อะแวนาฟิล (Avanafil)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาอะแวนาฟิล(Avanafil) เป็นยาในกลุ่ม พีดีอี 5 อินฮิบิเตอร์ (PDE 5 inhibitor) ทางคลินิกใช้เป็นยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพของเพศชาย ยานี้ได้รับการขึ้นทะเบียนและเป็นที่ยอมรับ เมื่อปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) โดยมีการจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้าว่า “Stendra และ Spedra” ยาอะแวนาฟิลมีกลไกการออกฤทธิ์คล้ายกับ Sildenafil ,Tadalafil, และ Vardenafil, คือทำให้องคชาติแข็งตัวแต่มีจุดเด่นกว่า ตรงที่ยาอะแวนาฟิลเป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยานี้เป็นยาประเภทรับประทาน โดยมีการดูดซึมอย่างรวดเร็วจากระบบทางเดินอาหาร ตัวยาในกระแสเลือดจะมีระดับสูงสุดภายในเวลาประมาณ 30–45 นาทีหลังการรับประทาน และจะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนถึงประมาณ 99% ตับจะเป็นอวัยวะที่คอยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางชีวะโมเลกุลของยาอะแวนาฟิลอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เพื่อกำจัดยานี้ออกไปกับอุจจาระและปัสสาวะ

ยาอะแวนาฟิล อาจเป็นเหตุให้เกิดความดันโลหิตต่ำ ดังนั้นผู้บริโภค/ผู้ป่วยที่มีความประสงค์จะใช้ยานี้ต้องไม่มีภาวะหรือการเจ็บป่วยจากโรคความดันโลหิตต่ำ

ผู้ใช้ยาอะแวนาฟิลขณะอยู่ในช่วงปฏิบัติกิจกรรมทางเพศแล้วเกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ ชา เช่น มีอาการเป็นเหน็บ/ชาที่ ทรวงอก แขน คอ หรือกราม ต้องหยุดปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าว แล้วรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว/ทันที/ฉุกเฉิน ด้วยอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้

การใช้ยาอะแวนาฟิลได้อย่างปลอดภัย ควรมีแบบแผนและขั้นตอนปฏิบัติดังนี้ เช่น

  • ห้ามใช้ยานี้เกินวันละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดความดันโลหิตต่ำ
  • หากพบว่าหลังใช้ยานี้แล้วเกิดภาวะองคชาติแข็งค้างนานเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป ควรรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที ด้วยภาวะดังกล่าวอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อองคชาติได้
  • ยานี้มีฤทธิ์ลดการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทตา จนอาจเป็นเหตุให้สูญเสียการมองเห็นได้ แต่อาการดังกล่าวอาจเกิดกับผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
  • ยานี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคหัวใจ ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ผู้ป่วยด้วยโรคเลือด ผู้ที่มีภาวะ เลือดออกง่าย ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินหรือการ มองเห็น ผู้ที่มีรูปทรงองคชาติที่ผิดปกติ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาอะแวนาฟิลร่วมกับเครื่องดื่มประเภทสุราด้วยจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำมากตามมา
  • น้ำผลไม้อย่าง Grapefruit juice เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อม ยาอะแวนาฟิล เพราะอาจทำให้ผู้บริโภค/ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจากยานี้มากขึ้น
  • ยาอะแวนาฟิล ไม่สามารถใช้เป็นยาป้องกันการติดเชื้อเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยโรคเอดส์ได้ ทั้งนี้ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่มีความเข้าใจผิดคิดว่าตัวยาอะแวนาฟิลสามารถป้องกันโรคเอดส์ได้
  • แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยานี้ขนาดที่ต่ำที่สุด แต่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
  • อาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่พบได้บ่อยเมื่อมีการใช้ยาอะแวนาฟิลคือ ปวดศีรษะ ค่าECGผิดปกติ วิงเวียน หากพบอาการข้างเคียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญหรือเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมทางเพศเมื่อใช้ยานี้ ควรกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการใช้ยานี้ เช่น การลดขนาดรับประทาน หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นยาตัวใหม่แทน

อาจสรุปเป็นภาพรวมได้ว่า ปัจจัยที่จะต้องนำมาประเมินว่าตนเองว่า เหมาะที่จะใช้ยาอะแวนาฟิลหรือไม่นั้น อาจใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้ เช่น

  • ต้องทำให้สมรรถนะทางเพศกลับมาดีเป็นปกติ
  • ไม่ควรมีผลข้างเคียงมารบกวนและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ยานี้
  • ความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ ควรอยู่ในเกณฑ์ปกติ

กรณีที่ต้องการทราบข้อมูลของยาอะแวนาฟิลเพิ่มเติม ผู้บริโภคสามารถสอบถามได้จากแพทย์ผู้ตรวจรักษา หรือสอบถามได้จากเภสัชกรตามร้านขายยาทั่วไป

อะแวนาฟิลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

อะแวนาฟิล

ยาอะแวนาฟิลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ

  • บำบัดการหย่อนสมรรถนะทางเพศของบุรุษ(นกเขาไม่ขัน)

อะแวนาฟิลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ตัวยาอะแวนาฟิลจะออกฤทธิ์ทำให้เนื้อเยื่อซึ่งมีลักษณะเป็นรูปแท่งที่อยู่ในองคชาติ หรือที่เรียกว่า Corpus cavernosum แข็งตัว โดยตัวยาอะแวนาฟิลจะทำให้หลอดเลือดบริเวณเนื้อเยื่อนั้นขยายตัวออก ส่งผลให้มีเลือดเข้ามาหล่อเลี้ยงบริเวณองคชาติได้มากขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดการแข็งตัวขององคชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการปฏิบัติกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์

อะแวนาฟิลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาอะแวนาฟิลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เป็น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทานที่ประกอบด้วย Avanafil ขนาด 50, 100, และ200 มิลลิกรัม/เม็ด

อะแวนาฟิลมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาอะแวนาฟิลมีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: เริ่มต้นรับประทานยา 100 มิลลิกรัม ครั้งเดียว ขนาดรับประทานที่ใช้ ทั่วไป อยู่ที่ 50–200 มิลลิกรัม วันละ1 ครั้ง โดยควรรับประทานยานี้ ก่อนมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 30 นาที และขนาดรับประทานยาสูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/วัน
  • ผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี: ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา

อนึ่ง:

  • ยานี้ใช้กับเฉพาะบุรุษเพศ และมิได้มีวัตถุประสงค์การใช้ในสตรี
  • ห้ามใช้ยาเกินวันละ 1 ครั้ง

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาอะแวนาฟิล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ แผลในระบบทางเดินอาหาร(เช่น แผลในกระเพาะอาหาร) โรคความดันโลหิตสูง โรคความดันโลหิตต่ำ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอะแวนาฟิลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆตามมา

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

ยาอะแวนาฟิล ต้องรับประทานก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 30 นาที หากลืมรับประทานยา สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ โดยใช้ยาในขนาดปกติเท่านั้น ห้ามปรับขนาดรับประทานเพิ่มขึ้นเด็ดขาด

อะแวนาฟิลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาอะแวนาฟิลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น หน้าแดง อาจเกิดความดันโลหิตสูงหรือต่ำ ค่าECGของหัวใจผิดปกติ มือ-เท้าบวม กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เกิดหลอด เลือดดำขอด หัวใจเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก/ แน่นหน้าอก
  • ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น มีเลือดปนมากับปัสสาวะ/ปัสสาวะเป็นเลือดและ/หรือ ปนมากับน้ำอสุจิ
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคันตามร่างกาย
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสีย หรือท้องผูก อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดกรดไหลย้อน รู้สึกม่สบายในช่องท้อง อาเจียน ปากแห้ง ปวดท้อง
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ กล้ามเนื้อเกร็งตัว/เป็นตะคริว
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน ง่วงนอน
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น ซึม นอนไม่หลับ
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น แน่นจมูก/คัดจมูก เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ เจ็บคอ ไอ หายใจขัด/หายใจลำบาก
  • ผลต่อตับ: เช่น ทำให้ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงเพิ่มขึ้น ค่าบิลิรูบินในเลือดสูงขึ้น
  • ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย: เช่น เป็นไข้หวัด/โรคหวัด เกิดอาการแพ้อากาศ
  • ผลต่อระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำหรือไม่ก็สูง เกิดภาวะโรคเกาต์คุกคาม น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • ผลต่อตา: เช่น มีอาการตาพร่า หรือมองไม่เห็น

มีข้อควรระวังการใช้อะแวนาฟิลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาอะแวนาฟิล เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มี โรคหัวใจ ผู้มีภาวะตกเลือด เช่น เลือดออกในกระเพาะอาหาร/เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เลือดออกในสมอง/เลือดออกในกะโหลกศีรษะ โรคตับ โรคไต ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินหรือการมองเห็น รวมถึงผู้ที่มีรูปทรงองคชาติที่ผิดปกติ
  • ห้ามใช้ยานี้กับ สตรี และผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง หรือใช้ยานี้เกินจากคำสั่งแพทย์
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เม็ดยาแตกหัก สียาเปลี่ยนไป
  • ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
  • ห้ามรับประทานยานี้เกิน 1 ครั้งต่อวัน
  • หากพบอาการข้างเคียงที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตประจำวันจากการใช้ยานี้ เช่น ปวดศีรษะ เกิดผื่นคันตามตัว องคชาติแข็งตัวนานเกิน 4 ชั่วโมง ควรรีบกลับมาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดหมาย และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาอะแวนาฟิลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

อะแวนาฟิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาอะแวนาฟิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาอะแวนาฟิลร่วมกับยา Amprenavir, Ciprofloxacin, ด้วยจะก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ วิงเวียน เป็นลม ตาพร่า ได้ยินเสียงในหู/หูอื้อ เจ็บแน่นหน้าอก ตามมา
  • ห้ามใช้ยาอะแวนาฟิลร่วมกับยา Clarithromycin, Cobicistat, เพราะอาจทำให้ระดับยาอะแวนาฟิลในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้ผู้ใช้ยาได้รับอาการข้างเคียงรุนแรงของยาอะแวนาฟิลตามมา
  • ห้ามใช้ยาอะแวนาฟิลร่วมกับยา Isosorbide ด้วยจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำมากจนเป็นเหตุให้ระบบการทำงานระบบหัวใจและหลอดเลือดล้มเหลว/หัวใจวาย
  • การใช้ยาอะแวนาฟิลร่วมกับยา Somatropin(ยาฮอร์โมนชนิดหนึ่งสร้างจากต่อมใต้สมอง) อาจทำให้ระดับยาอะแวนาฟิลในเลือดลดลงจนเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพของการรักษาด้วยยาอะแวนาฟิลด้อยตามลงไป

ควรเก็บรักษาอะแวนาฟิลอย่างไร?

ควรเก็บยาอะแวนาฟิลภายใต้อุณหภูมิ 20–25 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ห้ามเก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ และ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น

อะแวนาฟิลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาอะแวนาฟิลที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผูเผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Stendra (สเตนดรา)Vivus, Inc.
Spedra (สเปดรา)Menarini - Von Heyden GmbH

บรรณานุกรม

  1. https://www.drugs.com/sfx/avanafil-side-effects.html[2017,March18]
  2. https://www.drugbank.ca/drugs/DB06237[2017,March18]
  3. https://www.drugs.com/drug-interactions/avanafil-index.html?filter=3&generic_only[2017,March18]
  4. https://en.wikipedia.org/wiki/Avanafil[2017,March18]