เมทสโคโพลามีน (Methscopolamine) หรือ เมททิลสโคโพลามีน (Methylscopolamine)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 20 ตุลาคม 2559
- Tweet
- บทนำ
- เมทสโคโพลามีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- เมทสโคโพลามีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เมทสโคโพลามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เมทสโคโพลามีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- เมทสโคโพลามีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เมทสโคโพลามีนอย่างไร?
- เมทสโคโพลามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเมทสโคโพลามีนอย่างไร?
- เมทสโคโพลามีนมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- แอนตี้มัสคารินิก (Antimuscarinic drugs)
- แผลเปบติค (Peptic ulcer) / แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
- เมารถ เมาเรือ (Motion sickness)
- ลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome)
- ยารักษาทางจิตเวช ยาจิตเวช (Psychotropics drugs)
บทนำ
ยาเมทสโคโพลามีน(Methscopolamine หรือ Methscopolamine bromide ) หรือ เมททิลสโคโพลามีน Methylscopolamine หรือ Methylscopolamine bromide ) เป็นยาในกลุ่มแอนตี้มัสคารินิก (Antimuscarinic) ใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหารโดยช่วยการลดการหลั่งกรดของกระเพาะอาหาร นอกจากนั้น ยังลดการหลั่งน้ำลาย จึงใช้รักษาภาวะมีน้ำลายมากเกินปกติ, ทำให้รูม่านตาขยาย, และทำให้กล้ามเนื้อของกระเพาะอาหาร รวมถึงลำไส้หยุดการบีบตัวจึงใช้รักษาอาการ เมารถ-เมาเรือ อาการลำไส้แปรปรวน
ยาเมทสโคโพลามีน มีข้อห้ามใช้กับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น
- โรคต้อหิน
- ภาวะทางเดินปัสสาวะ(เช่น ท่อปัสสาวะ)อุดตัน
- ต่อมลูกหมากโต
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือด
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ป่วยอยู่ในภาวะตกเลือด
นอกจากนี้ ยังต้องระวังการใช้ยาเมทสโคโพลามีนร่วมกับยารักษาโรคประเภทต่างๆ เช่น ยาDigoxin, ยาที่รักษาอาการทางจิตประสาท/ยารักษาทางจิตเวช อย่างยารักษาโรคซึมเศร้า เช่นยา Amitriptyline , ยากลุ่มBeta- blockers เช่นยา Propanolol , หรือยากลุ่มแอนตี้มัสคารินิกด้วยกันเอง
โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาเมทสโคโพลามีนก่อนอาหารประมาณ 30 นาที และก่อนนอน และห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยาลดกรด
ทั้งนี้ ยาเมทสโคโพลามีนสามารถทำให้เกิดอาการ วิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หรือ ทำให้ตามีความไวต่อแสงแดด/ตาไม่สู้แสง
ทั้งนี้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาเมทสโคโพลามีนกับผู้สูงอายุ ด้วยอาจก่อให้มีภาวะท้องผูก ส่วนในเด็ก ทางการแพทย์ยังไม่ได้รับการยืนยันความปลอดภัยของการใช้ยาเมทสโคโพลามีนอย่างชัดเจน และหากจะใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ หรือสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ต้องได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
*กรณีได้รับยาเมทสโคโพลามีนเกินขนาด ให้สังเกตอาการต่างๆดังนี้ เช่น มองเห็นภาพซ้อน หายใจลำบาก/หายใจไม่ออก มีอาการเวียนศีรษะมาก อาเจียน รูม่านตาขยาย กระหายน้ำมาก ความดันโลหิตต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ เกิดอาการง่วงนอน ปากแห้งผิดปกติ อาการชัก และโคม่า เป็นต้น ซึ่งเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน ดังนั้นการใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัย จึงควรต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
อนึ่ง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในเรื่องของยาเมทสโคโพลามีน สามารถสอบถามข้อมูลการใช้ยานี้ได้จากแพทย์ที่ทำการรักษา หรือจากเภสัชกรตามร้านขายยาได้โดยทั่วไป
เมทสโคโพลามีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาเมทสโคโพลามีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ รักษาและบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหาร
เมทสโคโพลามีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเมทสโคโพลามีนเป็นยาในกลุ่มแอนตี้มัสคารินิก(Antimuscarinic) โดยมีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะออกฤทธิ์กดการทำงานที่ระบบประสาทส่วนกลางหรือสมอง พร้อมกับปิดกั้นสารสื่อประสาทไม่ให้ส่งสัญญาณไปสู่ปมประสาท รวมถึงยังช่วยลดการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร ลดการเคลื่อนไหวของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร จากกลไกดังกล่าว จึงก่อให้เกิดฤทธิ์ของการรักษาได้ตามสรรพคุณ
เมทสโคโพลามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเมทสโคโพลามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็น
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 2.5 - 5 มิลลิกรัม/เม็ด
เมทสโคโพลามีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาเมทสโคโพลามีนมีขนาดรับประทาน เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 2.5 - 5 มิลลิกรัม ก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง และก่อนนอน ทั้งนี้ กรณีผู้ป่วยมีอาการ ปวดท้องรุนแรง แพทย์อาจ ให้ผู้ป่วยเริ่มต้นรับประทานยาครั้งละ 5 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร 3 มื้อ และก่อนอน หรือคิดเป็นปริมาณ 20 มิลลิกรัม/วัน
- เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนทางคลินิกด้านความปลอดภัยของการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเมทสโคโพลามีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น ท้องผูก โรคหัวใจ โรคกล้ามเนื้อ่อนแรง รวมถึงกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเมทสโคโพลามีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาเมทสโคโพลามีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ดี เพื่อประสิทธิผลของการรักษาควรรับประทานยาเมทสโคโพลามีนตรงเวลา
เมทสโคโพลามีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเมทสโคโพลามีนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น
- ผลต่อหัวใจ: เช่น หัวใจเต้นเร็ว ชีพจรเต้นผิดปกติ
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ หงุดหงิด สับสน ง่วงนอน เวียนศีรษะ
- ผลต่อตา: เช่น รูม่านตาขยาย ตาพร่า แรงดันในลูกตาเพิ่ม/ความดันตาสูง
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ท้องอืด
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น ลมพิษ เหงื่อออกน้อย
- ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น กดการหลั่งน้ำนมของมารดา
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ปัสสาวะขัด
มีข้อควรระวังการใช้เมทสโคโพลามีนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเมทสโคโพลามีน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคต้อหิน ผู้ป่วยโรคปัสสาวะขัด/หรือท่อทางเดินปัสสาวะตีบ ผู้ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ห้ามมิให้ผู้ป่วยปรับขนาดรับประทานเอง ให้รับประทานยานี้ตามคำสั่งแพทย์อย่าง เคร่งครัด
- ห้ามดื่มสุราร่วมกับการรับประทานยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับ เด็ก สตรีตั้งครรภ์ หรือสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์ ห้ามมิให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ใช้ยาด้วยตนเองโดยเด็ดขาด
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว ผู้ที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะ และผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมเมทสโคโพลามีนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริมและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บhaamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
เมทสโคโพลามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเมทสโคโพลามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเมทสโคโพลามีนร่วมกับยากลุ่ม TCAs สามารถทำให้ผลข้างเคียงของยาเมทสโคโพลามีนมีมากขึ้นกว่าเดิม หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเมทสโคโพลามีนร่วมกับยากลุ่ม Beta blocker และ Digoxin ด้วยจะทำให้เกิดผลข้างเคียงของยา Beta blocker และ Digoxin มากขึ้นกว่าเดิม หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรเลี่ยงการใช้ยากลุ่มดังกล่าวร่วมกัน
- ห้ามใช้ยาเมทสโคโพลามีนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะส่งผลให้ ผู้ป่วยมีอาการ ง่วงนอน อ่อนเพลีย คล้ายอาการกดการทำงานของระบบประสาท
ควรเก็บรักษาเมทสโคโพลามีนอย่างไร?
ควรเก็บยาเมทสโคโพลามีนที่อุณหภูมิระหว่าง 15 – 30 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาในรถยนต์หรือในห้องน้ำ
เมทสโคโพลามีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเมทสโคโพลามีนที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Pamine (ปามีน) | Mikart, Inc |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Extendryl, AlleRx, Rescon, Pamine Forte