เบนซ์เฟตามีน (Benzphetamine)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาเบนซ์เฟตามีน(Benzphetamine หรือ Benzphetamine Hydrochloride หรือ Benzphetamine HCl)เป็นยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท/ยากระตุ้นประสาทส่วนกลาง คล้ายกับยา Amphetamine และมีกลไกกดการทำงานของศูนย์หิวในสมองร่วมด้วย ทางคลินิกจึงนำมาใช้เป็นยาลดน้ำหนัก/ยาลดความอ้วน โดยผู้ป่วยต้องใช้ยานี้ตามคำสั่งแพทย์เป็นระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น การใช้ยาชนิดนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ สามารถกระตุ้นให้เกิดการเสพติดยาขึ้นมาได้ ในต่างประเทศ จึงจัดให้ยาเบนซ์เฟตามีนอยู่ในประเภทยาเสพติด รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาเบนซ์เฟตามีนเป็นยาชนิดรับประทาน

ผู้ที่จะใช้ยาเบนซ์เฟตามีนเพื่อลดน้ำหนัก จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายในเบื้องต้นจากแพทย์ โดยต้องมีเกณฑ์ของค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 30 กิโลกรัม/เมตร2 ขึ้นไป นอกจากนี้ต้องไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคความดันโลหิตสูงที่มีความรุนแรงของอาการตั้งแต่ระดับปานกลางขึ้นไป โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคต้อหิน และยังห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติติดยาเสพติดมาก่อน แพทย์จะไม่จ่ายยาลดน้ำหนักชนิดอื่นร่วมกับยาเบนซ์เฟตามีนด้วยเหตุผลที่ผู้ป่วยจะได้รับอันตรายจากอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่รุนแรง และอาจเกิดการเสพติดยาตามมา

ผู้ที่ได้รับยาเบนซ์เฟตามีน อาจมีอาการข้างเคียงบางประการ เช่น ความดันโลหิตในปอดสูง หัวใจเต้นเร็ว ชีพจรเต้นผิดปกติ กรณีมีอาการดังกล่าว ต้องหยุดการใช้ยานี้ทันที แล้วรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน

ผู้ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและห้ามใช้ยาเบนซ์เฟตามีนโดยเด็ดขาด ได้แก่ สตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุ ด้วยมีโอกาสได้รับพิษและเกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยานี้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ

การรับประทานยาเบนซ์เฟตามีนจะต้องตรงตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือใช้ยาอย่างขาดความระมัดระวังโดยรับประทานยาเกินขนาด มีโอกาสที่จะเกิดผลเสีย(ผลข้างเคียง)อย่างรุนแรงตามมา อาทิเช่น ตัวสั่น หัวใจเต้นเร็ว รู้สึกสับสน คลุ้มคลั่ง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ ระบบการหมุนเวียนโลหิตในร่างกายล้มเหลว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เป็นตะคริวที่หน้าท้อง มีไข้สูง เกิดภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย เกิดอาการชัก จนถึงเข้าขั้นโคม่า กรณีที่ทราบว่าใช้ยานี้เกินขนาด จะต้องรีบนำผู้ป่วยมาส่งโรงพยาบาลโดยทันที/ฉุกเฉิน การบำบัดรักษาผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาด มีตั้งแต่การให้ยาสงบประสาท(ยาคลายเครียด)อย่างเช่นยา Barbiturate, ใช้ยา Nitrate หรือยากลุ่ม Alpha receptor blocking agent( Alpha blocker)ในการลดความดันโลหิต บางครั้งอาจต้องใช้วิธีฟอกเลือดเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย

กรณีผู้ป่วยมีการใช้ยาอื่นใดอยู่ก่อน ควรต้องแจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ให้ทราบทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาด้วยยาเบนซ์เฟตามีน ทั้งนี้มียาหลายประเภทที่เมื่อใช้ร่วมกับยาเบนซ์เฟตามีน แล้วจะทำให้เกิดภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา) และส่งผลเสียต่อผู้ใช้ยา/ผู้ป่วยโดยตรง อย่างเช่นยา MAO inhibitors, Isocarboxazid, Linezolid, Methylene blue injection, Phenelzine, Rasagiline, Selegiline, Tranylcypromine(ยาต้าเศร้า) และยาอื่นๆอีกมากมาย

ผู้ที่ได้รับประทานยาเบนซ์เฟตามีนต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ หากพบว่าน้ำหนักตัวไม่ลดลงตามที่คาดหมาย ให้ผู้ป่วยหยุดการใช้ยานี้ แล้วรีบกลับมาขอคำปรึกษาจากแพทย์/มาโรงพยาบาลอีกครั้ง

อนึ่ง ยังมีข้อควรระวังของยาเบนซ์เฟตามีนอีกหลายประการที่ไม่สามารถนำมาระบุในบทความนี้ได้หมด ดังนั้น หากผู้บริโภค/ผู้ป่วยต้องการทราบข้อมูลการใช้ยาชนิดนี้เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากแพทย์ผู้ที่ทำการรักษา หรือสอบถามจากเภสัชกรตามร้านขายยาได้ทั่วไป

เบนซ์เฟตามีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

เบนซ์เฟตามีน

ยาเบนซ์เฟตามีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ ใช้เป็นยาลดน้ำหนัก ในผู้ที่มีค่าดรรชนีมวลกายตั้งแต่ 30 กิโลกรัม/เมตร2 ขึ้นไป

เบนซ์เฟตามีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาเบนซ์เฟตามีนคือ ตัวยาสามารถกระตุ้นให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทประเภท Norepinephrine และ/หรือ Dopamine ในสมอง ซึ่งสารสื่อประสาทดังกล่าว มีผลต่อเนื่องกับการทำงานของศูนย์หิวในสมอง ทำให้ผู้ที่ ได้รับยาเบนซ์เฟตามีนรับประทานอาหารได้น้อยลง จึงเป็นเหตุให้น้ำหนักตัวลดลงมา

เบนซ์เฟตามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเบนซ์เฟตามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วยตัวยา Benzphetamine ขนาด 50 มิลลิกรัม/เม็ด

เบนซ์เฟตามีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาเบนซ์เฟตามีน มีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: เริ่มต้นรับประทานยา 25-50 มิลลิกรัม วันละครั้งเดียว ในช่วงครึ่งวันเช้า
  • เด็ก/ผู้อายุช่วง 12-17 ปี: การใช้ยานี้ในช่วงวัยนี้ ขนาดรับประทานต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
  • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี: ห้ามใช้ยานี้

อนึ่ง:

  • สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ไม่ควรรับประทานยา ในช่วงบ่ายหรือเวลาเย็น ด้วยจะทำให้นอนไม่หลับ
  • รับประทานยานี้ตรงตามขนาดที่แพทย์กำหนด เพื่อป้องกันการเสพติด และ ผลข้างเคียงที่รุนแรงจากยานี้
  • ยานี้มีระยะเวลาของการรับประทานไม่กี่สัปดาห์ และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเท่านั้น

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเบนซ์เฟตามีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตต่ำ โรคความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์/โรคต่อมไทรอยด์ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเบนซ์เฟตามีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาเบนซ์เฟตามีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2เท่า คือให้รับประทานยาในขนาดปกติ

เบนซ์เฟตามีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาเบนซ์เฟตามีน สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง/พิษ)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ปากแห้ง การรับรสชาติอาหารแย่ลง คลื่นไส้ ท้องเสีย รู้สึกไม่สบายในทางเดินอาหาร/ในท้อง
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น กระสับกระส่าย วิงเวียน ปวดศีรษะ ตัวสั่นและมีเหงื่อออกมาก
  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น อารมณ์ทางเพศถดถอย
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น นอนไม่หลับ ง่วงซึม

มีข้อควรระวังการใช้เบนซ์เฟตามีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาเบนซ์เฟตามีน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้ หรือเคยติดสาร/ยาเสพติดมาก่อน
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เม็ดยาแตกหัก
  • ห้ามรับประทานยากับสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพราะจะเกิดผลข้างเคียงจากยาที่รุนแรง
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ด้วยฤทธิ์ของยานี้สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างมากมาย จนอาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้
  • เมื่อรับประทานยานี้ต่อเนื่องตามเวลาที่แพทย์กำหนด แล้วน้ำหนักตัวไม่ลดลง ควรหยุดการใช้ยานี้ และรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อขอคำปรึกษาจากแพทย์อีกครั้ง
  • ระวังการเสพติดยาชนิดนี้
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดหมาย เพื่อรับการตรวจร่างกาย และดูความก้าวหน้าของการรักษาจากแพทย์
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเบนซ์เฟตามีนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

เบนซ์เฟตามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาเบนซ์เฟตามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • ห้ามการใช้ยาเบนซ์เฟตามีนร่วมกับยา Furazolidone ด้วยจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรงจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตตามมา
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเบนซ์เฟตามีนร่วมกับยา Fluvoxamine , Fluoxetine, ด้วยยาดังกล่าวสามารถทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงของยาเบนซ์เฟตามีนมากขึ้น สังเกตจากมีอาการ หงุดหงิด วิตกกังวล กระสับกระส่าย หรือเกิดประสาทหลอนตามมา
  • การใช้ยาเบนซ์เฟตามีนร่วมกับยา Guanethidine สามารถทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของยา Guanethidine ลดลง หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
  • ห้ามการใช้ยาเบนซ์เฟตามีนร่วมกับยา Phentermine ด้วยเสี่ยง/เป็นอันตรายกับหัวใจของผู้ป่วย เช่น ทำให้ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก วิงเวียน เป็นลม ขาบวม เป็นต้น

ควรเก็บรักษาเบนซ์เฟตามีนอย่างไร?

ควรเก็บยาเบนซ์เฟตามีนภายใต้อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ และเก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น

เบนซ์เฟตามีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเบนซ์เฟตามีน ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Didrex (ไดเดรค)Pfizer

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Regimex, Recede

บรรณานุกรม

  1. https://www.drugs.com/pro/didrex.html[2017,March25]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Benzphetamine[2017,March25]
  3. https://www.drugs.com/sfx/benzphetamine-side-effects.html[2017,March25]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/benzphetamine-index.html?filter=2&generic_only=[2017,March25]