่อนแรง หัวใจเต้นเร็ว) มีสัญญาณของภาวะติดเชื้อเช่นมีไข้ (สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส) หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล มีอาการปวดหรือร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ ปวด บวม แดง และเจ็บตามร่างกาย หรือมีตุ่มน้ำหรือแผลเกิดขึ้นบริเวณปากหรือร่างกาย หากท่านมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นควรรีบไปพบแพทย์/ไปยังโรงพยาบาลใกล้บ้านที่สะดวกทันที/ฉุกเฉินก่อนวันนัด พร้อมแจ้งแพทย์/พยาบาล/เภสัชกรว่าท่านกำลังรับประทานยากดภูมิต้านทานอยู่
มีข้อควรระวังการใช้ยาเอเวอโรลิมัสอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเอเวอโรลิมัสเช่น
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่แพ้ยานี้หรือแพ้ส่วนประกอบของยานี้
- ผู้ป่วยที่ได้รับยาเอเวอโรลิมัสอาจมีภาวะไขมันในเลือดสูงทั้งไขมันชนิดคอเลสเตอรอลและ ชนิดไตรกลีเซอไรด์ แพทย์จะพิจารณาตรวจระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยและให้การรักษาด้วยยาลดไขมันร่วมกับแนะนำการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารโดยเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
- ยาเอเวอโรลิมัสสามารถทำให้เกิดความเป็นพิษต่อไตได้โดยเฉพาะถ้าใช้ยาในขนาดสูง แพทย์จะติดตามดูแลผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตผิดปกติใกล้ชิดเนื่องจากอาจจำเป็นต้องลดขนาดยาเอเวอโรลิมัสลงหากค่าการทำงานของไตลดลง
- ยาเอเวอโรลิมัสมีผลทำให้แผลเกิดการสมานของแผลลดลง/แผลติดช้าจึงอาจมีผลต่อการฟื้นฟูของแผลในผู้ป่วยที่กำลังใช้ยานี้อยู่
- การใช้ยาเอเวอโรลิมัสระหว่างตั้งครรภ์รวมถึงช่วงให้นมบุตร แพทย์จะพิจารณาถึงประโยชน์ ที่มีต่อแม่เทียบกับความเสี่ยงของทารกในครรภ์เนื่องจากยาอาจมีผลพิษต่อทารกได้
- ยาเอเวอโรลิมัสสามารถเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นได้หลายชนิดดังนั้นการติดตามระดับยาในเลือดโดยแพทย์จึงมีความจำเป็น (อ่านเพิ่มเติมหัวข้อ: ยาเอเวอโรลิมัสมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?)
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาเอเวอโรลิมัส) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาเอเวอโรลิมัสมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเอเวอโรลิมัสถูกขจัดออกจากร่างกายโดยเอนไซม์กำจัดยาระบบ CYP3A4 (Cytochrome P450 3A4) เป็นหลัก ดังนั้นสารใดๆก็ตามที่สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ดังกล่าวได้ก็จะมีผลลดการขจัดตัวยาเอเวอโรลิมัสลง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับยาเอเวอโรลิมัสในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้ (ผลข้างเคียงสูงขึ้น) ในขณะเดียวกันสารใดที่ออกฤทธิ์ในการเหนี่ยวนำให้เอนไซม์ระบบดังกล่าวทำงานได้ดีขึ้นก็จะมีผลให้การขจัดยาเอเวอโรลิมัสเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ระดับยาเอเวอโรลิมัสในเลือดลดลง (ผลการควบคุมรักษาโรคลดลง)
1. เมื่อมีการใช้ยาเอเวอโรลิมัสร่วมกับยาดังต่อไปนี้ส่งผลเพิ่มระดับยาเอเวอโรลิมัสในเลือดได้เช่น กลุ่มยาลดความดันโลหิตเช่น เวอร์ราปามิว (Verapamil); กลุ่มยาต้านเชื้อราเช่น ยาโครไตรมาโซล (Clotrimazole), ฟูโครนาโซล (Fluconazole), อิทราโครนาโซล (Itraconazole), คีโตโครนาโซล(Ketoconaozle), โวลิโครนาโซล (Voriconazole); ยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีกลุ่มโปรติเอส อินฮิบิเตอร์ (Protease inhibitors) เช่น โลปินาเวียร์ (Lopinavir), ริโทรนาเวียร์ (Ritonavir) ฯลฯ; ยาปฏิชีวนะกลุ่มแมคโคไลด์/Macrolide เช่น คลาลิโทรไมซิน (Clarithromycin), อิริโทรไมซิน (Erythromycin); ยากระตุ้นการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารและลำไส้เช่น ซิสซาพาย (Cisa pide), เมทโทรโคลพามายด์ (Metoclopramide); ยาชนิดอื่นๆเช่น ดานาซอล (Danazol: ยาฮอร์ โมนรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่), โอมีพราโซล (Omeprazole: ยายับยั้งการหลั่งกรดในกระ เพาะอาหาร), แลนโซพราโซล (Lansoprazole: ยายับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร) จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเหล่านี้ร่วมกัน
2. หลีกเลี่ยงการใช้ยาเอเวอโรลิมัสคู่กับยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ACEI (Angiotensin converting enzyme inhibitor) เช่น อีนาลาพลิว (Enalapril), แคปโตพลิว (Captopril), ริสซิโนพลิว (Lisino pril), รามิพลิว (Ramipril) เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแองจิโออีดีมา (Angioedema ซึ่งจะแสดงอาการคือ ปากบวม ตาบวม หน้าบวม และอาจเกิดการบวมในเยื่อบุระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินหายใจซึ่งทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจซึ่งอาจจะอันตรายถึงชีวิต/ตาย)
3. เมื่อมีการใช้ยาเอเวอโรลิมัสร่วมกับยาดังต่อไปนี้จะส่งผลลดระดับยาเอเวอโรลิมัสในเลือดได้เช่น ยากันชักเช่น ฟีโนบาร์บีทาล (Phenobarbital), คาร์บามาซีปิน (Carbamazepine), ฟีนีทอย (Phe nytoin); ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย/ยาต้านวัณโรคเช่น ไรแฟมปินซิน (Rifampicin), ไรฟาบูติน (Rifam butin); และยาชนิดอื่นๆเช่น แคสโปฟังจิน (Caspofungin: ยาฆ่าเชื้อรา), ยาทาโครลิมัส (Tacroli mus: ยากดภูมิต้านทาน), ยาซัยโรลิมัส (Sirolimus: ยากดภูมิต้านทาน) และสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ธ (St. John's wort: สมุนไพรคลายเครียด) ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยาเหล่านี้ร่วมกัน
4. ผู้ป่วยที่กำลังรับเอเวอโรลิมัสอยู่ไม่ควรรับวัคซีนที่ยังมีชีวิต (Live vaccine หมายถึงวัคซีนเชื้อเป็น ที่ถูกผลิตขึ้นโดยใช้เชื้อโรคมาทำให้อ่อนฤทธิ์ลงจนไม่สามารถทำให้เกิดโรค แต่เชื้อยังมีฤทธิ์เพียงพอที่จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานโรค/ภูมิต้านทานของร่างกายได้เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานต่อเชื้อโรคนั้นๆเช่น วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม วัคซีนอีสุกอีใส วัคซีนโปลิโอชนิดกิน วัคซีนไวรัสโรตา และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก เป็นต้น) แก่ผู้ป่วยที่กำลังใช้ยานี้อยู่เนื่องจากผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันฯต่ำ การฉีดวัคซีนอาจได้ผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันน้อยลงและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อจากวัคซีนชนิดเชื้อเป็นนั้นๆได้
ควรเก็บรักษายาเอเวอโรลิมัสอย่างไร?
แนะนำเก็บยาเอเวอโรลิมัสในบรรจุภัณฑ์เดิม โดยเก็บรักษายา ณ อุณหภูมิห้อง เก็บยาให้พ้น จากแสงแดดและแสงสว่างที่กระทบยาได้โดยตรง หลีกเลี่ยงนำยาสัมผัสกับความร้อนที่มากเช่น เก็บยาในรถที่ตากแดดหรือเก็บยาในห้องที่มีอุณหภูมิสูง (มีแสงแดดส่องถึงทั้งวันหรือเป็นเวลานาน) ไม่เก็บยาในห้องที่ชื้นเช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว โดยควรเก็บยาในภาชนะบรรจุเดิม และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ยาเอเวอโรลิมัสมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเอเวอโรลิมัสที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิตเช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Certican (เซอร์ติแคน) 0.25 mg tablet | Novartis |
Certican (เซอร์ติแคน) 0.50 mg tablet | Novartis |
Certican (เซอร์ติแคน) 0.75 mg tablet | Novartis |
Certican (เซอร์ติแคน) 1.0 mg tablet | Novartis |
Afinitor (อะฟินิทอร์) 5 mg tablet | Novartis |
Afinitor (อะฟินิทอร์) 10 mg tablet | Novartis |
บรรณานุกรม
- Lacy CF, Armstrong LL, Goldman MP, Lance LL. Drug Information handbook. 21th ed. Ohio: Lexi-Comp,Inc.; 2013-14.
- Micromedex Healthcare Series, Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado
- Product Information:Certican: Everolimus. Novartis, Thailand.
- TIMS (Thailand). MIMS. 130th ed. Bangkok: UBM Medica ;2013
- โครงการปลูกถ่ายอวัยวะ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี. สมุดประจำตัวผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายอวัยวะและได้รับยากดภูมิต้านทาน. 2558