สวยด้วยผึ้ง ถึงตายได้ (ตอนที่ 1)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 21 พฤศจิกายน 2563
- Tweet
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ว่า มีผู้สอนทำปากรูปกระจับด้วยการเอาผึ้งมาต่อยนั้น ขอแนะนำว่า อย่าทำโดยเด็ดขาด เพราะเหล็กในของผึ้งมีพิษ (Venom) พิษของผึ้งประกอบด้วยโปรตีน เปปไทด์ และสารอินทรีย์อีกหลายชนิด ผึ้งต่อยเหยื่อด้วยเหล็กใน เหล็กในจะเชื่อมต่อกับต่อมพิษและอวัยวะภายใน เมื่อต่อยทำให้เหยื่อเจ็บปวดมาก เกิดการแพ้ ปวด บวมบริเวณที่โดนผึ้งต่อย และอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) มีลักษณะเป็นผื่นลมพิษทั้งตัว ปากบวม และหายใจติดขัด อาจเสียชีวิตได้
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อผึ้งต่อย เหล็กในจะติดคาผิวหนังหลังต่อย หลังจากนั้นผึ้งจะตายเพราะต่อมพิษและอวัยวะภายในถูกดึงติดออกมากับเหล็กใน
หลังถูกต่อยควรรีบเอาเหล็กในออกไปโดยเร็วที่สุด เพราะกล้ามเนื้อที่อยู่ติดกับเหล็กในยังคงบีบตัวขับพิษเข้าสู่ผิวหนังต่อไป ไม่ควรใช้นิ้วหรือแหนบหนีบดึงเหล็กใน เพราะจะเป็นการบีบไล่พิษเข้าสู่ผิวหนังมากขึ้น
วิธีกำจัดเหล็กในที่ปลอดภัย คือ ใช้ขอบทู่ๆ ของบัตรเครดิตหรือสันใบมีด ทำมุมแหลมกับผิวหนังจนเกือบขนานกับผิวหนัง แล้วขูดผิวหนังบริเวณที่มีเหล็กใน เป็นวิธีทำให้เหล็กในหลุดออกมาจากผิวหนังโดยมีโอกาสน้อยที่พิษถูกขับออกมา
ผู้ที่โดนผึ้งต่อยจะเกิดอาการปวดแสบทันที ตามมาด้วยรอยต่อยบวมแดง และอาจเกิดผื่นลมพิษด้วย ปฏิกิริยานี้จะดีขึ้นภายในหลายชั่วโมง ปฏิกิริยาที่รุนแรงกว่านี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รอยต่อยบวมมาก และบวมได้นานถึง 1 สัปดาห์ ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) พบได้ประมาณ 0.4% ถึง 3.0% และมีรายงานการเกิดอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหลังถูกผึ้งต่อย โดยไม่มีปฏิกิริยาแพ้รุนแรง
การดูแลรักษาผึ้งต่อยขึ้นกับความรุนแรงของผื่น ถ้าเป็นไม่รุนแรง แนะนำการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ ประคบน้ำแข็ง และอาจฉีดยาชาเฉพาะที่ระงับปวด ยากินหรือยาฉีด อาจช่วยบรรเทาอาการคันและลมพิษ ส่วนการแพ้รุนแรง มีลักษณะเป็นผื่นลมพิษทั้งตัว ปากบวม และหายใจติดขัด ควรรีบพาผู้ป่วยส่งห้องฉุกเฉิน
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมถึงการป้องกันผึ้งต่อยว่า ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้รวงผึ้ง ผู้ที่เคยแพ้พิษควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ปลายขากางเกงอยู่ในรองเท้าบู้ท ไม่ให้ผึ้งแตกตื่น โดยไม่ใช้เครื่องจักรเครื่องมือที่มีแรงสั่นสะเทือน ที่อาจทำให้ผึ้งตื่นตกใจ ห้ามปิดเปิดประตูหน้าต่างแรงๆ ใกล้รังของมัน ห้ามใช้สีทาบ้านที่มี Isoamyl acetate ในบริเวณที่มีผึ้งทำรัง เพราะ Isoamyl acetate เป็นส่วนหนึ่งของฟีโรโมน (Pheromone) ที่อาจทำให้ผึ้งแตกตื่น ไม่ดึงดูดผึ้งโดยหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลืองและสีเข้ม หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมเพราะกลิ่นจากเครื่องสำอางอาจดึงดูดผึ้ง
ส่วนการกำจัดรวงผึ้งอย่างถูกวิธี ควรใช้บริการของบริษัทกำจัดแมลง เพราะการกำจัดให้สิ้นซากต้องใช้ยาฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์รวดเร็วและยาวนาน การดำเนินการกำจัดเองอาจทำให้ฝูงผึ้งแตกรังออกมาทำร้ายคนและสัตว์เลี้ยง
ผึ้งต่อย (Bee stings) เป็นสิ่งที่เราอาจพบได้เมื่อออกไปนอกบ้าน โดยทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย ตั้งแต่การปวดเพียงชั่วคราวไปยังการแพ้อย่างรุนแรง ทั้งนี้ ร้อยละ 3 ของผู้ที่ถูกผึ้งต่อยจะมีอาการแพ้ และประมาณร้อยละ 0.8 ที่จะมีอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) โดยปฏิกิริยาหลังถูกผึ้งต่อยอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกครั้ง ซึ่งมีลักษณะอาการแพ้ดังต่อไปนี้
ปฏิกิริยาอย่างอ่อน (Mild reaction)
- ปวดแสบปวดร้อนทันทีบริเวณที่ถูกต่อย
- เป็นรอยแดงยาว
- บวม
ซึ่งส่วนใหญ่อาการปวดและบวมจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
แหล่งข้อมูล:
- เเพทย์เตือน ให้ผึ้งต่อยปากหวังเป็นรูปกระจับ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต. https://www.thaihealth.or.th/Content/52986-เเพทย์เตือน%20 ให้ผึ้งต่อยปากหวังเป็นรูปกระจับ%20 เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต.html[2020, November 20].
- Bee sting. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bee-stings/symptoms-causes/syc-20353869 [2020, November 20].
- Bee Sting Treatment. https://www.medicinenet.com/bee_sting_treatment/views.htm [2020, November 20].