ภาวะไร้กรดเกลือ (Achlorhydria)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 30 มกราคม 2563
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
- ภาวะไร้กรดเกลือมีสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงจากอะไร?
- ภาวะไร้กรดเกลือมีอาการอย่างไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
- แพทย์วินิจฉัยภาวะไร้กรดเกลืออย่างไร?
- รักษาภาวะไร้กรดเกลืออย่างไร?
- ภาวะไร้กรดเกลือมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร?ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?
- ป้องกันภาวะไร้กรดเกลืออย่างไร?
- บรรณานุกรม
- กายวิภาคและสรีรวิทยาระบบทางเดินอาหาร (Anatomy and physiology of alimentary system)
- โรคทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินอาหาร (Digestive disease)
- มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric cancer)
- อาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ (Healthy diet)
- โลหิตจางอย่างร้าย (Pernicious anemia)
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊ส (Abdominal bloating)
- โรคติดเชื้อเอชไพโลไร (H.pylori infection)
- โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร (Gastrointestinal infection)
- โรคภูมิต้านตนเอง โรคออโตอิมมูน (Autoimmune disease)
- สุขอนามัยพื้นฐาน สุขบัญญัติแห่งชาติ (Ten National Healthy Articles)
- ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน (Hypothyroidism)
บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
ภาวะไร้กรดเกลือ(Achlorhydria) คือ โรค/ภาวะที่กระเพาะอาหารไม่สามารถสร้างกรด/กรดเกลือ(Hydrochloric acid ย่อว่า HCl)ได้ จึงส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร ที่ส่งผลต่อเนื่องถึงความผิดปกติในการดูดซึมอาหาร วิตามิน เกลือแร่/ แร่ธาตุต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดอาการทางกระเพาะอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ร่วมกับอาการจากภาวะขาดสารอาหารต่างๆที่ต้องใช้กรดเกลือช่วยในการดูดซึม เช่น โปรตีน, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก, วิตามินซี, วิตามินบี12
ภาวะไร้กรดเกลือ พบได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับบ่อยมาก พบทั่วโลก โอกาสเกิดในผู้หญิงและในผู้ชายใกล้เคียงกัน มักพบในผู้ใหญ่โดยเฉพาะเมื่อสูงอายุ มีรายงานในประเทศเดนมาร์ก พบภาวะนี้ได้ประมาณ 18%ในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป
กรดเกลือ หรือกรดกระเพาะอาหาร(Gastric acid หรือ Stomach acid) เป็นกรดที่สร้างจากเซลล์กระเพาะอาหารที่เรียกว่า Parietal cell หรือ Oxyntic cell ) ซึ่งจะทำให้กระเพาะอาหารมีความเป็นกรด หรือ ค่า พีเอช (pH) อยู่ในช่วง 1.5-3.5 ซึ่งกรดในกระเพาะอาหารมีหน้าที่ ดังนี้
- ช่วยการย่อยสลายโปรตีนในกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยให้ดูดซึมได้ดีในลำไส้เล็ก โดยการเปลี่ยนเอนไซม์ตั้งต้น Pepsinogen ที่ยังไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน(Proenzyme) ไปเป็นเอนไซม์ Pepsin ที่มีประสิทธิภาพได้ดีในการย่อยโปรตีน
- ช่วยการดูดซึม วิตามิน เกลือแร่ หลายชนิดในลำไส้เล็ก ที่สำคัญ คือ แคลเซียม, ธาตเหล็ก, วิตามินบี12, วิตามินซี
- ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม ทั้ง แบคทีเรีย เชื้อไวรัส (บทความโรคติดเชื้อไวรัส ในเว็บ haamor.com) และ สัตว์เซลล์เดียว (บทความโรคติดเชื้อสัตว์เซลล์เดียวจาก haamor.com) จึงลดโอกาสเกิดโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร
*อนึ่ง ภาวะที่กระเพาะอาหารยังพอสร้างกรดเกลือได้ แต่สร้างได้น้อยกว่าปกติ เรียกว่า ‘ภาวะพร่องกรดเกลือ’ หรือ ‘ภาวะมีกรดเกลือน้อย’ หรือ ‘ภาวะขาดกรดเกลือ’ (Hypochlordria หรือ Stomach acid deficiency) ซึ่งจะมีธรรมชาติของโรค ที่รวมถึง สาเหตุ อาการ วิธีวินิจฉัย การรักษา เช่นเดียวกับ ภาวะไร้กรดเกลือ เพียงแต่อาการจะรุนแรงน้อยกว่า เพราะกระเพาะอาหารยังพอสร้างกรดเกลือได้บ้างแต่ในปริมาณที่ต่ำกว่าปกติ
ภาวะไร้กรดเกลือมีสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงจากอะไร?
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงของการเกิด ภาวะไร้กรดเกลือ หรือ ภาวะที่ทำให้เซลล์กระเพาะอาหารสร้างกรดเกลือลดลง หรือ สร้างกรดเกลือได้ในปริมาณต่ำกว่าปกติ มีหลากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อย คือ
- อายุ: เพราะเกิดจากการเสื่อมตามธรรมชาติของเซลล์ทุกชนิดของร่างกายตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งรวมถึงเซลล์สร้างกรดเกลือของกระเพาะอาหารด้วย
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาลดกรดอย่างต่อเนื่องยาวนาน เช่น ยากลุ่ม Proton pump inhibitor (ย่อว่า PPI)
- การติดเชื้อเอชไพโลไรของกระเพาะอาหาร (โรคติดเชื้อเอสไพโลไร)
- ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
- การผ่าตัดกระเพาะอาหารในการรักษาโรคอ้วน เพราะเป็นการลดเนื้อที่ของกระเพาะอาหาร ปริมาณเซลล์สร้างกรดเกลือจึงลดลงตามไปด้วย
- โรคออโตอิมมูน เช่น โรคลูปัส-โรคเอสแอลอี ที่ทำให้เซลล์กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง จนลดการสร้างกรดเกลือหรือไม่สามารถสร้างกรดเกลือได้ ที่เรียกว่าโรคกระเพาะอักเสบเรื้อรังชนิดนี้ว่า Atrophic gastritis
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีรักษาในโรคมะเร็งของอวัยวะในช่องท้องที่ทำให้กระเพาะอาหารได้รับปริมาณรังสีร่วมไปด้วย
- โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ที่เซลล์มะเร็งลุกลามจนทำให้เซลล์กระเพาะอาหารปกติ/เซลล์สร้างกรดเกลือลดน้อยลง (ในทางกลับกัน ภาวะไร้กรดเกลือ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ ถึงแม้จะพบได้น้อยก็ตาม)
ภาวะไร้กรดเกลือมีอาการอย่างไร?
อาการของภาวะไร้กรดเกลือ จะเกิดได้จากร่างกาย/กระเพาะอาหารขาดกรดเกลือ และร่วมกับอาการจากโรค/ภาวะต่างๆที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดภาวะไร้กรดเกลือ
ก. อาการที่เกิดจากกระเพาะอาหารไร้/ขาด/พร่องกรดเกลือ: เป็นอาการเรื้อรังจากกระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ไม่ดีจากขาดกรดเกลือ ร่วมกับอาการจากขาดอาหารที่รวมถึง วิตามิน และแร่ธาตุ ที่ต้องใช้กรดเกลือเป็นตัวช่วยการดูดซึม ซึ่งจะคล้ายกันในผู้ป่วยทุกราย โดยจะไม่เป็นอาการเฉพาะ แต่จะคล้ายกับอาการจากโรคระบบทางเดินอาหารทั่วไป ร่วมกับอาการจากภาวะขาดอาหาร/ทุพโภชนา ซึ่งที่พบบ่อย(ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอาการ) ได้แก่
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
- เรอบ่อย
- รู้สึกไม่สบาย หรือ แน่น หรือ ปวดท้อง บริเวณยอดอกที่เป็นตำแหน่งของกระเพาะอาหาร
- อิ่มอาหารเร็วกว่าปกติ
- มีแก๊สมากในท้อง
- ท้องเสียง่าย แต่บางคนอาจท้องผูกได้
- คลื่นไส้ อาจมีอาเจียน
- อาจมีอาหารที่ย่อยไม่หมดปนมาในอุจจาระมากผิดปกติ
- อาการจากการขาดสารอาหาร โดยเฉพาะ วิตามิน แร่ธาตุ ชนิดที่การดูดซึมจำเป็นต้องใช้กรดเกลือจากกระเพาะอาหารช่วย ที่พบบ่อย เช่น
- โรคซีด จากร่างกายขาดธาตุเหล็ก/ภาวะขาดธาตุเหล็ก
- อาการจาก ภาวะขาดวิตามินบี12
- อาการจากภาวะขาดวิตามินซี /โรคขาดวิตามินซี /โรคลักปิดลักเปิด
- โรคกระดูกบาง/ โรคกระดูกพรุนจากขาดแคลเซียม
ข. อาการจากโรค/ภาวะที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะไร้กรดเกลือ: เป็นอาการที่จะต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายตามแต่ละสาเหตุ (แนะนำอ่านรายละเอียดของแต่ละโรค/ภาวะที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงได้จาก เว็บ haamor.com) เช่น
- โรคออโตอิมมูน
- โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
- โรคติดเชื้อเอชไพโลไร
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาลดกรดต่อเนื่อง
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยากลุ่ม Proton pump inhibitor ต่อเนื่อง
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
เมื่อมีอาการต่างๆดังกล่าวใน ’หัวข้อ อาการฯ’ และอาการไม่ดีขึ้นใน2-3สัปดาห์หลังการดูแลตนเอง หรืออาการเลวลงตลอดเวลา หรืออาการแย่ตั้งแต่แรก ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเสมอ
แพทย์วินิจฉัยภาวะไร้กรดเกลืออย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยภาวะไร้กรดได้จาก
- การซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญ เช่น ประวัติอาการ โรคประจำตัว การใช้ยาต่างๆ อายุ
- การตรวจร่างกาย
- ส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจร่วมกับการตัดชิ้นเนื้อบริเวณรอยโรคเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
- การตรวจกระเพาะอาหารด้วยเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อการตรวจหา ค่า pH/ค่าความเป็นกรดด่างของกระเพาะอาหาร, การตรวจหาค่าเอนไซม์ต่างๆของกระเพาะอาหาร เช่น
- การกลืนเครื่องตรวจที่มีลักษณะเป็นแคปซูล
- การใส่สายเครื่องมือผ่านทางปากเพื่อเก็บน้ำย่อยอาหารจากกระเพาะอาหาร
อนึ่ง ค่า pHของน้ำย่อยอาหารจากกระเพาะอาหาร
- เมื่อค่าต่ำกว่า 3 แปลผลว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ค่า 3-5 แปลผลว่า เป็นภาวะพร่องกรดเกลือ(Hypochlohtdria)
- ค่ามากกว่า 5 แปลผลว่า เป็นภาวะไร้กรดเกลือ(Achlorhydria)
รักษาภาวะไร้กรดเกลืออย่างไร?
แนวทางการรักษาภาวะไร้กรด ได้แก่
ก. การรักษาโรค/ภาวะที่เป็นปัจจัยเสี่ยง: ซึ่งจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายตามแต่ละสาเหตุของภาวะนี้ (แนะนำอ่านรายละเอียดของแต่ละโรค/ภาวะที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงได้จาก เว็บ haamor.com) เช่น การรักษา
- โรคออโตอิมมูน
- โรคติดเชื้อเอชไพโลไร
ข. การให้ยาต่างๆเพื่อช่วยการย่อยของกระเพาะอาหาร: เช่น
- ยาที่ช่วยเพิ่มกรดเกลือ เช่นยา Betaine hydrochloride
- ยาที่เป็นเอนไซม์ช่วยการย่อยอาหาร(Digestive enzyme) เช่นยา Pepsin powder
ค.การให้อาหารเสริมด้วย วิตามิน เกลือแร่ ชนิดที่กรดเกลือมีส่วนช่วยในการดูดซึมจากอาหาร เช่น
- ยากลุ่มแคลเซียม เช่นยา แคลเซียมคาร์โบเนต, แคลเซียมกลูโคเนต, แคลเซียมซิเตรท
- ธาตุเหล็ก/ ยาบำรุงเลือด เช่นยา Ferrous sulfate, Ferro-B-Cal, Ferrous fumarate
- วิตามินบีรวม
- วิตามินบี12
- วิตามินซี
- วิตามินรวม
ง. การรักษาตามอาการ: ซึ่งขึ้นกับอาการของแต่ละผู้ป่วย เช่น
- ยาแก้ปวดท้อง
- ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน
- ยาแก้ท้องเสีย
- ยาแก้ท้องผูก
ภาวะไร้กรดเกลือมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
ภาวะไร้กรดเกลือ ทั่วไปเป็นโรค/ภาวะที่แพทย์รักษาควบคุมอาการโรคได้ดี แต่ทั้งนี้ยังขึ้นกับสาเหตุด้วย เช่น ถ้าสาเหตุจากอายุ ความรุนแรงของโรค/การพยากรณ์โรคจะดีกว่ากรณีสาเหตุจากโรคออโตอิมมูน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานที่พบได้น้อยที่โรคนี้ เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิด มะเร็งกระเพาะอาหารได้
ดูแลตนเองอย่างไร?ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?
การดูแลตนเองเมื่อมีภาวะไร้กรด ทั่วไป เช่น
- ปฏิบัติตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำ
- กินยา/ใช้ยาที่รวมถึง วิตามิน แร่ธาตุ ที่แพทย์สั่งให้ถูกต้อง ไม่หยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหาร หรืออย่างน้อยในทุกๆวัน
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
- ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนแพทย์นัดเมื่อ
- อาการต่างๆแย่ลงทั้งๆที่ดูแลตนเอง/กินยา/ใช้ยาตามแพทย์สั่งถูกต้องแล้ว
- มีผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ขึ้นผื่น คลื่นไส้-อาเจียนมากต่อเนื่อง ท้องผูกหรือท้องเสียต่อเนื่อง
- กังวลในอาการ
ป้องกันภาวะไร้กรดเกลืออย่างไร?
การป้องกันภาวะไร้กรด เมื่อดูจากสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงแล้ว ไม่สามารถป้องกันได้เต็มร้อย แต่การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ก็น่าจะช่วยชะลอ/ลดโอกาสเกิดโรค/ภาวะนี้ลงได้ โดยเฉพาะ
- การกินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกๆวัน และ
- การรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ)ซึ่งช่วยให้สุขภาพแข็งแรง และช่วยลดโอกาสเกิดโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Achlorhydria [2020,Jan25]
- https://emedicine.medscape.com/article/170066-overview#showall [2020,Jan25]
- https://www.healthline.com/health/hypochlorhydria#outlook [2020,Jan25]
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK507793/ [2020,Jan25]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Gastric_acid [2020,Jan25]