ออริสแตท (Orilstat) หรือ เซนิคอล (Xenical)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 17 กันยายน 2564
- Tweet
- บทนำ: คือยาอะไร?
- ยาออริสแตทมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- ยาออริสแตทมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาออริสแตทมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาออริสแตทมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาออริสแตทมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาออริสแตทอย่างไร?
- ยาออริสแตทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาออริสแตทอย่างไร?
- ยาออริสแตทมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคอ้วน และ น้ำหนักตัวเกิน (Obesity and overweight)
- เบาหวาน (Diabetes mellitus)
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- ยาลดความอ้วน (Diet pill or Weight loss drug)
- ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants or Immunosuppressive agents)
- ยาต้านรีโทรไวรัส (Antiretroviral Agent)
- ยาเบาหวาน หรือ ยารักษาโรคเบาหวาน (Antidiabetic agents)
บทนำ: คือยาอะไร?
ออริสแตท (Orilstat) คือยาบำบัดรักษาโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน โดยมีกลไกยับยั้งการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกายจากทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นการลดแคลอรีหรือพลังงานเข้าสู่ร่างกายช่องทางหนึ่ง ยานี้มีชื่อการค้าว่า “เซนิคอล (Xenical)” ถูกผลิตโดยบริษัทโรช (Roche) ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากการศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic, การศึกษาความเป็นไปของยาเมื่อยาเข้า สู่ร่างกาย) ของยานี้พบว่า หลังรับประทาน ตัวยาจะถูกเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีในระบบทาง เดินอาหาร การกำจัดยาออกจากร่างกาย 50% หรือค่าครึ่งชีวิต (Half life) ของยาในร่างกายใช้เวลาเพียง 1 - 2 ชั่วโมง โดยมากตัวยาจะถูกขับผ่านมากับอุจจาระ
ในประเทศไทย จะพบว่ามีบริษัทที่จัดจำหน่ายน้อยมาก ออริสแตทจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย การจะใช้ยาได้ปลอดภัย ถูกต้อง ควรต้องขอคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
ยาออริสแตทมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาออริสแตทมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น
- บำบัดรักษาโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน เนื่องจากมีการสะสมไขมันของร่างกายมาก
- ช่วยลดอุบัติการณ์ความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- ช่วยเสริมในการลดความดันโลหิต
ยาออริสแตทมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาออริสแตทคือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ที่ระบบทางเดินอาหารของผู้บริโภค โดยจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์หรือน้ำย่อยไขมันในกระเพาะอาหารและตับอ่อน (Inhibiting gastric and pancreatic lipase) ทำให้ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในอาหารไม่ถูกปลดปล่อยออกมา แต่จะถูกส่งผ่านไปกับกากอาหาร และขับออกมากับอุจจาระในที่สุด
ยาออริสแตทมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
รูปแบบการจัดจำหน่ายของยาออริสแตท:
- ยาแคปซูล ขนาด 120 มิลลิกรัม/แคปซูล
ยาออริสแตทมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาออริสแตทมีขนาดรับประทาน เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทาน 1 แคปซูลวันละ 3 ครั้งพร้อมอาหาร
- เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): อายุมากกว่า 12 ปี รับประทานขนาดเช่นเดียวกับในผู้ใหญ่ แต่ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี: ยังไม่มีข้อมูลการใช้ยานี้ที่ชัดเจน ดังนั้นจึงต้องขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาออริสแตท ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาออริสแตทอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาออริสแตท สามารถรับประทานยาเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ยาออริสแตทมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาออริสแตทสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- อุจจาระเยิ้มจากมีน้ำมัน/ไขมันปน
- มีแก๊สในทางเดินอาหารมาก
- การกลั้นอุจจาระยากขึ้น ถ่ายบ่อย ถ่ายเหลว
- รู้สึกไม่สบายในช่องท้อง
- ปวดท้อง
- ท้องอืด
- ปวดช่องทวารหนัก
มีข้อควรระวังการใช้ยาออริสแตทอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาออริสแตท เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีการดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีการอุดกั้นของทางเดินน้ำดีจากตับสู่ลำไส้เล็กอันเนื่องมาจากนิ่วในถุงน้ำดีหรือเนื้องอก
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ไม่ควรใช้ยากับเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี
- การใช้ยานี้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
- การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย จะเป็นปัจจัยที่ช่วยควบคุมน้ำหนักของร่างกายได้ดี ระดับหนึ่ง ควรแนะนำวิธีดังกล่าวก่อนการใช้ยานี้เสมอ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน, ผู้ที่มีประวัติเป็นนิ่วถุงน้ำดี, ผู้ที่มีประวัติ ตับอ่อนอักเสบ, ผู้ป่วยโรคตับ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหาร
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นรับประทาน
- ห้ามใช้ยาที่หมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาออริสแตทด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาออริสแตทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาออริสแตทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาออริสแตท ร่วมกับ ยากดภูมิคุ้มกัน เช่นยา Cyclosporine อาจทำให้ฤทธิ์ของยา Cyclosporine ด้อยประสิทธิภาพลง ก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้ที่อยู่ระหว่างการปลูกถ่ายอวัยวะ อาจทำให้ร่างกายปฏิเสธอวัยวะใหม่นั้นๆ หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานของยา Cyclosporine ให้เหมาะสมกับคนไข้เป็นกรณีๆไป
- การใช้ยาออริสแตท ร่วมกับ ยาต้านเอชไอวี เช่นยา Adefovir, Abacavir จะเกิดการรบกวนการดูดซึมของยาต้านเอชไอวี และส่งผลต่อประสิทธิภาพของการบำบัดโรคเอชไอวีในผู้ป่วย หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาออริสแตท ร่วมกับ ยาเบาหวาน เช่นยา Glimepiride อาจก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนนำมาซึ่งอาการ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ/ ปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้ หิวบ่อย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว แพทย์จะปรับขนาดรับประทานในผู้ป่วยที่ได้รับยาทั้ง 2 ตัวร่วมกัน
ควรเก็บรักษายาออริสแตทอย่างไร?
ยาออริสแตทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาออริสแตท ร่วมกับ ยากดภูมิคุ้มกัน เช่นยา Cyclosporine อาจทำให้ฤทธิ์ของยา Cyclosporine ด้อยประสิทธิภาพลง ก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้ที่อยู่ระหว่างการปลูกถ่ายอวัยวะ อาจทำให้ร่างกายปฏิเสธอวัยวะใหม่นั้นๆ หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานของยา Cyclosporine ให้เหมาะสมกับคนไข้เป็นกรณีๆไป
- การใช้ยาออริสแตท ร่วมกับ ยาต้านเอชไอวี เช่นยา Adefovir, Abacavir จะเกิดการรบกวนการดูดซึมของยาต้านเอชไอวี และส่งผลต่อประสิทธิภาพของการบำบัดโรคเอชไอวีในผู้ป่วย หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาออริสแตท ร่วมกับ ยาเบาหวาน เช่นยา Glimepiride อาจก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนนำมาซึ่งอาการ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ/ ปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้ หิวบ่อย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว แพทย์จะปรับขนาดรับประทานในผู้ป่วยที่ได้รับยาทั้ง 2 ตัวร่วมกัน
ยาออริสแตทมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาออริสแตท มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Xenical (เซนิคอล) | Roche |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Orlistat#Medical_uses [2021,Sept11]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/orlistat?mtype=generic [2021,Sept11]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Xenical/?type=brief [2021,Sept11]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cholestasis [2021,Sept11]
- https://www.drugs.com/orlistat.html [2021,Sept11]
- https://www.healthcentral.com/condition/obesity [2021,Sept11]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/cyclosporine-with-orlistat-763-0-1756-0.html [2021,Sept11]