ยาล้างตา (Eyewash)

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปกติตาคนเราไม่ต้องการทำความสะอาดตาโดยการล้าง เพราะตาเรามีวิธีรักษาความสะอาดตัวเองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว คือ มี ‘นํ้าตา’ ซึ่งจะขับออกมาจาก ‘ต่อมน้ำตา’ มากขึ้นเมื่อมีสิ่งแปลก ปลอมเข้าตา เพื่อชะล้างสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมา

การล้างตาเป็นประจำ เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะกระทำ เพราะเป็นการล้างเอานํ้าตาธรรมชาติซึ่งมีประโยชน์มากกว่าออกไป แต่ถ้าเกิดมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาแล้ว นํ้าตาธรรมชาติไม่สามารถชะล้างออกได้ เราอาจต้องช่วยเหลือ จัดการกับสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นโดยการล้างตา

ยาล้างตา เป็นนํ้ายาที่ใช้ล้างตา มีชนิดเป็น กรดบอริก (Boric acid), นํ้าเกลือ (Normal saline), หรือแบบนํ้าสะอาดธรรมดา (Distilled water: น้ำกลั่น) ที่นิยมคือใช้ถ้วยที่เหมาะกับตาใส่ นํ้ายา แล้วมาครอบที่ตา ลืมตาแล้วกลอกตาไปมา ใช้ได้ผลดีพอประมาณ แต่ส่วนใหญ่ได้ผลทางจิต ใจมากกว่า และในแง่ของการติดเชื้อแล้ว ถือว่าไม่ได้ผล เพราะเมื่อล้างแล้ว สมมติมีเชื้ออยู่ เชื้อก็จะคลุกเคล้ากับนํ้ายาที่ล้าง แล้วก็ติดอยู่แถวๆตานั้น ที่ร้ายคือเชื้อติดอยู่ที่ถ้วยล้าง หลังจากล้างแล้วไม่ทำความสะอาดถ้วยล้างตาให้ดีพอ พอล้างใหม่เชื้อก็กลับเข้าไปอีก ไม่มีวันหาย

ฉะนั้นหลังล้างตาแล้ว ต้องทำความสะอาดภาชนะล้างตาให้ดี เช่น ต้ม แล้วตากให้แห้ง จึงจะเหมาะกว่าการล้างแบบนี้ ตามที่กล่าวแล้วได้ผลทางจิตใจเป็นส่วนใหญ่ เช่น ผู้ที่ล้างแล้วมี ความรู้ สึกว่า ตาสะอาด โล่งเย็นสบาย

นอกจากนี้ การล้างตาโดยวิธีอื่น เช่น เปิดก๊อกนํ้าประปาสะอาด ให้น้ำไหลแล้วเอาตาเข้าไปรอง หรือลืมตาในนํ้าสะอาด วิธีเหล่านี้ ‘ไม่แนะนำ’ ให้ทำ เพราะอันตรายมีมาก และไม่ถูกสุขลักษณะ แต่เป็นวิธีที่เหมาะและสมควรทำอย่างยิ่ง เมื่อมีสารเคมีเข้าตา เช่น กรด ด่าง ฯลฯ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง สารเคมีเข้าตา) เพราะขณะนั้นต้องการความรวดเร็ว และเป็นสิ่งที่หาง่ายที่สุด

น้ำยาล้างตา โดยมากเป็นนํ้าบริสุทธิ์ผสมกับยาฆ่าเชื้อโรค (แอนติเซพติก: Antiseptics) บางชนิด เช่น กรดบอริค หรือ ใช้นํ้าเกลือธรรมดา ใช้ล้างตาในคนที่มีขี้ตามาก หรือมีฝุ่นผงเข้าตา (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ผงเข้าตา) ในคนตาดีๆ ไม่ควรจะล้างตาด้วยนํ้ายาพวกนี้ นอกจากจะไม่มีประโยชน์ สิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุแล้ว ยังเป็นการทำลาย ’นํ้าตา’ ธรรมชาติซึ่งมีประโยชน์มากกว่าอีกด้วย

การล้างตา (Irrigation of the eye)

ตา เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่ใช้ในการมองเห็น ดังนั้นเมื่อมีสิ่งสกปรก เชื้อโรค สิ่งแปลกปลอมต่างๆเข้าตา จึงจำเป็นต้องมีการกำจัดออก

ก.

ก. วัตถุประสงค์ในการล้างตา เพื่อ

  • ล้างตา เอาผงออกจากตา
  • ล้างพิษจากสารเคมี หรือจากสิ่งแปลกปลอมออกจากตา
  • ทำความสะอาดตาก่อนผ่าตัด
ข.

ข. ข้อควรระวังเวลาล้างตา คือ

  • เวลาล้างตา ต้องทำอย่างเบามือ
  • ขณะล้างตา อย่าพุ่งน้ำลงบนกระจกตา (ตาดำ) โดยตรง เพราะจะทำให้รู้สึกปวด เจ็บตา
  • ให้ล้างตาข้างที่สะอาดก่อนเสมอ (ในกรณีที่ตาติดเชื้อ)

อนึ่ง การล้างตาในคนปกตินั้น เราทำกันอยู่แล้วทุกวัน จนไม่ได้นึกถึง นั่นก็คือล้างด้วย "น้ำตา" ทั้งนี้ก็เพราะว่า ส่วนประกอบของน้ำตา มีสารลัยโซซัยม์ (Lysozyme) ซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค, บางส่วนของน้ำตาเป็นน้ำมันช่วยให้ลื่น ทำให้ฝุ่นผงเล็กๆน้อยๆ ที่ปลิวมาเข้าตาลื่นไถลไป ไม่สามารถทำอันตรายต่อตาดำได้ ซึ่งช่วยล้างตาตามธรรม ชาติ

จะเห็นว่าเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา เราจะรู้สึกกระคายเคือง จะมีการกระตุ้นทำให้น้ำตาออกมาจากต่อมน้ำตามากกว่าปกติ โรคตาบางโรคทำให้มีความรู้สึกระคายเคืองมาก น้ำตาก็ไหลออกมามากเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการป้องกันตาตามธรรมชาติของร่างกาย

สำหรับคนทั่วๆไปมักใช้ยาล้างตาที่มีขายทั่วไป ประกอบด้วยกรดบอริค 2 - 3 กรัม ในน้ำ 100 ซีซี เป็นตัวสำคัญ กรดบอริคเป็นตัวฆ่าเชื้อโรคได้อย่างอ่อนๆ เมื่อต้องการล้างตาด้วยตนเอง ก็จะ ต้องมีถ้วยเล็กๆสำหรับล้างตา มีขนาดที่สามารถครอบลงไปบนตาและเปลือกตาได้มิด รินน้ำยาล้างตาใส่ให้เต็ม แล้วครอบไปบนตาข้างที่ต้องการล้าง ลืมตา กะพริบตา และกลอกตาไปมาในน้ำยาสัก ครู่ใหญ่ แล้วเทน้ำยาทิ้ง

เราควรล้างตาในกรณีใดบ้าง?

เราควรล้างตา กรณีดังนี้

  1. ป่วยเป็นโรคตาและแพทย์แนะนำให้ล้างตา ในเด็กที่ไม่สามารถล้างตาด้วยตนเอง ผู้ปกครองใช้สำลีสะอาดๆ ชุบยาล้างตา แล้วเช็ดไปตามความยาวของเปลือกตา/หนังตา ตั้งแต่หัวไปจนถึงหางตา เปลี่ยนสำลีใหม่ทุกครั้ง เช็ดแบบเดิมจนขนตาและเปลือกตาสะอาด
  2. มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ส่วนมากเป็นผงหรือฝุ่นละอองต่างๆ เศษผงบางชนิด ฝังตัวติดแน่นกับตาดำ แบบนี้การล้างตาไม่ได้ช่วยให้ผงหลุดออกไปได้ ควรไปพบจักษุแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยด่วน

บางคนที่ล้างตาเป็นประจำทุกวันทั้งที่ไม่ได้เจ็บป่วยเป็นโรคตานั้น ถือว่าไม่เกิดประโยชน์อะ ไร กลับผลเสียด้วยซ้ำ คือเสียเงินไปซื้อยาล้างตามาล้างบ่อยๆ ทำให้ความต้านทานโรคตามธรรม ชาติของ’ตา’ลดต่ำลง

การล้างตาทุกวันใช่ว่าจำเป็น เพราะมีน้ำตาช่วยกำจัดเชื้อโรคอยู่แล้ว เป็นเพราะว่า "ตา" น่าถนอม บางท่านก็เลยวิตกกังวลเกินกว่าเหตุ เที่ยวซื้อหาน้ำยาล้างตา มาล้างตากันทุกวัน เพราะตาม ปกติน้ำตาที่ผลิตจากต่อมน้ำตาของคนเรา ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเคลือบ หรือหล่อเลี้ยงเยื่อตาและกระจกตาได้อย่างพอเหมาะพอดีอยู่แล้ว แถมน้ำตายังช่วยกำจัดเชื้อโรคจำนวนเล็กๆน้อยๆ ที่ปลิวมาในอา กาศหรือติดมากับฝุ่นลม ไม่ให้มาคุกคามลูกตาอีกด้วย

มีน้ำตาคอยเป็นด่านหน้าตามธรรมชาติให้ถึงขนาดนี้ ก็เลิกพึ่งน้ำยาล้างตากันทุกวันได้แล้ว เดี๋ยวจะเป็นการไปชำระล้างเอาน้ำตาตามธรรมชาติ ที่หล่อเลี้ยงลูกตาอยู่ ให้ออกไปเสียเปล่าๆ

อื่นๆ

ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาล้างตาด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน รวมทั้งต้องไม่ใช้ยาที่หมด อายุ

ยาล้างตา ไม่มีข้อจำกัดในการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็ก ซึ่งการใช้ยาล้างตาในเด็ก ควรอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่

บรรณานุกรม

1. http://www.healthcarethai.com/การใช้ยาทางตา/ [2014,May5].
2. http://information01.exteen.com/irrigation-of-the-eye [2014,May5].