อยากเป็นหมอต้องอ่าน: ขยัน

อยากเป็นหมอต้องอ่าน-1

      

อยากเป็นหมอต้องอ่าน: ขยัน

หมอเป็นอาชีพที่ต้องรักษาผู้ป่วยให้หายจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่อง งานนั้นมีตลอดเวลา ดังนั้นหมอทุกคนต้องเป็นคนที่ขยัน มีความพากเพียร และสม่ำเสมอ ดังนี้

1. ตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย ต้องเตรียมตัวสอบเข้าเรียนคณะแพทย์ ก็ต้องขยันอ่านหนังสืออย่างมาก ตั้งใจเรียนมาอย่างต่อเนื่อง ผลการเรียนต้องดีมาตลอด

2. เข้าเรียนในปีที่ 1 ของคณะแพทย์ ปีแรกยังพอมีเวลาให้ปรับตัวในการเรียนปีแรกของมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็เรียนหนักตลอดตั้งแต่ปีที่ 2 ถึงปีที่ 6 เลย แล้วก็ทำงานหนักตั้งแต่จบเป็นหมอ ไม่มีช่วงเวลาให้พัก จึงต้องขยัน

3. การเรียนในชั้นปีที่ 2, 3 คือการเตรียมขึ้นชั้นคลินก เรียกว่าชั้นปรีคลินิก ซึ่งต้องเรียนวิชาที่เตรียมการเป็นแพทย์ เช่น วิชาชีวเคมี เภสัชวิทยา กายวิภาค จุลชีววิทยา ปรสิตวิทยา สรีรวิทยา เป็นต้น ซึ่งการเรียนอาจเป็นในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งเรียนเล็คเชอร์ เรียนในห้องปฏิบัติการ เรียนกายวิภาคศาสตร์กับครูใหญ่ การสอบก็จะมีบ่อยทุก 4-6 สัปดาห์ ปิดเทอมประมาณ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 2 ปี

4. การเรียนในชั้นปีที่ 4-6 นั้น ยิ่งหนักหนาสาหัส เนื่องจากเป็นการเรียนในชั้นคลินิกที่ต้องเรียนกับผู้ป่วยจริงๆ ต้องเข้าห้องผ่าตัด ต้องอยู่เวร ต้องเป็นส่วนหนึ่งของทีมในการรักษาผู้ป่วย ต้องอ่านหนังสือเยอะมาก เพราะผู้ป่วยมีโรคที่หลากหลาย นักศึกษาแพทย์ต้องมีความรู้ในโรคต่างๆ ของผู้ป่วยที่ดูแลด้วย และต้องเรียนเล็คเชอร์ด้วย ต้องเขียนรายงานผู้ป่วย เตรียมการนำเสนอผู้ป่วย บางคืนก็ต้องนอนดึกมาก เพราะงานต่างๆ ไม่เสร็จก็นอนไม่ได้

5. ช่วงเวลาที่หนักที่สุด ก็คือ การเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 หรือที่เรียกว่า extern เพราะเป็นการเตรียมตัวเป็นหมออย่างแท้จริง ต้องนำความรู้ที่ได้เรียนมาทั้งหมด 5 ปี มาใช้รักษาผู้ป่วยร่วมกับรุ่นพี่ๆ และอาจารย์ ต้องขยันอ่านหนังสือมาก เพื่อให้มีความรู้มากที่สุด แต่ด้วยงานที่หนักมาก ไม่ค่อยได้นอน ก็ยิ่งทำให้ต้องอ่านหนังสือบ่อยๆ เพราะบางครั้งพอจับหนังสือก็ง่วงหลับทันที

6. ก่อนจบเป็นหมอก็ยิ่งต้องอ่านหนังสือเยอะอีก เพราะต้องสอบเพื่อให้ผ่านการประเมินระดับชาติอีก ต้องมีการทบทวนความรู้ต่างๆ มากมาย และต้องเตรียมให้พร้อมในการสอบที่มีหลายรูปแบบ ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่จบเป็นหมอได้ เรียกว่าเครียดครั้งสุดท้ายก่อนจบเป็นหมอ จึงต้องกัดฟันอ่านหนังสืออย่างหนัก

7. จบแล้วก็ยังต้องอ่านหนังสือ ฝึกฝนความรู้ ความชำนาญอีก เพราะหมอต้องพบเจอผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติแตกต่างกันในแต่ละวัน ต้องศึกษาอย่างต่อเนื่อง ความรู้ก็มีใหม่ๆ มาตลอดเวลา ปัญหาผู้ป่วยก็มีหลากหลายมาก จึงต้องอ่านหนังสือ และขยันที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

8. นอกจากการรักษาพยาบาลแล้ว ยังต้องมีงานด้านคุณภาพของโรงพยาบาลอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้เรียนมาเลยตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ ทำให้ต้องศึกษาเพิ่มเติมตอนทำงานแล้วอย่างต่อเนื่อง ต้องขยันเรียนรู้เพิ่มเติมจากทีมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

9. การหาความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง มีการประชุมวิชาการ เพื่อหาความรู้ที่ทันสมัยตลอดเวลา ซึ่งการประชุมวิชาการนี้ก็เป็นสิ่งที่หมอทุกคนต้องทำเป็นประจำ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการพักผ่อนไปด้วยหลังการประชุมในแต่ละวัน ถ้าเป็นการประชุมวิชาการนอกสถานที่ และเป็นการพบปะเพื่อนฝูงไปในตัวด้วย

10. เมื่อทำงานเป็นหมอไปได้ 3 ปี ก็ต้องขวนขวายหาที่เรียนต่อเพิ่มเติม เพื่อเป็นหมอเฉพาะทางต่อไปอีก ซึ่งการเรียนก็ใช้เวลาศึกษาต่อตั้งแต่ 3 – 5 ปี เรียกว่าต้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันจบสำหรับหมอ

ที่ผมเล่ามานี้ทำให้น้องๆ เห็นได้ว่าหมอนั้นต้องเป็นคนที่ขยัน ทุ่มเท และศึกษาต่อเนื่องจริงๆ ใครที่รักในการเป็นหมอ มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ และขยัน มาเป็นหมอได้เลยครับ รับรองว่าน้องๆ มีความสุขและสะใจที่ได้ทำตามที่ใจรักแน่นอน