หมอสมศักดิ์ชวนคุย ตอน ไม่ต้องการออกค่ารักษานอกบัญชียาหลัก แต่ซื้ออาหารเสริมมาทาน

หมอสมศักดิ์ชวนคุย ตอน  ไม่ต้องการออกค่ารักษานอกบัญชียาหลัก แต่ซื้ออาหารเสริมมาทานเยอะมาก

การรักษาพยาบาลตามหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยนั้น ถ้าการรักษาใดๆ อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือรายการการรักษาของประเทศไทย ผู้ป่วยจะไม่ต้องเสียค่ารักษาเลยแม่แต่บาทเดียว แต่ถ้าการรักษานั้นไม่ได้อยู่ในรายการของประเทศไทย หรือบัญชียาหลักแห่งชาติ ผู้ป่วยจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลนั้นๆ เอง ประเด็นนี้ผมจะชวนคุยในวันนี้ครับ ประเด็นที่ผมอยากคุย ได้แก่

  1. การรักษาตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของประเทศไทย จะมียาหรือการรักษาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือรายการรักษาของประเทศที่สิทธิ์การรักษาต่างๆ นั้นมีการครอบคลุมตามสิทธิประโยชน์แตกต่างกัน แต่สิ่งที่มีความจำเป็นต่อชีวิตนั้นส่วนใหญ่แล้วเหมือนกัน ดังนั้นการรักษาที่ยังเป็นการรักษาใหม่ๆ ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอว่าจะเกิดประโยชน์อย่างแน่ชัด หรือมีความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพดีพอ ก็อาจไม่อยุ่ในบัชียาหลักแห่งชาติ จึงทำให้ผู้ที่เลือกใช้การรักษาดังกล่าว ต้องออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง
  2. การใช้ยาหรือการรักษาที่เกินหรือนอกเหนือสิทธิการรักษานั้น อาจเกิดจากผู้ป่วยมีความต้องการเอง เพราะมีความเห็นและความต้องการว่า สิ่งนั้นน่าจะมีประโยชน์สูงกว่าการรักษาที่อยู่ในมาตรฐานของประเทศไทย หรือผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาที่อยู่ในรายการยาหลักหลักของประเทศ หรือที่สถานพยาบาลแห่งนั้นไม่มีการรักษาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือไม่สามารถใช้วิธีการรักษาหรือยาที่อยู่ในสิทธิการรักษานั้นๆ ได้
  3. เมื่อต้องใช้การรักษา หรือยาที่นอกเหนือสิทธิการรักษาแล้ว ผู้ป่วย ครอบครัวก็จะต้องรับผิดชอบค่ารักษาส่วนนี้เอง แต่ประเด็นที่เกิดปัญหาขึ้นบ่อยๆ ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ คือ ผู้ป่วย หรือครอบครัวมักไม่ยินยอมที่จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินตรงนี้ เพราะเห็นว่ารัฐควรจะดูแลการรักษาที่จำเป็นทั้งหมด ก่อให้เกิดปัญหากันระหว่างสถานพยาบาลที่ให้การรักษากับผู้ป่วย หรือครอบครัวผู้ป่วย
  4. ค่าใช้จ่ายส่วนเกินนั้นอาจไม่มาก เป็นค่าหลักร้อย หลักพัน เช่น ค่ายาบางชนิด วิตะมิน อุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิด เป็นต้น แต่บางครั้งค่ารักษาก็เป็นหลักหมื่น หลักแสน เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ก็สร้างความหนักใจให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนั้น สถานะด้านการเงินของโรงพยาบาลรัฐก็มีปัญหาขาดทุนตลอดเกือบทุกโรงพยาบาล งบประมาณด้านสังคมสงเคราะห์ก็มีไม่มากนัก ผู้ป่วยก็อาจไม่ได้รับความสะดวกในการรักษา
  5. เรื่องที่ผมมองคือว่า ในปัจจุบันนั้นผู้ป่วย ครอบครัว หรือคนทั่วไปที่ไม่ได้เจ็บป่วยนั้นเสียค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมาก โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่มีหลักฐานว่าก่อให้เกิดประโยชน์ในการดูแลสุขภาพเลย เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาบำรุง วิตามิน อุปกรณ์เสริมต่างๆ ในการออกกำลังกาย แต่พอเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ต่อชีวิต กลับไม่ยอมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว เพราะคิดว่ารัฐต้องรับผิดชอบ การดูแลแก้ไขความเจ็บป่วยนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐ ผมว่าตรงนี้ต้องกลับมาคิดกันใหม่ เราต้องกลับมาช่วยกันดูแลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และความรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าใครเจ็บป่วย อันตรายถึงชีวิต โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนนั้นก็ให้การดูแลรักษาอย่างเต็มกำลัง ตามความเหมาะสม ตามหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าท่านพอมีเงินในการร่วมรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็ควรมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ แต่ถ้าท่านไม่มีจริงๆ รัฐก็มีระบในการดูแลช่วยเหลือตรงนี้อยู่ครับ

ผมอยากขอร้องให้คนที่ใช้จ่ายเงินไปในส่วนของการซื้ออาหารเสริม เครื่องบำรุงต่างๆ นั้น หันกลับมาดูแลสุขภาพด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพ มีหลักฐานทางการแพทย์ว่ามีประโยชน์จริงๆ และเมื่อจำเป็นต้องออกค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินบ้าง ก็ควรร่วมรับผิดชอบด้วยกัน สุขภาพเป็นเรื่องของคนทุกคน มิใช่เป็นหน้าที่ของหมอ พยาบาล เภสัชกรหรือหน่วยงานของรัฐเท่านั้น