ยาเมโคบาลามิน (Mecobalamin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 พฤศจิกายน 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยาเมโคบาลามินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาเมโคบาลามินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาเมโคบาลามินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาเมโคบาลามินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาเมโคบาลามินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาเมโคบาลามินอย่างไร?
- ยาเมโคบาลามินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาเมโคบาลามินอย่างไร?
- ยาเมโคบาลามินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- วิตามิน (Vitamin)
- โรคเส้นประสาท (Peripheral neuropathy)
- โลหิตจาง เลือดจาง ซีด (Anemia)
- โรคเส้นประสาทเหตุจากแอลกอฮอล์ เส้นประสาทอักเสบเหตุจากแอลกอฮอล์ (Alcoholic Neuropathy)
- โรคเส้นประสาทเหตุเบาหวาน (Diabetic Neuropathy)
- โรคเส้นประสาทมีเดียนกดทับที่ข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome)
บทนำ
ยาเมโคบาลามิน (Mecobalamin) เป็นยาจำพวกวิตามินบี 12 (MeB12) และยังมีชื่อเรียกอื่นอีก เช่น เมทิลโคบาลามิน (Methylcobalamin) ทางวงการแพทย์ นำมาใช้รักษาอาการ/ ภาวะขาดวิตามินบี12 ของร่างกาย เช่น อาการโลหิตจาง/ โรคซีด, รักษาพยาธิสภาพของเส้นประสาทส่วนปลาย, รักษาเส้นประสาทอักเสบในผู้ป่วยเบาหวาน (เส้นประสาทเหตุเบาหวาน) เป็นต้น
สำหรับเส้นทางการบริหารยา/ใช้ยา/ให้ยาเข้าสู่ร่างกาย มีทั้ง
- การรับประทาน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงทำให้ยานี้ถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือดและมีความเข้มข้นสูงสุด
- หากเป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (IM: Intramuscular injection) ใช้เวลาไม่เกิน 0.9 ชั่วโมง หรือ
- ฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ (IV: Intrave nous injection) ใช้เวลาเพียงประมาณ 3 นาทีก็เพียงพอที่จะทำให้ปริมาณความเข้มข้นในกระแสเลือดมีได้มากที่สุด
คณะกรรมการอาหารและยาของไทย ได้จัดให้ยาเมโคบาลามินที่เป็นยาเม็ดอยู่ในหมวด ‘ยาไม่อันตราย’ แต่ในรูปแบบยาฉีดถูกจัดให้อยู่ในหมวด ‘ยาอันตราย’ อย่างไรก็ตามยา เมโคบาลามินยังมีผลข้างเคียงและข้อควรระวังของยา ดังนั้นการใช้ยานี้จึงควรต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
ยาเมโคบาลามินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาเมโคบาลามินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาโรคเส้นประสาท (Peripheral neuropathies)
- รักษาโรค/ภาวะโลหิตจาง/ โรคซีดชนิด Megaloblastic anemia
ยาเมโคบาลามินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
เมโคบาลามินมีกลไกการออกฤทธิ์ เป็นตัวช่วยในกระบวนการสังเคราะห์เอนไซม์ที่ชื่อว่า เมไทโอนีน ซินเทส (Methionine synthase: เอนไซม์เกี่ยวข้องกับการทำงานของเส้นประสาท ) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโลหิตจาง เมโคบาลามินจะช่วยเร่งการเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยจะสนับ สนุนการสังเคราะห์กรดนิวคลีอิค (Nucleic acid: สารที่ใช้ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง) ในไขกระดูก และช่วยทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญเติบโตเต็มที่ ด้วยกลไกที่กล่าวข้างต้นทำให้ยานี้มีฤทธิ์ในการรักษาตามสรรพคุณ
ยาเมโคบาลามินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเมโคบาลามินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- รูปแบบยาเม็ด ขนาด 500 ไมโครกรัม/เม็ด
- รูปแบบยาฉีด ขนาด 500 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร
อนึ่ง การผลิตยาเมโคบาลามิน ไม่เพียงแต่จะผลิตในรูปแบบยาเดี่ยวเท่านั้น เราอาจพบเห็น ยาเมโคบาลามิน ถูกนำไปผสมรวมกับยาวิตามินรวมในรูปแบบของยาเม็ดได้เช่นกัน เช่น ยาวิตามิน B 1-6-12
ยาเมโคบาลามินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาเมโคบาลามินมีขนาดรับประทาน เช่น
ก. สำหรับโรคเส้นประสาท (Peripheral neuropathies): เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 500 ไมโครกรัม วันละ 3 ครั้ง โดยสามารถรับประทานยาก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
ข. รักษาภาวะโลหิตจาง/ โรคซีดที่มีสาเหตุจากการขาดวิตามิน บี 12: เช่น
- ผู้ใหญ่: ใช้ในรูปแบบยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือเข้าเส้นเลือดดำ วันละ 500ไมโครกรัม 3 ครั้ง/สัปดาห์ เมื่อครบ 2 เดือน แพทย์อาจลดขนาดการฉีดเป็นฉีดครั้งเดียว 500 ไมโครกรัม ทุกๆ 1 - 3 เดือน
อนึ่ง:
- เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): ขนาดยานี้ในเด็ก ขึ้นกับ อายุ น้ำหนักตัว และความรุนแรงของโรค ซึ่งการใช้ยาจะอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาเมโคบาลามิน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น และ/หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยา หรืออาหารเสริมอะไรอยู่ เพราะยาเมโคบาลามิน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆ/อาหารเสริมที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่ามีการตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาเมโคบาลามิน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ยาเมโคบาลามินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเมโคบาลามินสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/ อาการข้างเคียง) เช่น
- สำหรับยารับประทาน: อาจมีอาการ เช่น
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้-อาเจียน
- ท้องเสีย
- สำหรับรูปแบบยาฉีด: อาจทำให้เกิดอาการ เช่น
- ผื่นคันตามผิวหนัง
- ปวดหัว
- ปวดบริเวณที่ถูกฉีดยา
มีข้อควรระวังการใช้ยาเมโคบาลามินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเมโคบาลามิน เช่น
- ห้ามใช้ในผู้แพ้ยานี้
- ระวังการฉีดยานี้ซ้ำกับบริเวณผิวหนังที่เคยฉีดยาเมโคบาลามินมาก่อน ด้วยจะเพิ่มความเจ็บ/ ปวด โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กทารกและเด็กเล็ก
- ยาเมโคบาลามิน สามารถรบกวนผลการตรวจเลือด (ซีบีซี/CBC) ของผู้ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากภาวะขาดโฟเลท/Folic acid (Folate deficiency)
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเมโคบาลามินด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้ง ให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.comบทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาเมโคบาลามินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเมโคบาลามิน มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเมโคบาลามินร่วมกับยาต้านเชื้อแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ) เช่น Neomycin หรือ ยาโรคเกาต์ เช่นยา Colchicine สามารถลดการดูดซึมยาเมโคบาลามินจากระบบทางเดินอาหารได้ แพทย์จะเป็นผู้ปรับเวลาหรือขนาดรับประทานที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยาเมโคบาลามินร่วมกับยาต้านเชื้อแบคทีเรีย เช่น Chloramphenicol ชนิดฉีด สามารถลดประสิทธิภาพการรักษาโรค/ภาวะโลหิตจาง/ โรคซีดของเมโคบาลามิน หากเป็นไปได้ ควรเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาเมโคบาลามินร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral contraceptive) สามารถลดระดับความเข้มข้นของเมโคบาลามินในกระแสเลือด จนอาจส่งผลต่อการรักษาได้
ควรเก็บรักษายาเมโคบาลามินอย่างไร?
สามารถเก็บยาเมโคบาลามิน เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง
- เก็บยาให้พ้นแสง/ แสงแดด และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยาเมโคบาลามินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเมโคบาลามิน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Balamine (บาลามิน) | Umeda |
Diavit (ไดเอวิต) | Mega Lifesciences |
Macoba 500 (มาโคบา 500) | Sriprasit Pharma |
Mecobal (เมโคบาล) | T.O. Chemicals |
Mecobalamin-Daito (เมโคบาลามิน-ไดโต) | Daito |
Mecobin (เมโคบิน) | Unison |
Mecze (เม็กซ์) | Zee Lab |
Merabin (เมราบิน) | Daewoo |
Methycobal (เมทิโคบาล) | Eisai |
Neuromet (นูโรเมท) | Merck |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Methylcobalamin [2020,Nov28]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fUSA%2fdrug%2finfo%2fmecobalamin%2f%3ftype%3dfull%26mtype%3dgeneric#Dosage [2020,Nov28]
- http://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=mecobalamin [2020,Nov28]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fThailand%2fdrug%2finfo%2fMethycobal%2f%3ftype%3dbrief [2020,Nov28]
- https://www.drugs.com/npp/methylcobalamin.html [2020,Nov28]