เล่าเรื่องปวดหัว ตอนที่ 7 แม่กลัวค่ะหมอ ไม่ตรวจได้หรือเปล่า

เล่าเรื่องปวดหัว

สาเหตุการปวดศีรษะที่ร้ายแรงหนึ่ง คือ การติดเชื้อเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งการจะบอกได้ว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ ต้องทำการเจาะตรวจนำน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (CSF: cerebrospinal fluid) มาตรวจว่ามีความผิดปกติอย่างไร แต่พอหมอแนะนำผู้ป่วยว่าต้องเจาะตรวจ ผู้ป่วยทุกคนก็จะลังเลใจว่าจะเจาะดีหรือไม่ มันคืออะไร มันน่ากลัวหรือเปล่า

“คุณแม่ครับ อาการของลูกสาวนั้น หมอเข้าใจว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หมอจะต้องขออนุญาตคุณแม่ เจาะเอาน้ำหล่อลี้ยงสมองและไขสันหลังมาตรวจหาเชื้อโรคครับ คุณแม่อนุญาตหรือเปล่าครับ ผมอธิบายให้ฟังนะครับว่าการเจาะตรวจดังกล่าวคืออะไร ทำอย่างไร

“การเจาะตรวจดังกล่าว คือ หมอจะฉีดยาชาบริเวณด้านหลัง บริเวณกระดูกสันหลังระดับเอวที่ 2,3 แล้ว หมอก็จะใช้เข็มเจาะเข้าไปในช่องไขสันหลัง เอาน้ำหล่อลี้ยงสมองและไขสันหลังมาตรวจหาความผิดปกติ ใช้เวลาทำประมาณ 5 นาทีครับ ไม่นาน หลังจากเจาะเสร็จก็ให้นอนพักเฉยๆ ผู้ป่วยอาจเจ็บหลังนิดหน่อย โอกาสเกิดผลเสียร้ายแรง เช่น สมองเลื่อนกดทับพบน้อยมากๆ กรณีที่มีความดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูงมาก ตกลงคุณแม่อนุญาตเปล่าครับ”

“แม่ขอคิดก่อนนะ เพราะแม่กลัวว่าลูกจะเจ็บ จะอันตราย ไม่ตรวจได้เปล่า มีทางเลือกอื่นๆ เช่น ตรวจเอกซเรย์แทนได้หรือไม่ ให้ยาเลยได้หรือเปล่า แม่กลัวจริงๆ” ผมจึงได้อธิบายให้ฟังต่อว่า การวินิจฉัยโรคดังกล่าวไม่สามารถใช้วิธีการอื่นๆ ได้ ต้องตรวจด้วยวิธีนี้อย่างเดียวเท่านั้น จริงแล้วการเจาะตรวจนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่แปลกหรืออันตราย ก็คล้ายกับวิธีการบล็อคหลังในคนที่ไปคลอดลูกแบบไม่เจ็บครับ ทำแบบเดียวกันเลย

พอแม่ผู้ป่วยได้ฟังว่าเหมือนกับการบล็อคหลัง ก็ตอบทันทีว่า “ตกลงทำได้เลย หมอก็ไม่บอกแบบนี้ตั้งแต่ต้น” สรุปว่าหมออธิบายไม่ชัด การเจาะหลังไม่อันตรายหรือยากอย่างที่คิดครับ