เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ (Serotonin 5-HT3 antagonists)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 16 สิงหาคม 2559
- Tweet
- บทนำ
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์อย่างไร?
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์อย่างไร?
- เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- โรคลำไส้แปรปรวน
- คลื่นไส้ อาเจียน (Nausea and Vomiting)
- ยากันชัก ยาต้านชัก (Anticonvulsant drugs)
- ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาแอนติฮิสตามีน (Antihistamine drug)
- ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน (Antiemetics)
บทนำ
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์(Serotonin 5-HT3 antagonist หรือ Serotonin 5-hydroxytryptamine 3 antagonist หรือ 5HT3 receptor antagonist หรือ 5-HT3 antagonist หรือ Setron) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ที่บริเวณตัวรับ(Receptor)ของร่างกาย ที่มีชื่อเรียกว่า เซโรโทนิน 5-เฮชที3 รีเซพเตอร์ (Serotonin 5-HT3 receptor หรือ 5-HT 3 receptor) โดยอาจทำความเข้าใจให้ง่ายขึ้นกล่าวคือ ตัวรับ 5-เฮชที3 เป็นตัวรับแบบชนิดย่อยของเซโรโทนิน รีเซพเตอร์(Serotonin receptor)นั่นเอง โดยมากจะพบตัวรับ 5-HT3 นี้ในบริเวณปลายประสาทสมองเวกัส (Vagus nerve, เส้นประสาทสมองคู่ที่10) อาจเรียกยากลุ่มนี้ว่า 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ หรืออีกชื่อคือ ยาในกลุ่มเซตรอน (Setron)ก็ได้
เริ่มมีการศึกษายา5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ เมื่อปี ค.ศ.1957 (พ.ศ.2500) และมีการพัฒนาสูตรตำรับยากลุ่มนี้ต่อเนื่องมาจนกระทั่งในปี ค.ศ.1991(พ.ศ.2534) และ 1993 (พ.ศ.2536) ก็มีการเปิดตัวของยากลุ่มแรกคือ Ondansetron และ Granisetron โดยทางคลินิกนำมาใช้รักษาอาการคลื่นไส้-อาเจียนของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
ปัจจุบันได้มีสูตรตำรับของยา 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ ดังนี้
ก. Ondansetron: มีทั้งรูปแบบยารับประทาน ยาฉีด และยาเหน็บทวาร องค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นยาขั้นพื้นฐานสำหรับสถานพยาบาลทั่วไป มีจำหน่ายในประเทศไทยโดยจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย
ข. Granisetron: มีทั้งชนิดยารับประทาน ยาฉีด และพลาสเตอร์ปิดผิวหนัง มีชื่อการคในต่างประเทศว่า Sancuso ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ยอมรับการใช้ในทางคลินิก
ค. Dolasetron: รูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นยาฉีดและยารับประทาน ถูกจำหน่ายในต่างประเทศภายใต้ชื่อการค้าว่า Anzemet
ง. Palonosltron: มีใช้ในรูปแบบยาฉีดและยารับประทาน มีรายงานว่าประสิทธิผลของการรักษาดีกว่า Granisetron รู้จักกันภายใต้ชื่อการค้าว่า Aloxi
จ. Ramosetron: มีรูปแบบของยารับประทานและยาฉีด นอกจากจะบำบัดอาการคลื่นไส้-อาเจียนจากยาเคมีบำบัดแล้ว ยังใช้บำบัดอาการโรคลำไส้แปรปรวนอีกด้วย ตัวยานีมีและพบเห็นการใช้ในประเทศไทย
ฉ. Tropisetron: มีรูปแบบผลิตภัณฑ์ทั้งยารับประทานและยาฉีด ยานี้ใช้แพร่หลายในอาเซียน
ทั้งนี้ กลไกการออกฤทธิ์ของตัวยาแต่ละตัวดังกล่าว จะแตกต่างตามลักษณะโครงสร้างทางเคมี รวมถึงขนาดการใช้ และระยะเวลาในการกำจัดยาเหล่านี้ออกจากร่างกาย โดยอาจสรุปเป็นตารางดังข้างล่างนี้
กลุ่มยา 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์นี้ สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ได้เหมือนกับยาอื่นทั่วไป เช่น ท้องผูกหรือไม่ก็ท้องเสีย อาจพบอาการปวดศีรษะ และวิงเวียน แต่ผลข้างเคียงของยากลุ่มนี้จะต่างจากยากลุ่มแอนตี้ฮีสตามีน(Antihistamine) คือ ไม่ก่อให้เกิดอาการสงบประสาท(คลายเครียด)หรือง่วงนอนเหมือนกลุ่มยาแอนตี้ฮีสตามีน
ตัวยาทุกตัวที่ได้กล่าวมาแล้ว มีการดูดซึมได้ดีจากระบบทางเดินอาหาร และถูกทำลายโดยเอนไซม์ของตับ
นอกจากนี้ ยังมียากลุ่ม Setron ตัวอื่นอีกที่ถูกพัฒนาติดตามมาอย่างยา Cilansetron ซึ่งมีรูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นยารับประทาน และได้มีใช้อย่างแพร่หลายในยุโรปและอเมริกา ในขณะที่ Alosetron ถูกเพิกถอน ด้วยผลอันไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง)ต่อระบบทางเดินอาหาร แต่ทางคลินิกก็ดึงยานี้กลับมาใช้ใหม่ โดยเพิ่มข้อระวังเป็นอย่างมากก่อนการใช้ยานี้
การใช้ยาต่างๆในกลุ่มยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ จะต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น ห้ามผู้ป่วยหาซื้อยาเหล่านี้มารับประทานเอง
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ลดอาการ คลื่นไส้ อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
- รักษาโรคลำไส้แปรปรวน(Irritable bowel syndrome)
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ มีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะเข้าจับกับตัวรับ(Receptor)ที่มีชื่อว่า Serotonin 5-HT3 receptor จึงส่งผลรบกวนการรวมตัวของสารSerotonin กับตัวรับดังกล่าว ทำให้เกิดฤทธิ์ยับยั้งการคลื่นไส้-อาเจียนได้ตามสรรพคุณ
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาชนิดรับประทาน
- ยาฉีด
- ในต่างประเทศ อาจพบเห็นการใช้ยานี้ในลักษณะของ ยาเหน็บทวาร และพลาสเตอร์ปิดผิวหนัง
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
ด้วยในกลุ่มยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ มีหลากหลายรายการ ขนาดรับประทาน/การใช้ยานี้ จึงขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น โดยต้องอาศัยข้อมูลของตัวผู้ป่วยร่วมด้วย อย่างเช่น อาการและความรุนแรงของอาการ น้ำหนักตัว วัยของผู้ป่วย เป็นต้น ดังนั้นขนาดการใช้ยานี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป จึงขอไม่กล่าวถึงในบทความนี้
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ ตรงเวลา
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ อาจก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น อาจทำให้ท้องเสียหรือไม่ก็ท้องผูก ชาที่ลิ้น สะอึก
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคัน ผิวแดง มีอาการหน้าแดง
- ผลต่อตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ เช่น ค่าบิลิรูบินและค่าเอนไซม์การทำงานของตับบางตัว(เช่น SGPT/ Serum glutamic-pyruvic transaminase) ในเลือดเพิ่มขึ้น
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ
มีข้อควรระวังการใช้เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยากลุ่มเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์
- ห้ามปรับเปลี่ยนขนาดรับประทานเอง
- การใช้ยานี้ในสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ด้วยยาหลายตัว ห้ามใช้กับผู้ป่วยดังกล่าว แพทย์เท่านั้นที่จะเป็นผู้คัดเลือกตัวยาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วย
- การใช้ยานี้ทุกตัวยาย่อย มีระยะเวลาของการรักษา หากพบว่าอาการไม่ดีขึ้นหลังจากการใช้ยานี้ ควรกลับไปปรึกษาแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับเปลี่ยนการรักษา
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดอย่างเคร่งครัด
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บhaamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ ร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์ จะก่อให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงนอน อย่างมาก จึงห้ามรับประทานยานี้ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
- การรับประทานยา Ondansetron ร่วมกับยากันชัก เช่น Carbamazepine, Phenytoin หรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น Rifampicin สามารถลดความเข้มข้นของยา Ondansetron ในเลือดลง จนอาจทำให้ฤทธิ์การรักษาของยา Ondansetron ลดลง ซึ่งหากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
- ห้ามใช้ยา Dolasetron ร่วมกับยา Mequitazine ด้วยจะกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะตามมา
- หลีกเลี่ยงการใช้ยา Ramosetron ร่วมกับยา Fluvoxamine ด้วยอาจทำให้ระดับความเข้มข้นของยา Ramosetron ในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น จนผู้ป่วยอาจได้รับอาการข้างเคียงต่างๆจากยา Ramosetron ตามมาเพิ่มมากขึ้น
ควรเก็บรักษาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์อย่างไร?
ควรเก็บยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ ภายใต้อุณหภูมิที่เย็น ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ห้ามเก็บยาในห้องน้ำหรือรถยนต์ เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงและ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น
เซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเซโรโทนิน 5-เฮชที3 แอนตาโกนิสต์ ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Irribow (อรีริโบว์) | Irribow (อรีริโบว์) |
Nasea (นาเซีย) | Irribow (อรีริโบว์) |
Dantron 8 (แดนทรอน 8) | Unison |
Emeset (เอเมเซท) | Cipla |
Emistop (เอมิสตอป) | Claris Lifesciences |
Ondavell (ออนดาเวล) | Novell Pharma |
Onsia (ออนเซีย) | Siam Bheasach |
Zetron (ซีทรอน) | Biolab |
Zofran/Zofran Zydis (โซฟราน/โซฟราน ไซดีส) | GlaxoSmithKline |
บรรณานุกรม
- http://en.wikipedia.org/wiki/Serotonin_antagonist [2016,July23]
- https://en.wikipedia.org/wiki/5-HT3_antagonist [2016,July23]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ondansetron [2016,July23]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Granisetron [2016,July23]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Dolasetron [2016,July23]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ramosetron [2016,July23]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Tropisetron [2016,July23]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/ondansetron/?type=brief&mtype=generic [2016,July23]