อะมิโลไรด์ (Amiloride)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 17 กันยายน 2564
- Tweet
- บทนำ :คือยาอะไร?
- อะมิโลไรด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- อะมิโลไรด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- อะมิโลไรด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- อะมิโลไรด์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- อะมิโลไรด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้อะมิโลไรด์อย่างไร?
- อะมิโลไรด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาอะมิโลไรด์อย่างไร?
- อะมิโลไรด์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวาย (Heart failure)
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- ยาขับปัสสาวะ (Diuretics Drugs)
- โพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia)
- ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (Hydrochlorothiazide)
บทนำ :คือยาอะไร?
อะมิโลไรด์ (Amiloride) คือ ยาขับปัสสาวะ ที่แพทย์นำมาใช้รักษาอาการบวมน้ำ, โรคความดันโลหิตสูง, รวมถึงภาวะหัวใจล้มเหลว โดยเป็นยาชนิดที่ทำให้ร่างกายลดปริมาณน้ำและเกลือโซเดียมออกจากกระแสเลือด ซึ่งผ่านกระบวนการกรองที่ไตและขับออกมากับปัสสาวะ แต่ไม่เร่งการขับออกของเกลือโพแทสเซียม (Potassium - sparing diuretics)
หลังการรับประทาน ยาอะมิโลไรด์จะมีการดูดซึมของยาเข้าสู่กระแสเลือด และยาจะไม่ถูกเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีแต่อย่างใด ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 6 - 9 ชั่วโมงในการกำจัดยา 50% ออกจากกระแสเลือดโดยผ่านไปกับปัสสาวะ
องค์การอนามัยโลกจัดให้อะมิโลไรด์เป็นหนึ่งในรายการยาจำเป็นขั้นพื้นฐานของระดับชุม ชน คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุยาอะมิโลไรด์อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติโดยระบุมีส่วนผสมร่วมกับยาขับปัสสาวะอีกตัวชื่อ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์/Hydrochlorothiazide (Amiloride hydrochloride 5 มิลลิกรัม + Hydrochlorothiazide/ HCTZ 50 มิลลิกรัม)
*อนึ่ง: ความเสี่ยงสำคัญในการใช้ยาตัวนี้ มีอยู่ประการหนึ่งที่ควรระวัง คือ
- เกิดภาวะเกลือ โพแทสเซียมในเลือดสูง(Hyperkalemia) โดยจะแสดงออกทางอาการ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชีพจรเต้นผิดปกติ เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ตลอดจนเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ ดังนั้นการใช้ยาอะมิโลไรด์ได้อย่างถูกต้องปลอดภัยจึงควรต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
อะมิโลไรด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาอะมิโลไรด์มีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น
- เป็นยาขับปัสสาวะเพื่อลดอาการบวมน้ำของร่างกาย (Oedema)
- รักษาโรคท้องมาน (Ascites)
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- รักษาโรค/ภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure)
อะมิโลไรด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาอะมิโลไรด์เป็นยาขับปัสสาวะที่มีฤทธิ์ต่ำ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์คือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ผ่านทางไต โดยเพิ่มการขับน้ำและเกลือโซเดียมออกจากกระแสเลือด แต่ลดการขับออกของเกลือโพแทสเซียม ด้วยกลไกดังกล่าวจึงส่งผลให้เกิดฤทธิ์ของการรักษาตามสรรพคุณ
อะมิโลไรด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร
ยาอะมิโลไรด์มีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาเม็ด ชนิดรับประทาน ขนาด 5 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาเม็ด ชนิดผสมร่วมกับยาขับปัสสาวะตัวอื่นคือ Amiloride HCl 5 มิลลิกรัม + Hydrochlo rothiazide 50 มิลลิกรัม/เม็ด
อะมิโลไรด์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาอะมิโลไรด์มีขนาดรับประทาน เช่น
ก. สำหรับอาการบวมน้ำ (Oedema): เช่น
- ผู้ใหญ่: ขนาดรับประทานเริ่มต้นที่ 5 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานเพื่อคงระดับการรักษาอยู่ในช่วง 5 - 10 มิลลิกรัม/วัน
ข. สำหรับโรคท้องมาน (Ascites): เช่น
- ผู้ใหญ่: ขนาดรับประทานเริ่มต้นที่ 5 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานเพื่อคงระดับการรักษาอยู่ในช่วง 5 - 10 มิลลิกรัม/วัน
ค. สำหรับภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure): เช่น
- ผู้ใหญ่: ขนาดรับประทานเริ่มต้นที่ 5 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานเพื่อคงระดับการรักษาอยู่ในช่วง 5 - 10 มิลลิกรัม/วัน
ง. สำหรับโรคความดันโลหิตสูง (Hypertension): เช่น
- ผู้ใหญ่: ขนาดรับประทานเริ่มต้นที่ 5 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานเพื่อคงระดับการรักษาอยู่ในช่วง 5 - 10 มิลลิกรัม/วัน
จ. ขนาดการใช้ยาในเด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): ทั่วไปคำนวณขนาดการใช้ยากับเด็กโดยใช้เกณฑ์น้ำหนักตัวเด็ก เช่น น้ำหนักตัวประมาณ 6 -20 กิโลกรัมรับประทาน 0.625 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน อย่างไรก็ตามแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาขนาดการใช้ยาในเด็กตามความเหมาะสมกับอาการโรค อายุ และน้ำหนักตัวของเด็กเป็นกรณีๆไป
*อนึ่ง:
- ควรรับประทานยานี้ พร้อมอาหาร เพื่อให้ตัวยาได้รับการดูดซึมที่ดีจากระบบทางเดินอาหาร
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาอะมิโลไรด์ ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอะมิโลไรด์อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทาน ยาอะมิโลไรด์ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
อะมิโลไรด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
การใช้ยาอะมิโลไรด์สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- มีภาวะเกลือโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินปกติ (ดังกล่าวแล้วใน บทนำ)
- มีภาวะเกลือโซเดียมในเลือดต่ำกว่าปกติ
- ระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร
- หิวกระหายน้ำ
- วิงเวียน
- ผื่นคัน
- อ่อนเพลีย
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- ปวดหัว
- ความดันโลหิตต่ำ
มีข้อควรระวังการใช้อะมิโลไรด์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาอะมิโลไรด์ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะเกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง (ตรวจพบจากการตรวจเลือด)
- ระหว่างการใช้ยานี้ควรเฝ้าระวังปริมาณเกลือแร่ต่างๆในเลือด โดยต้องควบคุมให้อยู่ในภาวะปกติ (แพทย์จะตรวจเลือดดูปริมาณเกลือแร่ของผู้ป่วยเป็นระยะตามดุลพินิจของแพทย์)
- ระวังการใช้ยากับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร รวมถึงผู้สูงอายุ การจะใช้ยานี้กับผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานและต้องหยุดการใช้ยาอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับการตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือด (Glucose – tolerance tests) เนื่องจากยานี้จะมีผลให้น้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติได้
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาอะมิโลไรด์ด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
อะมิโลไรด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาอะมิโลไรด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาอะมิโลไรด์ ร่วมกับยาที่เพิ่มประมาณเกลือโพแทสเซียมในร่างกาย เช่น ยา Potassium chloride, ยาขับปัสสาวะชนิดที่ไม่ขับเกลือโพแทสเซียมที่นอกเหนือจากยาอะมิโลไรด์ (เช่น ยา Spironolactone), ยากลุ่ม ACE inhibitors, ยากลุ่ม Angiotensin II receptor antagonists , สามารถก่อให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินปกติได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาอะมิโลไรด์ร่วมกับยากลุ่มดังกล่าว
- การใช้ยาอะมิโลไรด์ ร่วมกับ ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด์ (NSAIDs), ยา Cyclosporin, และ ยาลดความดัน บางตัว เช่น ยาในกลุ่มยา ACE inhibitors, อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เป็นพิษกับไต หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรเลี่ยงการใช้ยาเหล่านี้ร่วมกัน หรือแพทย์ปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีๆไป
- การใช้ยาอะมิโลไรด์ ร่วมกับ ยากลุ่มไทอะไซด์ (Thiazides) หรือยา Chlorpropamide (ยาเบาหวานชนิด 2) สามารถทำให้เกิดภาวะเกลือโซเดียมในเลือดต่ำอย่างรุนแรง จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มดังกล่าวร่วมกัน
- การใช้ยาอะมิโลไรด์ ร่วมกับ ยา Carbenoxolone (ยารักษาแผลในกระเพาะอาหาร ) อาจทำให้ฤทธิ์ในการสมานแผลของยา Carbenoxolone ด้อยประสิทธิภาพลง จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ร่วมกัน
ควรเก็บรักษาอะมิโลไรด์อย่างไร?
ควรเก็บยาอะมิโลไรด์: เช่น
- เก็บในที่เย็นหรือในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดดและความชื้น
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ และ
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
อะมิโลไรด์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาอะมิโลไรด์ มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Amilozide (อะมิโลไซด์) | T.O. Chemicals |
Amiloride hydrochloride Actavis (อะมิโลไรด์ ไฮโดรคลอไรด์ แอคทาวิส) | Actavis |
Bilduretic (บิลดูเรติค) | Bangkok Lab & Cosmetic |
Buretic (บูเรติค) | BJ Benjaosoth |
Hydrozide Plus (ไฮโดรไซด์ พลัส) | Medicine Products |
Hyperretic (ไฮเปอร์เรติค) | Central Poly Trading |
Meditic (เมดิติค) | Medicpharma |
Miduret (มิดูเรท) | P P Lab |
Minitic (มินิติค) | T. Man Pharma |
Miretic (มิเรติค) | Utopian |
Modupac (โมดูแพ็ค) | Inpac Pharma |
Moduretic (โมดูเรติค) | M & H Manufacturing |
Mourinate (โมยูริเนท) | Charoon Bhesaj |
MIDAMOR (ไมดามอร์) | Paddock Laboratories Inc |
Poli-Uretic (โพลี-ยูเรติค) | Polipharm |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Amiloride#Formulations_and_trade_names[2021,Sept11]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/amiloride?mtype=generic [2021,Sept11]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/amilozide[2021,Sept11]
- https://www.mims.com/Singapore/Drug/info/Amiloride%20hydrochloride%20Actavis/ [2021,Sept11]
- https://www.drugs.com/mtm/midamor.html [2021,Sept11]
- https://www.drugs.com/mtm/amiloride.html [2021,Sept11]
- https://www.drugs.com/monograph/amiloride.html [2021,Sept11]