หนูอยากดูโลกก่อนแล้วละ (ตอนที่ 4)

แม้ว่าเราจะไม่สามารถทราบได้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการคลอดก่อนกำหนด แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการ

การให้โปรเจสเตอโรน (Progesterone supplements) ในผู้หญิงที่มีประวัติการคลอดก่อนกำหนดเพื่อลดความเสี่ยง
การเย็บผูกปากมดลูก (Cervical cerclage) ในหญิงตั้งครรภ์ที่พบว่ามีภาวะปากมดลูกสั้น (Short cervix) ซึ่งอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้

สำหรับการตรวจทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจทำได้ด้วยการ

การใช้เครื่องวัดการหายใจและชีพจรของเด็ก
การวัดของเหลวที่เข้าและออกในตัวทารก
การตรวจเลือดเพื่อดูค่าสารสำคัญๆ เช่น แคลเซียม กลูโคส และระดับบิลิรูบิน (Bilirubin) การวัดเซลล์เม็ดเลือดแดงเพื่อดูภาวะโลหิตหรือประเมินการติดเชื้อ
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram)
การอัลตราซาวด์เพื่อดูความผิดปกติของอวัยวะ เช่น ระบบทางเดินอาหาร ตับ หรือ ไต
การตรวจตา

ส่วนการดูแลทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจทำได้ด้วยการ

การเข้าตู้อบ – เพื่อให้ความอบอุ่นและรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้ปกติ
ตรวจชีพจร ความดันโลหิต การหายใจ และอุณหภูมิ
การให้สารอาหารทางสายยางผ่านทางจมูกหรือหน้าท้อง จนกว่าทารกจะมีแรงพอในการดูดนม
การให้ทารกได้รับของเหลว (Replenishing fluids) เช่น โซเดียม โปแตสเซียม ตามระดับที่สมควร
การส่องไฟ (Bilirubin lights) เพื่อรักษาอาการตัวเหลือง
การถ่ายเลือด (Blood transfusion)

ทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจต้องให้ยาเพื่อช่วยกระตุ้นให้อวัยวะทำงานปกติ เช่น ปอด หัวใจ และ การไหลเวียนของเลือด โดยยาที่ให้อาจได้แก่

การให้สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) เพื่อรักษาภาวะกลุ่มอาการหายใจลำบาก (Respiratory distress syndrome)
การพ่นยาหรือการให้ยาทางสายยางเพื่อช่วยให้การหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจดีขึ้น
ยาปฏิชีวนะเพื่อลดความเสี่ยงใสการติดเชื้อ
ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) เพื่อกำจัดของเหลวส่วนเกิน
การฉีดยาที่ตาเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของหลอดเลือดใหม่ที่อาจเป็นสาเหตุของจอตาผิดปกติในทารกคลอดก่อนกำหนด (Retinopathy of prematurity)
ยาที่ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน (Patent ductus arteriosus)

แหล่งข้อมูล:

blog details