ริมฝีปากลอก ริมฝีปากแตก (Exfoliative cheilitis)
- โดย พญ.ชลธิรศน์ ศรีเกษตรสรากุล
- 1 เมษายน 2564
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?
- ริมฝีปากลอกเกิดได้อย่างไร?
- ริมฝีปากลอกติดต่อไหม?
- ริมฝีปากลอกมีอาการอย่างไร?
- แพทย์วินิจฉัยได้อย่างไร?
- ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่?
- รักษาริมฝีปากลอกอย่างไร?
- ริมฝีปากลอกก่อผลข้างเคียงอย่างไร?
- ริมฝีปากลอกมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลรักษาตนเองอย่างไรเมื่อมีริมฝีปากลอก?
- เมื่อไหร่ต้องพบแพทย์ก่อนนัด?
- ป้องกันริมฝีปากลอกได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
- โรคผิวหนัง (Skin disorder)
- ปิโตรเลียม เจลลี่ (Petroleum jelly) วาสลีน (Vaseline)
- โรควิตกกังวล(Anxiety Disorder)
- คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
- ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และโรคซึมเศร้า (Stress, Depression and Depressive disorder)
- ปากคอแห้ง (Dry mouth and Dry throat)
- ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?
ภาวะริมฝีปากลอก หรือริมฝีปากแตก หรือชื่อทางการแพทย์คือ ‘Exfoliative cheilitis’ คือ การอักเสบของริมฝีปากที่ทำให้มีริมฝีปากแห้งและลอก ซึ่งยังไม่มีการศึกษารายงานสถิติการเกิดภาวะนี้ชัดเจน แต่พบว่าเป็นภาวะที่พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง พบในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวมากกว่าในวัยสูงอายุ
ริมฝีปากลอกเกิดได้อย่างไร?
สาเหตุการเกิดริมฝีปากแห้งลอกแตก พบว่า สัมพันธ์กับการบาดเจ็บของผิวหนังที่ริมฝีปาก ซึ่งอาจเกิดจากการกระทำบ่อยๆต่อริมฝีปากเช่น แกะปาก ลอกปาก เลียริมฝีปาก กัดริมฝีปาก ซึ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่มักสัมพันธ์กับอาการ วิตกกังวล ความเครียด หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บของผิวหนังบริเวณริมฝีปากโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ/แพทย์หาสาเหตุไม่พบ
ริมฝีปากลอกติดต่อไหม?
ริมฝีปากลอกไม่ใช่โรคติดต่อจึงไม่ติดต่อทั้งการสัมผัส หายใจ คลุกคลี การใช้ของใช้ต่างๆร่วมกัน ที่รวมถึงเสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว และการกินอาหารร่วมกัน
ริมฝีปากลอกมีอาการอย่างไร?
อาการของริมฝีปากลอกที่พบบ่อยคือ ริมฝีปากบวม แดง เจ็บ มีสะเก็ด อาจคัน หรืออาจแตกเป็นร่อง และผิวหนังบริเวณริมฝีปากลอกออกได้เป็นแผ่น
แพทย์วินิจฉัยได้อย่างไร?
โดยทั่วไปแพทย์วินิจฉัยภาวะริมฝีปากลอกได้จาก
- การสอบถามประวัติการใช้ชีวิต, ลักษณะความประพฤติเกี่ยวกับริมฝีปาก, ปัญหาทางอารมณ์ จิตใจ
- การตรวจร่างกาย และ การตรวจ ดูลักษณะริมฝีปาก
- แต่ในบางกรณีที่มีการอักเสบของริมฝีปากมาก แพทย์อาจต้องทำการตรวจอื่นๆเพื่อการสืบค้นเพิ่มเติม เพื่อดูว่าเกี่ยวกับโรคติดเชื้อราหรือไม่ เช่น เชื้อราแคนดิดา (แคนดิไดอะซิส/Candidiasis) อาจโดยนำเนื้อเยื่อที่ริมฝีปากบริเวณรอยโรคไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่?
หากมีอาการริมฝีปากแห้งลอกแตก สามารถพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อทำการวินิจฉัยรักษาและรับคำ แนะนำการดูแลริมฝีปากได้เสมอ
รักษาริมฝีปากลอกอย่างไร?
แนวทางการรักษาภาวะริมฝีปากลอกได้แก่ การใช้ยาทาที่ริมฝีปากโดย
- เป็นยาในกลุ่มยา สเตียรอยด์ชนิดความเข้มข้นอ่อน (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง คอร์ติโคสเตียรอยด์ /Corticosteroids) เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง
- ร่วมกับการทาริมฝีปากบ่อยๆเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย ยา ปิโตรเลียม เจลลี่ (Petroleum jelly)/วาสลีน (Vaseline)
- ในรายที่ริมฝีปากลอกเกิดจากพฤติกรรมการ แกะ ลอก เลีย ริมฝีปาก การให้ยารับประทานเพื่อลดความวิตกกังวล และการแนะนำให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมเหล่านี้กับภาวะริมฝีปากลอกนี้อาจช่วยลดอาการลงได้
- ในรายที่ริมฝีปากลอกเกิดจากเชื้อรา การรักษาคือการใช้ยาต้านเชื้อราซึ่งอาจเป็นยาทาและ/หรือยากินขึ้นกับความรุนแรงของอาการ
ริมฝีปากลอกก่อผลข้างเคียงอย่างไร?
ผลข้างเคียงจากภาวะริมฝีปากลอก คือ
- ในผู้ที่มีริมฝีปากแห้งแตกมากจะมีอาการ เจ็บแสบ คัน ที่ริมฝีปาก
- นอกจากนั้นคือการเสียภาพลักษณ์สำหรับในบางคน
ริมฝีปากลอกมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
ภาวะริมฝีปากลอกเป็นภาวะไม่อันตราย ดูแลรักษาได้หายเสมอ โดยอาการจะดีขึ้นเมื่อปัจจัย ที่ทำให้ริมฝีปากบาดเจ็บหมดไป เช่น การลอก การเลียริมฝีปากบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม อาการจะกลับมาเป็นซ้ำอีกได้เสมอ เมื่อกลับมามีพฤติกรรมดังกล่าวอีก
ดูแลรักษาตนเองอย่างไรเมื่อมีริมฝีปากลอก?
การดูแลตนเองเมื่อเกิดภาวะริมฝีปากลอก คือ
- พยายามหยุดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของผิวหนังบริเวณริมฝีปากเช่น การลอกปาก เลียริมฝีปาก
- ทาริมฝีปากบ่อยๆด้วยปิโตรเลียม เจลลี่ร่วมกับ
- ใช้ยาทาริมฝีปากตามที่แพทย์สั่ง
- ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของริมฝีปากเมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำดื่มเช่น วันละ 8 - 10 แก้ว
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหารเพื่อช่วยให้เซลล์แข็งแรงเพื่อแผล/อาการที่ริมฝีปากหายได้เร็วขึ้น
- รักษาสุขภาพจิตไม่ให้วิตกกังวล
เมื่อไหร่ต้องพบแพทย์ก่อนนัด?
หลังการรักษาด้วยยาทาริมฝีปาก ถ้าอาการลุกลามขึ้นสามารถพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัดได้เสมอ
ป้องกันริมฝีปากลอกได้อย่างไร?
การป้องกันภาวะริมฝีปากลอกทำได้ โดย
- รักษาความชุ่มชื่นของริมฝีปาก ซึ่งในกรณีที่ริมปากแห้งสามารถทาปิโตรเลียม เจลลี่บ่อยๆ(ทาบ่อยได้เท่าที่ต้องการ) เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปาก
- เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของผิวหนังที่ริมฝีปากเช่น การลอกปาก เลียปาก
- ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของริมฝีปากเมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำดื่มเช่น วันละ 8 - 10 แก้ว
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหารเพื่อช่วยให้เซลล์แข็งแรงเพื่อแผล/อาการที่ริมฝีปากหายได้เร็วขึ้น
- ดูแลสุขภาพจิตใจให้แข็งแรง ไม่วิตกกังวลจนเกินเหตุ
บรรณานุกรม
- ปรียากุลละวณิชย์,ประวิตร พิศาลยบุตร .Dermatology 2020:ชื่อบท.พิมพ์ครั้งที่1.กรุงเทพฯ:โฮลิสติก,2555
- Lowell A. Goldsmith,Stephen I. Katz,Barbara A. Gilchrest,Amy S. Paller,David J.Leffell,Klaus Wolff.Fitzpatrick’s dermatology in general medicine :chapter.eight edition.McGraw-Hill.2012