เวอร์ติพอร์ฟิน (Verteporfin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 28 พฤศจิกายน 2562
- Tweet
- บทนำ
- เวอร์ติพอร์ฟินมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- เวอร์ติพอร์ฟินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เวอร์ติพอร์ฟินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เวอร์ติพอร์ฟินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- การได้รับเวอร์ติพอร์ฟินเกินขนาดส่งผลต่อลูกตาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
- เวอร์ติพอร์ฟินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เวอร์ติพอร์ฟินอย่างไร?
- เวอร์ติพอร์ฟินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเวอร์ติพอร์ฟินอย่างไร?
- เวอร์ติพอร์ฟินมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ (Age-related macular degeneration หรือ AMD)
- โรคตา โรคทางตา (Eye disease)
- กายวิภาคและสรีรวิทยาของตา (Anatomy and physiology of the eye)
- โรคของจอตา โรคจอตา (Retinal disease)
- ผู้สูงอายุ (Older person)
- การตรวจตา การตรวจสุขภาพตา (Eye examination)
บทนำ
ยาเวอร์ติพอร์ฟิน (Verteporfin) เป็นยาอนุพันธ์ในกลุ่ม Benzoporphyrin ทางคลินิกใช้ยานี้เพื่อกำจัดเส้นเลือดที่ถูกสร้างขึ้นอย่างผิดปกติในลูกตาซึ่งมักเกิดร่วมกับภาวะจอประสาทตาเสื่อม/ จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ(Age-related macular degeneration) เส้นเลือดที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ทำให้มีอาการตาพร่า การทำลายหรือสลายเส้นเลือดดังกล่าวจึงเป็นทางเลือกที่ถูกพิจารณาว่าเหมาะสมและส่งผลดีต่อสุขภาพตา
รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาเวอร์ติพอร์ฟิน เป็นแบบยาฉีด ที่ต้องหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ เมื่อตัวยาเดินทางไปกับกระแสเลือดจนกระทั่งถึงเส้นเลือดที่ผิดปกติบริเวณจอประสาทตา/จอตา แพทย์จะกระตุ้นตัวยาให้ออกฤทธิ์โดยการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 689 นาโนเมตร เลเซอร์นี้เป็นแสงสีแดงที่ไม่สร้างความร้อนต่อผิวหนัง(Nonthermal red light) ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ของผนังด้านในหลอดเลือดที่เป็นตัวปัญหาของจอตาและเกิดการปิดกั้นเส้นเลือดดังกล่าว ส่งผลไม่ให้มีการหลั่งของเหลวที่จะออกมาก่อกวนกลไกการทำงานของจอประสาทตานั่นเอง
ตัวยาเวอร์ติพอร์ฟิน จะมีเวลาอยู่ภายในร่างกายประมาณ 5–6 ชั่วโมง และจะถูกเอนไซม์จากตับเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมี จากนั้นยานี้จะถูกกำจัดทิ้งไปทางอุจจาระ และน้อยกว่า 0.01% ถูกขับทิ้งไปทางปัสสาวะ
*ผู้ที่มีอาการแพ้ยานี้อาจแสดงออกด้วยอาการ
- เหงื่อออกมาก
- วิงเวียน
- มีผื่นคัน
- หายใจขัด/หายใจลำบาก
- ใบหน้าแดง
- มีอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิต เปลี่ยนแปลงไป
อย.ของไทย ได้กำหนดให้ยาเวอร์ติพอร์ฟินอยู่ในหมวดยาอันตราย โดยต้องใช้ตามคำสั่งแพทย์แต่ผู้เดียว และเราสามารถพบเห็นการวางจำหน่ายยาชนิดนี้ภายใต้ชื่อการค้าว่า Visudyne
เวอร์ติพอร์ฟินมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาเวอร์ติพอร์ฟินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้:
- ใช้รักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมอันมีสาเหตุจากการสร้างหลอดเลือดใหม่ในบริเวณจอประสาทตา (Predominantly classic subfoveal choroidal neovascularization/CNV) ซึ่งมักเกิดในผู้สูงอายุ
เวอร์ติพอร์ฟินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาเวอร์ติพอร์ฟิน จะต้องประกอบไปด้วย 2 กระบวนการหลักๆ คือ
1. เมื่อหยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำและรอจนกระทั่งมีตัวยามาสะสมในหลอดเลือด ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อการมองเห็นในบริเวณจอประสาทตา
2. ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวช่วงคลื่นของแสงสีแดง ส่องเข้าในลูกตาเพื่อกระตุ้น ให้ตัวยาออกฤทธิ์และสร้างความเสียหายที่เซลล์ของผนังด้านในหลอดเลือดที่ ก่อให้เกิดปัญหาตรงจอประสาทตา ส่งผลให้มีการรวมตัวของเกล็ดเลือดในผนัง หลอดเลือดดังกล่าวจนเกิดการอุดตันและทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นหดตัว
การปิดกั้นหรือทำลายการทำงานของหลอดเลือดที่สร้างปัญหาบริเวณจอประสาทตา จะช่วยลดการหลั่งของเหลวที่ออกมารบกวนหรือบดบังการทำงานของจอประสาทตาดังกล่าวส่งผลให้เกิดฤทธิ์บำบัดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ตามสรรพคุณ
หมายเหตุ: การใช้แสงเลเซอร์เพื่อทำการรักษาโรคของตามีศัพท์ทางการแพทย์ว่า “Photodynamic therapy”
เวอร์ติพอร์ฟินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
รูปแบบการจัดจำหน่ายของยาเวอร์ติพอร์ฟิน:
- ยาฉีดปราศจากเชื้อที่เป็นผงสีเขียวเข้มและแห้ง ประกอบด้วยตัวยาVerteporfin ขนาด 15 มิลลิกรัม/ขวด(Vial)
เวอร์ติพอร์ฟินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาเวอร์ติพอร์ฟินมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
- ผู้ใหญ่: ละลายตัวยาด้วยน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ 7 มิลลิลิตร ตัวยาที่ละลายน้ำกลั่นแล้วต้องป้องกันไม่ให้โดนแสงเพื่อความคงตัว จากนั้นนำไปเจือจางกับสารละลาย 5%Dextrose ให้ได้ปริมาตรรวม 30 มิลลิลิตร ยาที่ถูกเจือจางต้องถูกป้องกันไม่ให้โดนแสงเช่นกันและต้องนำมาหยดเข้าหลอดเลือดดำของผู้ป่วยโดยใช้เวลา 10 นาทีขึ้นไป หลังจากผู้ป่วยได้รับยานี้ไปแล้วประมาณ 15 นาที แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์สีแดงที่ความยาวคลื่น 689 นาโนเมตร ขนาดพลังงาน 50 จูล/ตารางเซนติเมตร และมีความเข้มของแสงอยู่ที่ 600 ไมโครวัตต์/ตารางเซนติเมตร การยิงแสงเลเซอร์อาจต้องใช้เวลามากกว่า 83 วินาทีขึ้นไป
- เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลด้าน ประสิทธิผล ผลข้างเคียง ขนาดยา และความปลอดภัย ของการใช้ยานี้ในเด็ก
อนึ่ง:
- ระวังการแทงเข็มฉีดยาออกนอกเส้นเลือดเพราะจะสร้างความเจ็บปวดให้ ผู้ป่วยด้วยเกิดภาวะอักเสบบริเวณผิวหนังที่แทงเข็ม
- ยาเตรียมที่เป็นสารละลายแล้วต้องถูกนำไปใช้ภายใน 4 ชั่วโมง
- หลังได้รับยานี้เข้าร่างกาย หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดกลางแจ้ง หรือการใช้ตามองแสงสว่างนานๆเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
การได้รับเวอร์ติพอร์ฟินเกินขนาดส่งผลต่อลูกตาอย่างไร?
การใช้ยาเวอร์ติพอร์ฟินเกินขนาด และ/หรือยิงแสงเลเซอร์เข้าลูกตามากเกินไปอาจส่งผลให้จอประสาทตาส่วนที่เป็นปกติเกิดความเสียหาย หากอาการรุนแรงมากอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
สำหรับผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาด แพทย์จะแนะนำให้เลื่อนการใช้เลเซอร์ออกไปพร้อมกับแนะนำให้ผู้ป่วยเลี่ยงการมองแสงทั้งในที่โล่งแจ้งหรือแม้แต่ในที่ร่ม ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาเวอร์ติพอร์ฟิน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/ หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ โรคตับ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเวอร์ติพอร์ฟินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
หากลืมมารับการฉีดยาเวอร์ติพอร์ฟิน ให้ผู้ป่วยรีบนัดแพทย์/พยาบาล/เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว
เวอร์ติพอร์ฟินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเวอร์ติพอร์ฟิน สามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น
- ผลต่อตา: เช่น เกิด ต้อกระจก ตาพร่า การมองเห็นภาพผิดปกติ เยื่อตาอักเสบ คันในตา
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ ท้องผูก
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ/ ปวดหัว วิงเวียน
- ผลต่อสภาพทางจิตใจ: เช่น อาจมีอาการนอนไม่หลับ
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น ไอ หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก เจ็บคอ-คออักเสบ ปอดบวม
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น ระดับเม็ดเลือดขาวต่ำหรือไม่ก็ระดับเม็ดเลือดขาวสูง เลือดจาง/โรคซีด
- ผลต่อตับ:เช่น ตับทำงานผิดปกติ
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น เจ็บหน้าอก /แน่นหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง อาจมีเส้นเลือด/หลอดเลือดขอด
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น ผิวหนังเกิดผื่นแพ้แสงแดดง่ายขึ้น มีอาการผื่นคัน อาจเกิด ลมพิษ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น ไขมันในเลือดสูง มีแอลบูมินปนมากับปัสสาวะ/ โปรตีนในปัสสาวะ, ค่า ครีอะตินีน (Creatinine) เพิ่มขึ้น
มีข้อควรระวังการใช้เวอร์ติพอร์ฟินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเวอร์ติพอร์ฟิน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาชนิดนี้
- การใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร และเด็ก จะต้องมีคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
- การใช้ยาใดๆร่วมกับยาเวอร์ติพอร์ฟิน ควรปรึกษาแพทย์/เภสัชกรก่อนเสมอ
- หลังการฉีดยานี้ ห้ามขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆรวมถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรทุกชนิด ด้วยเมื่อมีอาการตาพร่า จะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- ห้ามผสมยานี้ด้วยสารละลายชนิดอื่นนอกจากน้ำกลั่น และ 5%Dextrose ทั้งนี้เพื่อป้องกันการตกตะกอนของตัวยา
- ปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ และมารับการตรวจตาตามที่แพทย์นัดหมายทุกครั้ง
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาเวอร์ติพอร์ฟินด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
เวอร์ติพอร์ฟินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเวอร์ติพอร์ฟิน มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเวอร์ติพอร์ฟิน ร่วมกับยา Tetracycilnes, Sulfonamides Phenothiazine, Sulfonylureas, ยาขับปัสสาวะกลุ่มThiazide ด้วยจะทำให้ผิวหนังแพ้แสงแดดมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเวอร์ติพอร์ฟิน ร่วมกับ สารจำพวกแอนติออกซิแดนซ์ เช่น beta-carotene รวมถึงยาที่ยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด อาทิ Thromboxane A2 inhibitors เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของยาเวอร์ติพอร์ฟินด้อยลง
ควรเก็บรักษาเวอร์ติพอร์ฟินอย่างไร?
สามารถเก็บยาเวอร์ติพอร์ฟิน เช่น
- เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส(Celsius)
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เก็บยาที่หมดอายุ
- ไม่ทิ้งยาลงในแม่น้ำคูคลองตามธรรมชาติ
เวอร์ติพอร์ฟินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเวอร์ติพอร์ฟิน มีชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Visudyne (วิซูดาย) | Novartis |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Verteporfin[2019,Nov9]
- https://www.bausch.com/Portals/69/-/m/BL/United%20States/USFiles/Package%20Inserts/Pharma/visudyne-package-insert.pdf [2019,Nov9]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/visudyne/?type=brief [2019,Nov9]
- https://www.drugs.com/dosage/verteporfin.html[2019,Nov9]
- https://www.youtube.com/watch?v=osFv31b6_N4[2019,Nov9]