เบนิดิปีน (Benidipine)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาเบนิดิปีน(Benidipine หรือ Benidipine hydrochloride หรือ Benidipine HCl)หรืออีกชื่อคือ Benidipinum เป็นยาในกลุ่ม Calcium channel blocker ทางคลินิกนำมาใช้รักษาภาวะ/โรคความดันโลหิตสูง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โดยตัวยาเบนิดิปีนจะมีกลไกทำให้หลอดเลือดขยายตัวและช่วยเพิ่มปริมาณการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงบริเวณหัวใจ รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาเบนิดิปีนเป็นยาชนิดรับประทาน หลังการดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร ตัวยานี้จะเข้าสู่กระแสเลือด และตัวยาเบนิดิปีนจะเริ่มออกฤทธิ์ แต่ขณะเดียวกันก็จะถูกกำจัดทิ้งไปกับอุจจาระและปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ

ข้อจำกัดการใช้ยาเบนิดิปีน ที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบ อาทิ

  • ห้ามใช้ยาเบนิดิปีนกับผู้ที่มีภาวะ/โรคความดันโลหิตต่ำ
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับระยะรุนแรง เพราะสามารถทำให้อาการโรครุนแรงยิ่งขึ้น
  • การใช้ยานี้กับผู้สูงอายุอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำมากๆ ทางคลินิกจึงมีข้อแนะนำห้ามใช้ยานี้ในผู้สูงอายุเกิน 2 มิลลิกรัม/วัน และผู้ป่วยต้องคอยตรวจสอบสภาพความดันโลหิตเป็นประจำตามคำแนะนำของ แพทย์ เภสัชกร และพยาบาล
  • ธรรมชาติของยาลดความดันโลหิตอย่างเช่นยาเบนิดิปีน สามารถทำให้เกิดอาการ วิงเวียนศีรษะ จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงและอาจจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างเช่น การทำงานกับเครื่องจักรและการขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆ
  • การใช้ยาชนิดอื่นใดร่วมกับยาเบนิดิปีน จะต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา)
  • ยาเบนิดิปีนสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ต่อการทำงานของตับ ไต หลอดเลือด หัวใจ ระบบทางเดินอาหาร รวมถึงระบบประสาท ของร่างกาย กรณีเกิดอาการข้างเคียงจากยานี้ที่รบกวนการดำรงชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลอีกครั้งโดยไม่ต้องรอถึงวันแพทย์นัด
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร เพื่อเป็นการป้องกันการส่งผ่านตัวยาเบนิดิปีนไปถึงทารกในครรภ์
  • ห้ามใช้ยานี้กับเด็ก ด้วยทางคลินิกยังไม่มีผลสรุปถึงความปลอดภัยของการใช้ยานี้กับกลุ่มผู้ป่วยเด็ก
  • ห้ามรับประทานยานี้เกินขนาดจากคำสั่งแพทย์ เพราะจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตรุนแรงต่ำตามมา

ยาเบนิดิปีนมีสูตรตำรับทั้งที่เป็นลักษณะแบบยาเดี่ยว และแบบยาผสมร่วมกับยา Telmisartan เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาเบนิดิปีนจะต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์แต่เพียงผู้เดียว ตามสิทธิบัตรของการจัดจำหน่ายของยานี้ ก็มีเพียงในบางประเทศในแถบทวีปเอเชีย อย่างเช่นญี่ปุ่น และอินเดีย เท่านั้นเอง

เบนิดิปีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

เบนิดิปีน

ยาเบนิดิปีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • รักษาโรคความดันโลหิตสูง ที่รวมถึงความดันโลหิตสูงด้วยภาวะโรคไต
  • รักษาอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

เบนิดิปีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาเบนิดิปีนเป็นยาประเภท แคลเซียม แชนแนล บล็อกเกอร์ ที่มีการออกฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมของประจุแคลเซียมที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด และทำให้ปริมาณเลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้มากขึ้น รวมถึงความดันโลหิตลดลง ด้วยกลไกนี้ จึงเกิดฤทธิ์ของการรักษาได้ตามสรรพคุณ

เบนิดิปีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเบนิดิปีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วย Benidipine HCl ขนาด 2, 4 และ 8 มิลลิกรัม/เม็ด
  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วย Telmisartan 40 มิลลิกรัม+ Benidipine HCl 4 มิลลิกรัม/เม็ด

เบนิดิปีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาเบนิดิปีนมีขนาดรับประทาน เช่น

ก. สำหรับรักษาภาวะ/โรคความดันโลหิตสูง:

  • ผู้ใหญ่: รับประทานยา 2–4 มิลลิกรัม วันละ1ครั้ง หลังอาหารเช้า หากจำเป็น แพทย์อาจอาจปรับขนาดรับประทานเป็น 8 มิลลิกรัม วันละครั้ง

ข.สำหรับบำบัดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด:

  • ผู้ใหญ่: รับประทานยา 4 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น

อนึ่ง:

  • ขนาดและระยะเวลาในการรับประทานยานี้ต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น
  • ระหว่างใช้ยานี้ ผู้ป่วยต้องตรวจสอบความดันโลหิตของตนเองเป็นประจำตามคำแนะนำของ แพทย์ เภสัชกร และพยาบาล
  • เด็ก: ห้ามใช้ยานี้ ด้วยยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่เพียงพอในด้านความปลอดภัยและในขนาดยา

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเบนิดิปีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเบนิดิปีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาเบนิดิปีน สามารถรับประทานยาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2เท่า ให้รับประทานยาที่ขนาดปกติ

แต่อย่างไรก็ดี การลืมรับประทานยาเบนิดิปีนอาจส่งผลให้อาการโรคกำเริบตามมา

เบนิดิปีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาเบนิดิปีนสามารถก่อให้เกิด ผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น

  • ผลต่อตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ/ตับอักเสบ ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มมากขึ้น
  • ผลต่อไต: เช่น ค่าครีเอตินิน(Creatinine)ในเลือดสูงขึ้น
  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ชีพจรเต้นผิดปกติ ใบหน้าแดง ความดันโลหิตต่ำ มีอาการบวมของใบหน้า-มือ-เท้า หัวใจเต้นช้า หรือไม่ก็หัวใจเต้นเร็ว
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ รู้สึกวิงเวียน
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น เกิดท้องผูก รู้สึกไม่สบายในท้อง คลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก และ กระหายน้ำ
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น อาจพบเกิดผื่นคัน

มีข้อควรระวังการใช้เบนิดิปีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาเบนิดิปีน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยากับสตรีมีครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร และเด็ก นอกจากมีคำสั่งแพทย์
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะโรคตับรุนแรง และผู้ที่มีโรคความดันโลหิตต่ำ
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาเบนิดิปีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด)รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยา ใช้เองเสมอ

เบนิดิปีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาเบนิดิปีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาเบนิดิปีนร่วมกับ ยา Digoxin จะทำให้ระดับยาDigoxin ในเลือดสูงขึ้น จนอาจเป็นเหตุให้ผู้ป่วยได้รับพิษ(ผลข้างเคียงรุนแรง)ของยา Digoxin หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเบนิดิปีนร่วมกับยา Cimetidine ด้วยจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำตามมา
  • ห้ามใช้ยาเบนิดิปีนร่วมกับยา Rifampicin เพราะจะทำให้ฤทธิ์ในการรักษาของยาเบนิดิปีนลดลง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเบนิดิปีนร่วมกับยา Itraconazole ด้วยอาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรงเกิดขึ้น

ควรเก็บรักษาเบนิดิปีนอย่างไร?

ควรเก็บยาเบนิดิปีนภายใต้คำแนะนำของเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์

เบนิดิปีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเบนิดิปีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
BENIZEX-T (เบนิเซ็กซ์-ที)Zenacts
Caritec (แคริเท็ค)Ranbaxy
Coniel (โคเนียล)Kyowa Hakko Kogyo

บรรณานุกรม

  1. http://www.e-search.ne.jp/~jpr/PDF/KYOWA01.PDF[2017,Sept30]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Aldosterone[2017,Sept30]
  3. http://www.mims.com/india/drug/info/telmisartan/?type=full&mtype=generic#Indications[2017,Sept30]
  4. http://www.mims.com/india/drug/info/caritec/caritec%20tab[2017,Sept30]
  5. http://www.nevapress.com/cdr/full/17/1/1.pdf[2017,Sept30]