อินซูลิน ลิสโปร (Insulin lispro)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาอินซูลินลิสโปร(Insulin lispro) เป็นฮอร์โมนอินซูลิน/อินซูลินสังเคราะห์ที่ออกฤทธิ์เร็ว ที่ใช้รักษาโรคเบาหวานประเภท I และ II รวมถึงเบาหวานประเภทที่มีภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic ketoacidosis) นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรมตัดต่อโครโมโซมของแบคทีเรีย Escherichia coli (E.coli)ทำให้แบคทีเรียชนิดนี้สร้างอินซูลินประเภทออกฤทธิ์เร็ว(Rapid acting insulin หรือ Fast acting insulin)ที่มีระยะเวลาการออกฤทธิ์นาน 2–4 ชั่วโมงโดยตัวยาจะออกฤทธิ์ภายใน15นาทีหลังฉีดยา ซึ่งได้แก่ ยาอินซูลินลิสโปร ยานี้มีความคล้ายกับอินซูลินของมนุษย์ แต่จะแตกต่างกันบ้างที่การจัดเรียงกรดอะมิโนบนโครงสร้างโมเลกุลของอินซูลิน กล่าวคือ ถ้าแบคทีเรียผลิตอินซูลินที่มีโครงสร้างการเรียงตัวของกรดอะมิโนแบบสลับตำแหน่งหรือถูกแทนที่ด้วยกรดอะมิโนตัวใหม่หรือเพิ่มกรดไขมันเข้าในโครงสร้างอินซูลิน ก็จะทำให้ได้อินซูลินชนิดที่มีความแตกต่างกันในเรื่องระยะเวลาการออกฤทธิ์ เช่น Rapid acting Insulin, Regular หรือ Short-acting Insulin(อินซูลินออกฤทธิ์ระยะสั้น เช่น ยา Regular insulin), Intermediate acting Insulin (อินซูลินที่ออกฤทธิ์ได้นานในระยะกลาง เช่น NPH insulin), หรือ Long-acting Insulin(ยาอินซูลินที่ออกฤทธิ์ได้นาน เช่น Insulin glargine)

ยาอินซูลินลิสโปรเกิดจากการสลับตำแหน่งของกรดอะมิโน 2 ตัวที่มีชื่อว่า โปรลีน(Proline)และไลซีน(Lysine) จึงได้อินซูลินประเภทออกฤทธิ์เร็ว (Rapid acting insulin) ซึ่งเป็นอินซูลินชนิดที่มีลักษณะสารละลายใส ผู้ป่วยที่ได้รับยาอินซูลินลิสโปรฉีดเข้าใต้ผิวหนังเพียงภายใน15 นาทียาก็จะออกฤทธิ์ ซึ่งรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของยาอินซูลินลิสโปร มีทั้งแบบไวอัล(Vial) และแบบปากกาอินซูลินที่พร้อมใช้งาน(Prefilled pen)

ผู้ที่ได้รับยาอินซูลินทุกประเภทรวมยาอินซูลินลิสโปร จะต้องได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆจากแพทย์ เพื่อเป็นการตรวจประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของยาอินซูลินที่แพทย์สั่งจ่ายว่า เหมาะสมกับผู้ป่วยเบาหวานมากน้อยเพียงใด

ผู้ป่วยเบาหวานบางกลุ่มไม่สามารถใช้ยาอินซูลินลิสโปรได้ หากมีประวัติแพ้ยานี้ หรือแพ้ส่วนประกอบในสูตรตำรับยานี้ หรือสภาพร่างกายของผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำอยู่แล้ว หรือมีภาวะพร่อง/ขาดเกลือโปแตสเซียมในเลือด

นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มียารักษาโรคชนิดอื่นๆใช้อยู่ก่อน ก็สามารถเกิดภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา)กับยาอินซูลินลิสโปรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มยาBeta-blockers, Clonidine, Guanethidine, Lithium, หรือ Reserpine, ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวาน ควรต้องแจ้งให้ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทราบโดยละเอียดว่าตนเองมียาประเภทใดที่รับประทานอยู่ก่อน มีโรคประจำตัวอื่นใดอยู่บ้าง

ยาอินซูลินลิสโปร จัดเป็นยาประเภทฮอร์โมนที่มีความไวต่ออุณหภูมิสูงจึงต้องจัดเก็บในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 2–8 องศาเซลเซียส(Celsius) ก่อนนำยาอินซูลินชนิดนี้กลับมาใช้ที่บ้าน ผู้ป่วยเบาหวาน/ญาติจะต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีการใช้ยาอินซูลินนี้จากแพทย์/พยาบาล/เภสัชกร และต้องใช้ยาอินซูลินนี้ตามขนาดที่แพทย์แนะนำ นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้สภาวะร่างกายที่มีระดับน้ำตาล ในเลือดต่ำหรือสูงเกินไปจากแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เพื่อจะได้ใช้วิธีปฐมพยาบาลตนเองได้อย่างเหมาะสม และถูกต้อง (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง “วิธีฉีดอินซูลินให้ตนเอง” และเรื่อง “ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำใน โรคเบาหวาน”)

*หากเกิดข้อผิดพลาดที่ผู้ป่วยได้รับยาอินซูลินชนิดนี้เกินขนาด จะทำให้มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หากน้ำตาลในเลือดต่ำมาก ผู้ป่วยอาจอยู่ในสภาพหมดสติ ผู้พบเห็นจะต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน แพทย์จะใช้ยา Glucagon ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อบำบัดอาการ และ/หรือให้น้ำตาลกลูโคส(Glucose)เข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยทำให้ร่างกายผู้ป่วยฟื้นสภาพโดยเร็ว

คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้จัดกลุ่มยาอินซูลินทุกประเภท รวมยาอินซูลินลิสโปร อยู่ในประเภทยาอันตราย การใช้ยาอินซูลินทุกประเภท รวมยาอินซูลินลิสโปร จะต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น ห้ามมิให้ผู้ป่วยปรับขนาดการใช้ยานี้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ผู้บริโภค/ผู้ป่วยสามารถพบเห็นการใช้ยาอินซูลิน ลิสโปรได้ตามสถานพยาบาลทั่วไป

อินซูลิน ลิสโปรมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

อินซูลินลิสโปร

ยาอินซูลิน ลิสโปรมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เพื่อ

  • ใช้รักษาโรคเบาหวานทั้งประเภทที่ I และ II
  • รักษาเบาหวานในผู้ป่วยที่มีสภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic ketoacidosis)

อินซูลิน ลิสโปรมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาอินซูลินลิสโปร เป็นอินซูลินที่ออกฤทธิ์เร็ว โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อ รวมถึงเซลล์ไขมัน นำกลูโคสในกระแสเลือดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งการปลดปล่อยน้ำตาลกลูโคสจากตับเข้าสู่กระแสเลือด ด้วยกลไกเหล่านี้จึงทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเป็นที่มาของสรรพคุณ

อินซูลิน ลิสโปรมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาอินซูลิน ลิสโปรมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็น ยาฉีดที่เป็นสารละลายใส โดยมีรูปแบบเภสัชภัณฑ์ ดังนี้

  • เป็นขวดไวอัล(Vial) ที่บรรจุ Insulin lispro ขนาด 1,000 ยูนิต/10 มิลลิลิตร
  • ปากกาอินซูลินพร้อมใช้งานที่บรรจุ Insulin lispro ขนาด 300 ยูนิต/3 มิลลิลิตร

อินซูลิน ลิสโปรมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ยาอินซูลินลิสโปร มีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 0.5–1 ยูนิต/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน โดยควรฉีดยาก่อนรับประทานอาหาร 15 นาที หรือฉีดยาหลังรับประทานอาหารทันที หรือ ตามคำสั่งแพทย์
  • เด็ก: ขนาดการใช้ยานี้สำหรับเด็กให้เป็นไปตามคำสั่งแพทย์

อนึ่ง:

  • ผู้ป่วย โรคตับ โรคไต แพทย์อาจปรับลดขนาดการใช้ยาลงมาตามความเหมาะสม
  • ฉีดยาอินซูลินชนิดนี้ตรงตามเวลาต่อเนื่องสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง และไม่ควรปรับขนาดการฉีดยาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
  • เรียนรู้เทคนิคการฉีดยา การเก็บรักษา สภาวะมีน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจากแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เพื่อดูแลตนเองขณะอยู่ในที่พักอาศัย (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง “วิธีฉีดอินซูลินให้ตนเอง” และเรื่อง “ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำใน โรคเบาหวาน”)

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาอินซูลินลิสโปร ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอินซูลินลิสโปร อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมฉีดยาควรทำอย่างไร?

กรณีลืมฉีดยาอินซูลินลิสโปร ผู้ป่วยอาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเกิดขึ้นได้ง่าย อย่างไรก็ตาม หากลืมฉีดยานี้ ก็สามารถฉีดยาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการใช้ยาในครั้งถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2เท่า ให้ฉีดยาในขนาดปกติ

อินซูลิน ลิสโปรมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาอินซูลินลิสโปรสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อหัวใจ: เช่น อาการบวมของมือและเท้า
  • ผลต่อผิวหนัง เช่น อาจเกิดภาวะไขมันสะสมผิดปกติในบริเวณผิวหนัง มีผื่นคัน ลมพิษ
  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • ผลต่อตา: เช่น เกิดความผิดปกติกับเส้นประสาทตาที่ส่งผลให้ตามัว
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ เจ็บปลายเส้นประสาท เกิดอาการไข้
  • ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย: เช่น มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ ร่างกายเกิดภาวะติดเชื้อต่างๆได้ง่าย
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้อง
  • ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดกล้ามเนื้อ
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น คออักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ ไอ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ

มีข้อควรระวังการใช้อินซูลิน ลิสโปรอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาอินซูลิน ลิสโปร เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาอินซูลินชนิดนี้
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ขณะใช้ยานี้เพราะจะทำให้เกิดภาวะ น้ำตาลในเลือดผิดปกติ(อาจทั้งสูง หรือต่ำ)ได้ง่าย
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็ก โดยไม่มีคำสั่งแพทย์
  • ห้ามปรับขนาดการใช้ยานี้ด้วยตนเอง และต้องใช้ยานี้ตามขนาดที่แพทย์แนะนำ
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เกิดตะกอนขุ่น
  • ใช้ยานี้ต่อเนื่องตามคำสั่งแพทย์ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
  • ควรเปลี่ยนตำแหน่งการฉีดยานี้ไม่ให้ซ้ำบริเวณเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงผิวหนังอักเสบในบริเวณที่ฉีดยานี้ซ้ำๆ
  • ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองเป็นประจำตาม แพทย์ พยาบาล เภสัชกรแนะนำ
  • ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และพักผ่อน ตามที่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร แนะนำ
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อ การตรวจร่างกาย การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด ตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาอินซูลิน ลิสโปรด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

อินซูลิน ลิสโปรมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาอินซูลินลิสโปร มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาอินซูลินลิสโปรร่วมกับ ยารักษาเบาหวานชนิดอื่น , กลุ่มยาMAOIs, ACE inhibitors, Salicylates, Pentamidine, Propoxyphene, อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาอินซูลินลิสโปร ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายผู้ป่วยเป็นกรณีไป
  • ห้ามใช้ยาอินซูลิน ลิสโปรร่วมกับกลุ่มยาThiazolidinediones ด้วยเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายตามมา
  • ห้ามใช้ยาอินซูลิน ลิสโปรร่วมกับยา Gatifloxacin ด้วยจะทำให้ผู้ป่วยมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือไม่ก็สูงตามมา

ควรเก็บรักษาอินซูลิน ลิสโปรอย่างไร?

ควรเก็บยาอินซูลินลิสโปร ภายใต้อุณหภูมิ 2–8 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือรถยนต์

อินซูลิน ลิสโปรมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาอินซูลินลิสโปรที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Humalog (ฮิวมาล็อก)Eli Lilly

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Flexpen, Insuman rapid, Novorapid flexpen

บรรณานุกรม

  1. https://www.drugs.com/mtm/insulin-lispro.html[2017,June3]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Insulin_lispro[2017,June3]
  3. http://www.mims.com/thailand/drug/info/insulin%20lispro/?type=brief&mtype=generic[2017,June3]
  4. http://www.ema.europa.eu/docs/en_GB/document_library/EPAR_-_Scientific_Discussion/human/000088/WC500050329.pdf[2017,June3]
  5. http://www.webmd.com/diabetes/tc/types-of-insulin-topic-overview#1[2017,June3]
  6. http://www.diabetes.co.uk/insulin/insulin-actions-and-durations.html/a>[2017,June3]