เดสโมเพรสซิน (Desmopressin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 10 เมษายน 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยาเดสโมเพรสซินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาเดสโมเพรสซินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาเดสโมเพรสซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาเดสโมเพรสซินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาเดสโมเพรสซินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาเดสโมเพรสซินอย่างไร?
- ยาเดสโมเพรสซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาเดสโมเพรสซินอย่างไร?
- ยาเดสโมเพรสซินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- เบาจืด (Diabetes insipidus)
- ปัสสาวะรดที่นอน (Bedwetting)
- เบาหวาน (Diabetes mellitus)
- ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง (Pituitary hormones)
- ยาพ่นจมูก (Nasal Sprays)
- กลุ่มยาแก้ปวดและยาพาราเซตามอล (Analgesics and Paracetamol)
บทนำ
ยาเดสโมเพรสซิน (Desmopressin) เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนที่ชื่อ วาโสเพรสซิน (Vasopressin, ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง มีหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายให้อยู่ในสมดุล และ ทำให้หลอดเลือดเกิดการบีบหดตัว) ถูกนำมาใช้เป็นยาลดการปัสสาวะที่มากเกินจนรบกวนการดำรงชีวิตประจำวันของผู้ป่วย รวมถึงใช้เป็นยารักษาภาวะเลือดออกง่ายที่มีสาเหตุจากการขาดโปรตีนที่มีชื่อเรียกว่า โคแอคกูเลชั่น แฟคเตอร์ 8 (Coagulation factor Vlll, โปรตีนที่ทำหน้าที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด)
รูปแบบการบริหารยา/ใช้ยาเดสโมเพรสซินกับผู้ป่วย มีทั้งยาเม็ดชนิดรับประทาน ยาฉีด และ ยาพ่นจมูก สำหรับในตลาดยาของบ้านเรามีการจัดจำหน่ายในชื่อการค้าว่า “มินิริน (Minirin)”
ยาเดสโมเพรสซิน สามารถดูดซึมเข้าร่างกายโดยผ่านทางเยื่อบุโพรงจมูก แต่การดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารมีปริมาณน้อย เนื่องจากยาส่วนใหญ่ถูกทำลายเสียเป็นส่วนมากในช่วงที่ยาผ่านกระ เพาะอาหารและลำไส้
คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุยาเดสโมเพรสซินลงในบัญชียาหลักแห่งชาติ สามารถพบเห็นการใช้ยานี้ได้ตามสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนโดยทั่วไป
เดสโมเพรสซินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
เดสโมเพรสซินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาอาการโรคเบาจืด (Diabetes insipidus)
- บรรเทาอาการปัสสาวะรดที่นอนตอนกลางคืน
- รักษาและบรรเทาความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด (Von Willebrand’s disease)
เดสโมเพรสซินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาเดสโมเพรสซินคือ ตัวยาจะเพิ่มการดูดกลับของน้ำเข้าสู่ร่างกายที่หน่วยไต ส่วนอีกหนึ่งกลไกจะกระตุ้นการทำงานของโปรตีน Coagulation factor VIII ที่ช่วยให้เกิดการรวมตัวของเกล็ดเลือด จากกลไกที่กล่าวมาจึงมีผลให้ยานี้มีฤทธิ์รักษาตามสรรพคุณ
เดสโมเพรสซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
เดสโมเพรสซินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 0.1 และ 0.2 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 60 และ 120 ไมโครกรัม/เม็ด
- ยาสเปรย์พ่นจมูก ขนาดความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
- ยาฉีด ขนาด 4 และ 15 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร
เดสโมเพรสซินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาเดสโมเพรสซิน มีขนาดรับประทาน เช่น
1. สำหรับโรคเบาจืด (Diabetes insipidus): เช่น
ก. ยาเม็ดชนิดรับประทาน:
- ผู้ใหญ่และเด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): รับประทานเริ่มต้นที่ 100 ไมโครกรัมวันละ 3 ครั้ง เช้า - กลางวัน - เย็น ขนาดที่คงการรักษารับประทาน 100 - 200 ไมโครกรัมวันละ 3 ครั้ง สามารถปรับขนาดรับประทานได้จาก 100 – 1,200 ไมโครกรัม/วัน
ข. ยาพ่นจมูก: เช่น
- ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี: พ่นยาขนาด 10 - 40 ไมโครกรัม/วัน อาจพ่นเพียงหนเดียวต่อวันหรือแบ่งพ่นก็ได้
- เด็กอายุ 3 เดือน - 12 ปี: พ่นยาขนาด 5 - 30 ไมโครกรัม/วัน
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน: ไม่มีข้อมูลขนาดยาที่ใช้ชัดเจน การใช้ยานี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
ค.ยาฉีด: เช่น
- ผู้ใหญ่: ฉีดเข้ากล้ามหรือใต้ผิวหนังหรือเข้าเส้นเลือด ขนาด 1 - 4 ไมโครกรัม/วัน
- เด็ก: ฉีดเข้ากล้ามหรือใต้ผิวหนังหรือเข้าเส้นเลือด ขนาด 0.4 ไมโครกรัม/วัน
2. สำหรับอาการปัสสาวะรดที่นอน (Primary nocturnal enuresis): เช่น
ก. ยาเม็ดชนิดรับประทาน: เช่น
- ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป: รับประทาน 200 - 400 ไมโครกรัมก่อนนอน
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี: ไม่มีข้อมูลขนาดยาที่ใช้ชัดเจน การใช้ยานี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
ข.ยาพ่นจมูก: เช่น
- ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป: พ่นยาขนาด 20 - 40 ไมโครกรัมก่อนนอน
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี: ไม่มีข้อมูลขนาดยาที่ใช้ชัดเจน การใช้ยานี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
3. สำหรับความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด (Von Willebrand’s disease): เช่น
ก. ยาพ่นจมูก: เช่น
- ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 50 กิโลกรัม: พ่นจมูกขนาด 150 ไมโครกรัมก่อนเข้ารับการทำหัตถการผ่าตัด
- ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 50 กิโลกรัมขึ้นไป: พ่นจมูกขนาด 300 ไมโครกรัมก่อนเข้ารับการทำหัตถการผ่าตัด
- เด็กอายุมากกว่า 12 ปีและน้ำหนักตัวต่ำกว่า 50 กิโลกรัม: พ่นจมูกขนาด 150 ไมโครกรัม ก่อนเข้ารับการทำหัตถการผ่าตัด
- เด็กอายุมากกว่า 12 ปีและน้ำหนักตัวมากกว่า 50 กิโลกรัม: พ่นจมูกขนาด 300 ไมโครกรัม ก่อนเข้ารับการทำหัตถการผ่าตัด
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี: ไม่มีข้อมูลขนาดยาที่ใช้ชัดเจน การใช้ยานี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
ข. ยาฉีด: เช่น ผู้ใหญ่และเด็ก ขนาดยาที่ใช้คือ 0.3 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หยดเข้าหลอดเลือดอย่างช้าๆใช้เวลา 15 - 30 นาทีก่อนเข้ารับการผ่าตัด 30 นาที
อนึ่ง:
- ยานี้ในรูปแบบยารับประทานสามารถรับประทานยาก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาเดสโมเพรสซิน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเดสโมเพรสซินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประ เภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานหรือลืมพ่นยาเดสโมเพรสซินสามารถรับประทานหรือพ่นยาเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานหรือการพ่นยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
เดสโมเพรสซินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
เดสโมเพรสซินสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- คลื่นไส้
- ปวดหัว
- มีน้ำมูก
- ใบหน้าแดง
- เป็นตะคริวที่ท้อง
- เจ็บคอ
- ไอ
- เจ็บบริเวณที่ฉีดยา
- ผื่นขึ้น
- บวมเนื้อตัว
- ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง (อาจสูงหรือต่ำ)
มีข้อควรระวังการใช้เดสโมเพรสซินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้เดสโมเพรสซิน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคไตที่มีค่าการทำงานของไต (ครีเอตินินเคลียแรนซ์/Creatinine clearance) น้อยกว่า 50 มิลลิลิตร/นาที
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวที่อยู่ในระหว่างการใช้ยาขับปัสสาวะเป็นยาร่วมรักษา
- ห้ามใช้ยานี้ฉีดรักษาอาการผิดปกติในการแข็งตัวของเลือดกับเด็กทารกที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ชนิดสเปรย์พ่นจมูกในผู้ป่วยที่มีโรคหรือปัญหาน้ำมูกมากในโพรงจมูก
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ที่มีอาการบวมน้ำ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และผู้สูงอายุ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะขาดสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
- ระวังการใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร การใช้ยากับผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมเดสโมเพรสซินด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิ เสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
เดสโมเพรสซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
เดสโมเพรสซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเดสโมเพรสซิน ร่วมกับ ยาบางตัวหรือบางกลุ่ม สามารถเพิ่มฤทธิ์เดสโมเพรสซินในการต้านการขับปัสสาวะ ยากลุ่มดังกล่าว เช่นยา Chlorpropamide, Clofibrate, Carbamazepine, Fludrocortisone, Urea, หรือยาในกลุ่ม TCAs หากต้องใช้ยาดังกล่าวร่วมกับยาเดสโมเพรสซิน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานของยาทั้ง 2 กลุ่มเป็นกรณีๆไป
- ยาบางตัวสามารถรบกวนการทำงานของยาเดสโมเพรสซิน ทำให้ฤทธิ์ในการต้านการขับปัสสาวะลดลง ยาดังกล่าวเช่นยา Lithium, Heparin, Demeclocycline, Noradrenaline รวมไปถึงแอลกอฮอล์ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับเดสโมเพรสซิน
- การใช้ยาเดสโมเพรสซิน ร่วมกับ ยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์เป็นยาเสพติด เช่นยา Fentanyl, Codeine จะทำให้เกิดความเสี่ยงของการบวมน้ำของร่างกาย และส่งผลให้เกิดภาวะความเข้มข้นของเกลือโซเดียมในร่างกายต่ำจนนำไปสู่ภาวะชัก มีอาการโคม่าและอาจถึงขั้นตายได้ จึงไม่แนะนำการใช้ยาดังกล่าวร่วมกับยาเดสโมเพรสซิน
ควรเก็บรักษาเดสโมเพรสซินอย่างไร?
ควรเก็บรักษาเดสโมเพรสซิน เช่น
- เก็บยาเดสโมเพรสซิน ชนิดเม็ดรับประทาน ภายใต้อุณหภูมิ 20 - 25 องศาเซลเซียส(Celsius)
- เก็บยาเดสโมเพรสซิน ชนิดพ่นจมูกและยาฉีด ภายใต้อุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส
- เก็บยาฯทุกรูปแบบ:
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อนและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ห้ามเก็บยาในตู้แช่แข็งของตู้เย็น
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
เดสโมเพรสซินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเดสโมเพรสซิน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Minirin (dDAVP) (มินิริน) | Ferring |
Minirin Melt (มินิริน เมลท์) | Ferring |
Apo-Desmopressin Spray (เอโป-เดสโมเพรสซิน สเปรย์) | Apotex |
Apo-Desmopressin Tablet (เอโป-เดสโมเพรสซิน แท็บเล็ท) | Apotex |
Octostim (อ็อกโทสทิม) | Ferring |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Desmopressin [2020,April4]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fThailand%2fdrug%2finfo%2fMinirin%2520(dDAVP)%2f%3ftype%3dbrief [2020,April4]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fThailand%2fdrug%2finfo%2fMinirin%2520Melt%2f%3ftype%3dbrief [2020,April4]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Von_Willebrand_disease [2020,April4]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fUSA%2fdrug%2finfo%2fdesmopressin%2f%3ftype%3dfull%26mtype%3dgeneric#Actions [2020,April4]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Factor_VIII [2020,April4]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/desmopressin.html [2020,April4]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fHongkong%2fdrug%2finfo%2fOctostim%2f%3ftype%3dbrief [2020,April4]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fUSA%2fdrug%2finfo%2fdesmopressin%2f%3ftype%3dfull%26mtype%3dgeneric#Dosage [2020,April4]