เพนทามิดีน (Pentamidine)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 2 พฤศจิกายน 2564
- Tweet
- บทนำ: คือยาอะไร?
- เพนทามิดีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- เพนทามิดีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เพนทามิดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เพนทามิดีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- เพนทามิดีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เพนทามิดีนอย่างไร?
- เพนทามิดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเพนทามิดีนอย่างไร?
- เพนทามิดีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ปอดบวม ปอดอักเสบ (Pneumonia)
- เชื้อรา โรคเชื้อรา (Fungal infection)
- เอดส์ (AIDS)
- เอชไอวี: โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV: HIV infection)
- กล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis)
บทนำ: คือยาอะไร?
ยาเพนทามิดีน (Pentamidine) คือ ยาที่ใช้รักษาโรคปอดอักเสบ/ปอดบวมที่เกิดจากโรคเชื้อรา Pneumocystis jirovecii ที่ดื้อต่อยา Co-Trimoxazole ซึ่งมักพบอาการป่วยลักษณะนี้กับผู้ที่เป็นโรคเอดส์
นอกจากนี้ ยาเพนทามิดีนยังสามารถรักษาอาการของโรคอันมีสาเหตุจากเชื้อโปรโตซัว (โรคติดเชื้อสัตวเซลล์เดียว)ที่ก่อให้เกิดโรคลิชมาเนีย (Leishmaniasis) รวมถึงการติดเชื้อประเภทยีสต์ (Yeast: เชื้อราประเภทหนึ่ง)ตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย โดยปกติระยะเวลาของการใช้ยานี้กับผู้ป่วยอยู่ในช่วง 14 - 21 วัน, การใช้ยานี้เกิน 21 วันขึ้นไปอาจเพิ่มความเป็นพิษของยาต่อร่างกายได้
รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้จะเป็นประเภทยาฉีดโดยให้ฉีดทางหลอดเลือดดำ และยาสูดพ่นเข้าระบบทางเดินหายใจ
ขณะที่ยาเพนทามิดีนเข้าสู่กระแสเลือด จะมีการรวมตัวกับพลาสมาโปรตีนประมาณ 69% ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 6 - 9 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยา 50% ออกจากกระแสเลือดโดยผ่านไปกับปัสสาวะ
องค์การอนามัยโลกได้ระบุให้ยาเพนทามิดีนเป็นยาจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับชุมชน คณะกรรม การอาหารและยาของไทยก็ได้บรรจุยานี้ลงในบัญชียาหลักแห่งชาติและจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย เราจึงพบเห็นการใช้ยาได้ตามสถานพยาบาลเท่านั้น
เพนทามิดีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาเพนทามิดีนมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น
- รักษาอาการปอดอักเสบ/ปอดบวมจากโรคเชื้อรา Pneumocystis jirovecii
เพนทามิดีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเพนทามิดีนมีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะยับยั้งกระบวนการทางชีวภาพเพื่อการดำรงชีวิตของเชื้อราที่มีชื่อเรียกว่า Oxidative phosphorylation นอกจากนี้ยังเข้ารบกวนการรวมตัวของสารพันธุกรรม DNA/RNA รวมถึงการสังเคราะห์โปรตีนของเชื้อรานี้อีกด้วย จากกลไกเหล่านี้จึงมีผลให้เกิดฤทธิ์รักษาตามสรรพคุณ
เพนทามิดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเพนทามิดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาสูดพ่นเข้าระบบทางเดินหายใจ และ
- ยาฉีด ขนาด 300 มิลลิกรัม
เพนทามิดีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ในบทความนี้ขอยกตัวอย่างเฉพาะขนาดยาสำหรับรักษาโรคปอดบวมที่ติดเชื้อ Pneumocystis jirovecii ชนิดที่เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำเท่านั้น การใช้ยานี้ด้วยวิธีพ่นเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา และจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน
- ผู้ใหญ่: เช่น ฉีดทางหลอดเลือดดำโดยปรับอัตราการหยดยาตามคำแนะนำของเอกสารกำกับยา/ฉลากยา ขนาดยาคือ 4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วันเป็นเวลา 14 - 21 วัน
- เด็กอายุ 4 เดือน - 18 ปี: เช่น ให้ยา/หยดยาทางหลอดเลือดดำโดยปรับอัตราการหยดยาตามคำ แนะนำของเอกสารกำกับยาเช่นกัน ขนาดยาคือ 4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วันเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
- เด็กอายุต่ำกว่า 4 เดือน: ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในขนาดการใช้ยานี้ ขนาดยานี้ในเด็กกลุ่มนี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาเพนทามิดีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเพนทามิดีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
เพนทามิดีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเพนทามิดีนสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ทำให้ไตวายหรือไตทำงานผิดปกติ
- ตรวจเลือดจะพบระดับเอนไซม์การทำงานของตับเพิ่มสูงขึ้น
- เกิดความผิดปกติต่อระบบเลือด เช่น มีภาวะ Leukopenia (เม็ดเลือดขาวต่ำ), Anemia (โรคซีด), Thrombocytopenia (เกล็ดเลือดต่ำ), เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจากนั้นติดตามด้วยการมีน้ำตาลในเลือดสูงคล้ายกับเป็นเบาหวานประเภทที่ 1
- นอกจากนั้น หลังจากการฉีดยานี้อาจเกิด ภาวะความดันโลหิตต่ำ
- หากให้ยาทางหลอดเลือดดำเร็วเกินไป จะก่อให้เกิดอาการ วิงเวียน ปวดหัว อาเจียน อึดอัด/หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว และเป็นลม
*อนึ่ง:
- การฉีดยานี้เข้ากล้ามเนื้อมักจะทำให้เกิดการปวดระบมบวมบริเวณที่ฉีดยา และอาจทำให้กล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis)ได้, นอกจากนี้ยังอาจพบอาการอื่นๆ เช่น เกลือแคลเซียมในเลือดต่ำ, ขณะที่เกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง, มีภาวะผื่นคัน, เป็นไข้, ใบหน้าแดง, ชัก, ประสาทหลอน, อาหารไม่ย่อย, ปวดท้อง
- *สำหรับผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาด จะพบอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาผู้ป่วยตามอาการที่เกิดขึ้น
มีข้อควรระวังการใช้เพนทามิดีนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเพนทามิดีน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหืด ผู้สูบบุหรี่จัด ผู้ป่วยด้วยภาวะเกลือแมกนิเซียมและเกลือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ, ผู้ป่วยโรคหัวใจเช่น มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจเต้นช้า, ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงหรือผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำ, ผู้ป่วยที่มีภาวะทั้งน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำ, ผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต, ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเม็ดเลือด เช่น Leukopenia (เม็ดเลือดขาวต่ำ) Anemia (ซีด/เม็ดเลือดแดงต่ำ) และ Thrombocytopenia (เกล็ดเลือดต่ำ)
- ระวังการใช้ยานี้ในสตรีตั้งครรภ์และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- หลีกเลี่ยงการฉีดยานี้เข้ากล้ามเนื้อและการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำอย่างรวดเร็ว
- ระหว่างการใช้ยานี้ต้องคอยควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยให้เป็นปกติเสมอ
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเพนทามิดีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
เพนทามิดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเพนทามิดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเพนทามิดีน ร่วมกับยา Amiodarone หรือ Levacetylmethadol (ยาแก้ปวดกลุ่ม Opioid) อาจก่อให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาเพนทามิดีน ร่วมกับยา Didanosine หรือ Zalcitabine (ยาต้านไวรัส) อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะตับอ่อนอักเสบ หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาเพนทามิดีน ร่วมกับยา Tenofovir อาจทำให้ไตทำงานผิดปกติ หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันและเพื่อหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าว แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยากับคนไข้ให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยาเพนทามิดีน ร่วมกับยา Sotalol (ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ) สามารถก่อให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงมีภาวะเกลือแร่/แร่ธาตุในร่างกายเสียสมดุล ร่วมกับเกิดอาการท้องเสียและอาเจียนตามมา หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
ควรเก็บรักษาเพนทามิดีนอย่างไร?
ควรเก็บยาเพนทามิดีน: เช่น
- เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
เพนทามิดีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเพนทามิดีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Pentacarinat (เพนทาคาริแนท) | sanofi-aventis |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Pentamidine [2021,Oct30]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/pentacarinat [2021,Oct30]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Pentacarinat/?type=brief [2021,Oct30]
- https://www.drugs.com/mtm/pentamidine.html [2021,Oct30]