เมื่อหมอป่วย

เมื่อหมอป่วย-1


      

      ผมถูกผู้ป่วยกับญาติถามแบบสนุกๆ ประจำว่าหมอเคยป่วยบ้างหรือเปล่า เพราะเห็นว่าทำงานหนัก มาตรวจที่ไรก็ไม่เห็นหมอเคยลาเลย มาตรวจก็พบหมอทุกครั้ง ผมก็เลยตอบว่า ป่วยครับ ป่วยไม่ต่างกับคนอื่นๆ หรอกครับ ผมป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วแบบไม่มีอาการ โรคความดันโลหิตสูงเล็กน้อย ภูมิแพ้ แล้วก็โรคปวดหลัง แต่ที่หมอไม่เคยลาเลย ก็เพราะผู้ป่วยมาตรวจตลอด ถ้าไม่ล้มหมอนนอนเสื่อจริงๆ ก็ต้องมาตรวจคนไข้

      ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้นผมตื่นขึ้นมาก็ลุกไม่ขึ้นเลย เพราะกล้ามเนื้อหลัง คอหดเกร็งตัวมาก ไม่สามารถก้มหลัง ก้มคอได้ ไม่สามารถก้มแปรงฟันบ้วนน้ำได้เลย ใส่กางเกง ใส่ถุงเท้า รองเท้าไม่ได้ ต้องให้คนช่วยใส่ แต่ก็ต้องมาทำงาน เพราะงานของแพทย์นั้นไม่สามารถให้คนอื่นทำแทนได้เลย จึงต้องทนเจ็บหลังมาทำงาน

      ผมตรวจคนไข้แบบไม่ต้องลุกขึ้น เพราะเวลาเปลี่ยนท่าทางจากนั่งเป็นยืน จากยืนเป็นนั่งจะปวดมาก จนกระทั่งถึงคนไข้รายสุดท้ายเป็นรถเข็น อย่างไรอย่างไรก็ต้องลุกขึ้นไปตรวจ เพราะนั่งตรวจไม่ได้ แต่ผมก็ลุกขึ้นไม่ได้จริงๆ จึงบอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่า หมอตรวจไม่ได้ครับ คนไข้นอนเปลมา ผมลุกไม่ได้ ผมปวดหลัง เจ้าหน้าที่ถามกลับมาว่า จริงเหรออาจารย์ ก็เห็นอาจารย์ตรวจคนไข้ตั้งแต่เช้ามาแล้ว

      ก็จริงครับ ผมต้องนั่งตรวจคนไข้มาตั้งแต่เช้า โดยไม่ได้บอกให้ใครรู้ว่าปวดหลังมาก เพราะอย่างไรผมก็ต้องตรวจคนไข้อยู่ดี ไม่ตรวจก็ไม่ได้ จึงไม่ได้บอกใคร พอบอกก็เลยไม่มีใครเชื่ออีก ผมต้องขอโทษผู้ป่วยกับญาติว่าผมตรวจให้ไม่ได้จริงๆ เพราะปวดหลัง ลุกเดินไปตรวจจะปวดหลังมาก จนน้ำตาไหล พอตรวจเสร็จก็ต้องรีบไปหาหมอด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อให้การรักษาอาการปวดหลัง

      ที่ผมเล่ามานี้ก็เพื่อจะบอกกับผู้อ่านทุกคนว่าหมอก็ป่วยเป็น แถมป่วยบ่อยกว่าคนอื่นๆ อีก เพราะทำงานหนัก พักผ่อนนอน แต่ด้วยความรับผิดชอบที่ถูกสอน ถูกฝึกมาตลอดระหว่างเรียนแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราเห็นอาจารย์ทุกๆ ท่านเป็นแบบอย่างที่ดี อาจารย์ป่วยก็มาสอน ไม่มีเสียงก็ยังมาสอน ติดเชื้อในกระแสเลือดต้องให้ยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำก็ยังมาสอน ด้วยสิ่งที่แพทย์ทุกคนเห็นมาตลอด จึงสามารถทำตามอาจารย์ที่เป็นแบบอย่างที่ดีได้ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านด้วยครับ