เซฟาแมนโดล (Cefamandole)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 8 มีนาคม 2560
- Tweet
- บทนำ
- เซฟาแมนโดลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- เซฟาแมนโดลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เซฟาแมนโดลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เซฟาแมนโดลมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมฉีดยาควรทำอย่างไร?
- เซฟาแมนโดลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เซฟาแมนโดลอย่างไร?
- เซฟาแมนโดลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเซฟาแมนโดลอย่างไร?
- เซฟาแมนโดลมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- แบคทีเรีย: โรคจากแบคทีเรีย (Bacterial infection)
- ยาเซฟาโลสปอริน (Cephalosporin)
- เพนิซิลลิน (Penicillin)
- กลุ่มอาการคล้ายปฏิกิริยาจากยาไดซัลฟิแรม (Disulfiram-like Reaction)
บทนำ
ยาเซฟาแมนโดล(Cefamandole หรือ Cephamandole) เป็นยาเซฟาโลสปอริน รุ่นที่ 2 (Second-generation cephalosporin) เป็นยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์กว้างขวางในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียทั้งชนิดแกรมบวก(Gram positive)และชนิดแกรมลบ (Gram negative) รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาเซฟาแมนโดลเป็นยาฉีด โดยสามารถฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าหลอดเลือดก็ได้ เมื่อตัวยานี้อยู่ในกระแสเลือด จะเข้ารวมตัวกับพลาสมาโปรตีนประมาณ 70% ยานี้สามารถกระจายเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย น้ำไขสันหลัง น้ำไขข้อ/น้ำในข้อ รวมถึงของเหลวภายในปอด และร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 0.5-1.2 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อกำจัดยานี้ทิ้ง โดยผ่านไปกับปัสสาวะ
ยาเซฟาแมนโดลไม่เหมาะกับผู้มีประวัติแพ้ยากลุ่มเซฟาโลสปอริ หรือแพ้ยา กลุ่มเพนิซิลลิน(Penicillin) และต้องระวังเป็นอย่างมากหากจะใช้กับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการทำงานของเกล็ดเลือด
ทางคลินิก ได้นำยาเซฟาแมนโดลมารักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ ผิวหนัง กระดูก ข้อ ระบบทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง โดยตัวยานี้มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ส่งผลระงับการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย จึงเป็นเหตุให้แบคทีเรียหยุดการกระจายพัน
ยาเซฟาแมนโดล ทำให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)กับระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ เช่น ระบบเลือด ระบบทางเดินอาหาร การทำงานของตับ และของผิวหนัง เป็นต้น
หลังการใช้ยาเซฟาแมนโดลจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอาการดีขึ้นภายในเวลาไม่นาน แต่ยังต้องใช้ยานี้ต่อเนื่องให้ครบคอร์ส(Course)ของการรักษาตามแพทย์สั่งซึ่งเหมือนกับการใช้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นๆทั่วไป
มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบเกี่ยวกับยาเซฟาแมนโดล โดยอาจสรุปเป็นข้อๆได้ดังนี้ เช่น
- ยาเซฟาแมนโดลเป็นยาที่ใช้ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ไม่สามารถนำมารักษาโรคที่มี สาเหตุจากเชื้อไวรัสได้
- การใช้ยานี้เป็นเวลานานๆ บ่อยครั้งจนเกินไป อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อ ที่ยานี้ไม่สามารถต่อต้านได้ เช่น เชื้อรา เป็นต้น
- ผู้ที่ได้รับยาเซฟาแมนโดล อาจมีอาการท้องเสีย หากพบอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และ/หรือมีเลือดปนมากับอุจจาระ/อุจจาระเป็นเลือด ควรต้องรีบแจ้งแพทย์/กลับมาโรงพยาบาลทันที และไม่แนะนำให้ผู้ป่วยไปซื้อยาแก้ท้องเสียมารับประทานเอง
- ยาเซฟาแมนโดล อาจทำให้การรวมตัวของเกล็ดเลือดช้าลงกว่าเดิม ระหว่างการใช้ยานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลและทำให้มีภาวะเลือดออกตามมามาก เพราะยานี้จะทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก
- การใช้ยานี้กับผู้สูงอายุต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อ การเกิดพิษหรืออาการข้างเคียงที่รุนแรงได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
- สตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังการใช้ยาแทบทุกประเภท ซึ่งรวมถึงยาเซฟาแมนโดลด้วยเช่นกัน เพราะอาจได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงติดตามมา
ยาเซฟาแมนโดลจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย ในประเทศไทย สามารถพบเห็น การใช้ยานี้ได้ตามสถานพยาบาลต่างๆ และรู้จักกันในชื่อการค้าว่า “Cefmandol” ผู้บริโภค/ผู้ป่วยสามารถสอบถามข้อมูลการใช้ยานี้เพิ่มเติมได้จากแพทย์ผู้รักษา หรือจากเภสัชกรที่ประจำในสถานพยาบาลหรือที่ร้านขายยาได้โดยทั่วไป
เซฟาแมนโดลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ตอบสนองกับยาเซฟาแมนโดล
- ใช้เป็นยาป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียระหว่างการผ่าตัด
เซฟาแมนโดลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดล มีกลไกการออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์ผนังเซลล์ในตัวแบคทีเรีย ส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต ไม่สามารถกระจายพันธุ์ และตายลงในที่สุด จากกลไกดังกล่าว จึงก่อให้เกิดฤทธิ์ของการรักษาได้ตามสรรพคุณ
เซฟาแมนโดลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีดชนิดผงปราศจากเชื้อที่ประกอบด้วยตัวยา Cefamandole ขนาด 1 กรัม/ขวด
เซฟาแมนโดลมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดลมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก.สำหรับรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ตอบสนองต่อยาเซฟาแมนโดล:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ หรือหยดเข้าหลอดเลือดดำอย่างช้าๆโดยใช้เวลเดินยาประมาณ 3–5 นาที ในขนาดยา 0.5–2 กรัม ทุกๆ 4–8 ชั่วโมง
- เด็กที่อายุมากกว่า 1 เดือน: ฉีดยาขนาด 50–100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน โดยแบ่งฉีดยาตามคำสั่งแพทย์เข้าหลอดเลือดดำ กรณีติดเชื้อรุนแรง แพทย์อาจให้ยาได้ถึง 150 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน
- เด็กที่อายุตั้งแต่ 1 เดือนลงมา: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ การใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
ข.สำหรับป้องกันการติดเชื้อระหว่างการผ่าตัด:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาขนาด 1หรือ2 กรัม เข้าหลอดเลือดดำ หรือเข้ากล้ามเนื้อ โดยต้องให้ยาก่อนการผ่าตัดประมาณ 30–60 นาที จากนั้น แพทย์อาจให้ยาอีก 1หรือ2 กรัม ทุกๆ 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 24–48 ชั่วโมง
- เด็กที่อายุมากกว่า 3 เดือน: ฉีดยาขนาด 50–100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน ต้องให้ยาเข้าหลอดเลือดดำก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 30–60 นาที จากนั้น แพทย์อาจให้ยาอีกทุกๆ 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 24–48 ชั่วโมง หากจำเป็น แพทย์อาจต้องให้ยาถึง 72 ชั่วโมง
- เด็กที่อายุตั้งแต่ 3 เดือนลงมา: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ การใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
- *****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเซฟาแมนโดล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคไต โรคตับ มีภาวะเลือดออกง่าย รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเซฟาแมนโดลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมฉีดยาควรทำอย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดลเป็นยาฉีดที่ใช้ในสถานพยาบาล จึงต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์และมีตารางการให้ยากับผู้ป่วยอย่างชัดเจน ดังนั้นโอกาสลืมฉีดยาจึงเป็นไปได้น้อยมาก
เซฟาแมนโดลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น อาจพบภาวะลำไส้ใหญ่อักเสบ ชนิด Pseudomembranous colitis คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น เกิดอาการชัก เกิดพิษต่อสมอง/สมองอักเสบ
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีภาวะ ผด ผื่น คัน
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกล็ดเลือดทำงานได้ช้ากว่าปกติจนอาจเกิดภาวะเลือดออกง่าย
- ผลต่อตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ/ตับอักเสบ ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
- ผลต่อไต: เช่น เป็นพิษกับไต/ไตอักเสบ
มีข้อควรระวังการใช้เซฟาแมนโดลอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเซฟาแมนโดล เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยา กลุ่มเซฟาโซลิน(Cephalosporin) หรือกลุ่มเพนิซิลลิน(Penicillin)
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ และ/หรือ ตับ-ไต ทำงานผิดปกติ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด
- การใช้ยานี้บ่อยหรือนานเกินไป อาจพบภาวะติดเชื้อโรคชนิดอื่นที่ไม่ตอบสนอง ต่อยานี้เช่น เกิดเชื้อรา
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเซฟาแมนโดลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพร ต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
เซฟาแมนโดลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเซฟาแมนโดลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเซฟาแมนโดลร่วมกับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- ขณะที่ผู้ป่วยได้รับยาเซฟาแมนโดล ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบ ด้วยจะก่อให้เกิดกลุ่มอาการคล้ายปฏิกิริยาจากยาไดซัลฟิแรม (Disulfiram-like Reaction)
- การใช้ยาเซฟาแมนโดลร่วมกับยา Probenecid อาจทำให้ระดับยาเซฟาแมนโดล ในเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงที่สูงขึ้นจากยาเซฟาแมนโดล ตามมา หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
ควรเก็บรักษาเซฟาแมนโดลอย่างไร?
ควรเก็บยาเซฟาแมนโดล ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุในเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
เซฟาแมนโดลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเซฟาแมนโดลที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Cefmandol (เซฟแมนดอล) | General Drugs House |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Mandol
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cephalosporin[2017,Feb18]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cefamandole[2017,Feb18]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/cefamandole/?type=brief&mtype=generic[2017,Feb18]
- http://www.rxlist.com/mandol-drug/side-effects-interactions.html[2017,Feb18]
- https://www.drugbank.ca/drugs/DB01326[2017,Feb18]