วาร์เดนาฟิล (Vardenafil)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 มกราคม 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยาวาร์เดนาฟิลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาวาร์เดนาฟิลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาวาร์เดนาฟิลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาวาร์เดนาฟิลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาวาร์เดนาฟิลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาวาร์เดนาฟิลอย่างไร?
- ยาวาร์เดนาฟิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาวาร์เดนาฟิลอย่างไร?
- ยาวาร์เดนาฟิลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- นกเขาไม่ขัน (Erectile dysfunction)
- ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวาย (Heart failure)
- โรคตับ (Liver disease)
- ยาโรคหัวใจ หรือ ยารักษาโรคหัวใจ (Cardiac Medications)
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- โรคหัวใจ: โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด (Heart disease หรือ Cardiovascular disease)
- ยาบำบัดหย่อนสมรรถภาพเพศชาย: พีดีอี 5 อินฮิบิเตอร์ (PDE5 inhibitor: Phosphodiesterase type 5 inhibitor)
บทนำ
วาร์เดนาฟิล (Vardenafil) เป็นยาที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่เรียกว่า “นก เขาไม่ขัน/องคชาตไม่แข็งตัว (Erectile dysfunction)” ที่เกิดในบุรุษ ถูกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้า Levitra, Staxyn, และ Vivanza ยาตัวนี้ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับยาที่มีชื่อว่า Sildenafil และ Tadalafil
จากการศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic, การศึกษาความเป็นไปของยาเมื่อยาเข้าสู่ร่างกาย) ของยาชนิดนี้พบว่า ยาจะถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้ประมาณ 15% และจะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนได้ประมาณ 95% ตับจะเป็นอวัยวะที่เปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของยานี้ ร่าง กายต้องใช้เวลา 4 - 5 ชั่วโมงในการกำจัดยาออกจากกระแสเลือด 50% โดยผ่านไปกับอุจจาระ
วาร์เดนาฟิลถูกจัดอยู่ในหมวดยาควบคุมพิเศษ ก่อนการสั่งจ่ายยานี้ แพทย์จะต้องทำการตรวจร่างกายผู้ป่วยว่ามีความพร้อมที่จะใช้ยานี้หรือไม่ รวมถึงประวัติของโรคประจำตัวที่ต้องนำมาประกอบ การพิจารณา ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ป่วยเอง
ยาวาร์เดนาฟิลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาวาร์เดนาฟิลมีสรรพคุณใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ/นกเขาไม่ขันในบุรุษ
ยาวาร์เดนาฟิลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาวาร์เดนาฟิลคือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ต้านการทำงานของเอนไซม์ที่มีชื่อว่า Phosphodiesterase type-5 (PDE 5, เอนไซม์ควบคุมการหดและขยายหลอดลือดที่หล่อเลี้ยงองคชาตส่วนที่เรียกว่า Corpus cavernosum ที่ทำให้องคชาตแข็งตัวหรืออ่อนตัว)/ยา PDE 5 inhibitor
นอกจากนี้ ยังเพิ่มจำนวนของ Guanosine monophosphate (สารที่ช่วยขยายหลอดเลือด จึงเพิ่มเลือดหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ)อีกด้วย จากกลไกดังกล่าว จึงส่งผลเพิ่มเลือดหล่อเลี้ยงองคชาตในส่วน Corpus cavernosum จึงส่งผลให้องคชาตแข็งตัวได้ตามสรรพคุณ
ข้อสำคัญ: ยานี้เป็นยาช่วยรักษาเฉพาะอาการเป็นครั้งคราวเท่านั้น ไม่สามารถรักษาโรคนกเขาไม่ขันให้หายได้ เพราะไม่ใช่ยาที่รักษาสาเหตุ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com ในบทความเรื่อง นกเขาไม่ขัน ถึงสาเหตุ การรักษา การดูแลตนเอง และการป้องกัน) และยานี้ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ยาวาร์เดนาฟิลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาวาร์เดนาฟิลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เป็นยาเม็ดขนาด 10 และ 20 มิลลิกรัม/เม็ด
ยาวาร์เดนาฟิลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาวาร์เดนาฟิลมีขนาดรับประทาน เช่น
ก. บุรุษผู้ใหญ่: รับประทาน 10 มิลลิกรัมก่อนมีเพศสัมพันธ์ 60 นาที อาจเพิ่มขนาดรับประ ทานตามคำแนะนำของแพทย์ได้ แต่ขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 20 มิลลิกรัม/วัน
ข. บุรุษผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป: รับประทาน 5 มิลลิกรัมก่อนมีเพศสัมพันธ์ 60นาที อาจเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 10 มิลลิกรัม หรือ 20 มิลลิกรัมหากจำเป็น แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
อนึ่ง:
- สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
- เด็ก: ยังไม่มีรายงานการศึกษาถึงการใช้ยานี้ในเด็ก
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาวาร์เดนาฟิล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาวาร์เดนาฟิลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาวาร์เดนาฟิลสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการ รับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า
ยาวาร์เดนาฟิลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาวาร์เดนาฟิลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ปวดศีรษะ
- ใบหน้าแดง
- คลื่นไส้
- วิงเวียน
- เยื่อจมูกอักเสบ
- ผื่นแพ้แสงแดด
- ความดันโลหิตสูง
- การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน
มีข้อควรระวังการใช้ยาวาร์เดนาฟิลอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาวาร์เดนาฟิล เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยชายที่มีอาการของโรคหัวใจ เพราะอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
- ห้ามรับประทานร่วมกับยาที่มีสารไนเตรท (Nitrate) หรือกรดไนตริก (Nitric acid) เช่น ยารักษาโรคหัวใจบางชนิด (เช่น ยา Isosorbide)
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับขั้นรุนแรง
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยภาวะหัวใจขาดเลือด
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะจอตาอักเสบ
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยชายที่มีรูปลักษณะองคชาตผิดปกติ
- หยุดใช้ยานี้ทันที หากพบอาการการมองเห็นภาพผิดปกติหรือหูไม่ได้ยินเสียง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาวาร์เดนาฟิลด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาวาร์เดนาฟิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาวาร์เดนาฟิลมีปฏิกิริยาระหว่างยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาวาร์เดนาฟิล ร่วมกับยาดังจะกล่าวต่อไปนี้ จะทำให้ระดับยาในกระแสเลือดของยาวาร์เดนาฟิลเพิ่มมากขึ้นจนอาจก่อผลขั้นเคียงรุนแรงกับผู้ป่วยได้ ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานของคนไข้ให้เหมาะสมเป็นกรณีๆไป ยาดังกล่าว เช่นยา
- Erythomycin
- Ritovir
- Indinavir
- Ketoconazole
ควรเก็บรักษายาวาร์เดนาฟิลอย่างไร?
ควรเก็บยาวาร์เดนาฟิล เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิ 15 – 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยาวาร์เดนาฟิลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาาวาร์เดนาฟิล มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Levitra (เลวิทรา) | Bayer HealthCare Pharma |
บรรณานุกรม
1 http://en.wikipedia.org/wiki/Vardenafil [2020,Jan25]
2 http://www.mims.com/USA/drug/info/vardenafil/ [2020,Jan25]
3 http://www.mims.com/THAILAND/drug/info/Levitra/ [2020,Jan25]