ยาคนข้างบ้าน

ยาคนข้างบ้าน-1


      

      ยุคนี้ถ้าลองไปเดินเที่ยวเล่นในชุมชนชนบท จะพบแต่ผู้สูงอายุ กับเด็กเล็ก ผู้ใหญ่วัยทำงานมีน้อยมาก เพราะไปทำงานต่างถิ่นกันหมด เหลือแต่ผู้สูงอายุ คือ ตา ยาย ปู่ ย่าเลี้ยงหลานๆ เวลาเจ็บป่วยก็เลยไม่ค่อยมีลูกพาไป อาศัยซื้อยาทานเอง ไปปรึกษากับคนข้างบ้าน ถ้าพอดีมีอาการเดียวกันกับคนข้างบ้าน ก็อาจได้ยาจากคนข้างบ้านมาทานเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถ้าการเจ็บป่วยนั้นเป็นอาการเจ็บป่วยทั่วๆ ไป ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ท้องเสีย ปวดเมื่อย แต่ถ้าเกิดเป็นอาการรุนแรง เช่น อาการอัมพาต ก็จะเกิดเหตุยุ่ง วุ่นวายแน่ๆ ครับ ลองติดตามเรื่องนี้ดูครับว่ามันวุ่นจริงๆ

      วันหนึ่งผมออกตรวจผู้ป่วยที่แผนกฉุกเฉินก็มีผู้ป่วยอาการตัวแข็ง เกร็ง ตาเหลือกค้างมาที่ห้องฉุกเฉิน ผมดูแล้วน่าจะเป็นอาการ extrapyramidal side effect ซึ่งเป็นอาการผลข้างเคียงของการใช้ยารักษาโรคจิตเภท แต่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคจิต แล้วไปได้ยานี้มาจากไหน ผมจึงถามญาติว่าช่วงนี้ทานยาอะไรเพิ่มเติมมาบ้าง ทานยาโรคจิตมาหรือเปล่า ยาแก้อาเจียนมาหรือเปล่า ญาติก็บอกว่าเปล่าทานยาที่ผมถามเลย แต่ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานอนไม่หลับ ก็เลยไปคุยกับคนข้างบ้าน เขาเลยเอายานอนไม่หลับของตาข้างบ้านมาทาน ก็นอนหลับไม่ค่อยดี จากที่ทาน 1 เม็ดก็เลยเพิ่มเป็น 2 เม็ดหลับดี ทานแบบนี้มา 4-5 วันได้ แกก็เริ่มตัวแข็งแบบนี้ครับ

      ผมก็ถึงบางอ้อเลยครับ แสดงว่าผู้ป่วยไปทานยารักษาโรคจิตมา โดยได้ยาจากข้างบ้านมาแน่ ๆ ก็เลยให้ญาติไปเอายามาให้ดู ก็เป็นตามที่คาด คือ ยาชื่อฮาโลเพอริดอล (haloperidol) เป็นยารักษาอาการทางจิต เพราะคนข้างบ้านนอนไม่หลับจากอาการทางจิต พอผู้ป่วยไปทานยานี้มาก็เลยเกิดผลแทรกซ้อนอย่างที่เป็น

      การทานยาข้างบ้าน ถ้ามองในแง่การมีน้ำใจของคนไทยก็น่ารักดีนะครับ แต่พอดีเป็นยาอันตราย ยารักษาคนละโรคกันก็เลยเป็นเรื่องแบบนี้ครับ ระวังนะครับ อาการเดียวกัน แต่สาเหตุคนละแบบเลย อย่าทานยาข้างบ้านเลยครับ อันตราย