ภาวะขาดไบโอติน (Biotin deficiency)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 6 ธันวาคม 2563
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร? และแหล่งอาหาร
- ร่างกายต้องการไบโอตินวันละเท่าไร?
- ไบโอตินมีประโยชน์และโทษอย่างไร?
- ภาวะขาดไบโอติน มีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงจากอะไร?
- ภาวะขาดไบโอตินมีอาการอย่างไร?
- ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- แพทย์วินิจฉัยภาวะขาดไบโอตินได้อย่างไร?
- รักษาภาวะขาดไบโอตินอย่างไร?
- ภาวะขาดไบโอตินมีการพยากรณ์โรคอย่างไร? มีผลข้างเคียงอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร?ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?
- ป้องกันภาวะขาดไบโอตินอย่างไร?
- บรรณานุกรม
- อาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ (Healthy diet)
- วิตามิน (Vitamin)
- วิตามินบีรวม (B-complex vitamins)
- อาหารเสริม (Dietary supplement)
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary supplements)
- การตั้งครรภ์ (Pregnancy)
- ลำไส้อักเสบ (Enterocolitis)
- โรคโครห์น (Crohn’s disease)
บทนำ: คือโรคอะไร? และแหล่งอาหาร
ภาวะขาดไบโอติน หรือ ภาวะขาดไบโอทิน (Biotin deficiency) คือโรค/ภาวะที่ร่างกายมีสารไบโอติน/ไบโอทิน สารที่จัดอยู่ในกลุมวิตามินบีน้อยกว่าความต้องการของร่างกายอย่างต่อเนื่อง จึงก่อให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆขึ้น เช่น อาการทางผิวหนัง เส้นผม และทางระบบประสาท ซึ่งถ้าเกิดการขาดอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิด อาการโคม่า และจนถึงอาจตายได้
แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะขาดโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน มีโอกาสเกิดได้น้อยมากๆ เพราะในแต่ละวันร่างกายต้องการไบโอตินน้อยมาก
ไบโอติน หรือ ไบโอทิน(Biotin) เป็นวิตามินจำเป็นชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามินละลายในน้ำ ชื่ออื่น คือ ‘วิตามินบี 7 (Vitamin B 7)’ ชื่อในอดีตคือ ‘วิตามิน เอช(Vitamin H)’ หรือ ‘โคเอนไซม์ อาร์(Coenzyme R)’
แหล่งอาหาร:
ไบโอติน/ ไบโอทิน มีมากใน เครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะ ตับ, เนื้อสัตว์ เนื้อปลา อาหารทะเล ไข่แดง เนยแข็ง ธัญพืช ผลนัท เมล็ดพืชชนิดรับประทานได้ ถั่วเหลือง/นมถั่วเหลือง มันฝรั่ง ผักกะหล่ำ ถั่วกินฝัก เห็ด กล้วย
ทั้งนี้ เซลล์ร่างกายคนเรา ไม่สามารถสร้าง/ผลิตไบโอติน/ไบโอทินได้ แต่แบคทีเรียประจำถิ่นบางชนิดในลำไส้สามารถสร้างไบโอติน และร่างกายจะดูดซึมไบโอตินส่วนนี้ร่วมไปกับการดูซึมไบโอตินจากอาหาร อย่างไรก็ตาม ปริมาณไบโอตินจากแบคทีเรียนี้ยังไม่เพียงพอ ร่างกายจึงยังต้องการไบโอตินจากอาหารที่บริโภคร่วมด้วย
อนึ่ง การบริโภค ไข่ขาวสด ในปริมาณสูงต่อเนื่อง ร่างกายจะขาดไบโอติน เพราะในไข่ขาวสดมีสารไกลโคโปรตีนชนิดที่ชื่อ ‘Avidin’ ที่จะลดการดูดซึมของไบโอตินจากระบบทางเดินอาหาร
ร่างกายต้องการไบโอตินวันละเท่าไร?
ตามคำแนะนำสำหรับคนทั่วไปต่อปริมาณไบโอติน/ไบโอทินที่ควรบริโภค/ความต้องการต่อวัน(AI, Adequate intake )ของสถาบันการแพทย์แห่งชาติ แห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Nutrition Board, Institute of Medicine, National Academies)ในปีค.ศ. 2011 คือ
อายุ | ปริมาณไบโอติน(ไมโครกรัมต่อวัน) |
---|---|
ชายและหญิง | |
0-6 เดือน | |
7-12 เดือน | |
1-3 ปี | |
4-8 ปี | |
ชายและหญิง | |
9-13 ปี | |
14-18 ปี | |
19-มากกว่า70 ปี | |
หญิงตั้งครรภ์ | |
14-50 ปี | |
หญิงให้นมบุตร | |
14-50 ปี |
ไบโอตินมีประโยชน์และโทษอย่างไร?
ไบโอตินมี/ไบโอทินประโยชน์และโทษดังนี้
ก. ประโยชน์ของไบโอติน: ที่สำคัญ คือ
- ช่วยในกระบวนสันดาป/ เมตาโบลิซึม(Metabolism)/การใช้พลังงานของร่างกาย/เซลล์ทุกเซลล์ จาก คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และรวมถึงของโปรตีน/กรดอะมิโนต่างๆ
- ช่วยในการสร้างกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย
- ช่วยการเจริญเติบโต/การทำงานของ ต่อมเหงื่อ, เยื่อเมือกต่างๆ เช่น ของช่องปาก เยื่อตา, เส้นผม, ผิวหนัง, ความแข็งแรงของเล็บ
- ช่วยการทำงานของไขกระดูก
- ช่วยการทำงานของเซลล์ประสาท
- ช่วยคงสมดุลของน้ำตาลในเลือด
ข. โทษของไบโอติน/ ไบโอทิน: ทั่วไป ยังไม่มีรายงานเรื่องโทษของไบโอติน รวมถึงโทษที่เกิดจากการบริโภคไบโอตินที่สูงอย่างต่อเนื่อง เพราะร่างกายมักกำจัดไบโอตินส่วนเกินออกจากร่างกายได้ทั้งหมดผ่านทางปัสสาวะ/ทางไต แต่อย่างไรก็ตาม การบริโภคไบโอตินจากอาหารเสริม หรือจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปริมาณสูง ควรปรึกษา แพทย เภสัชกร หรือโภชนากร ก่อนเสมอ เพราะการยังไม่มีรายงานโทษ ไม่ได้หมายความ100%ว่าไบโอตินไม่มีโทษ เป็นแต่เพียงแพทย์อาจยังไม่สามารถตรวจพบได้
ภาวะขาดไบโอติน มีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงจากอะไร?
ภาวะขาดไบโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน มีสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงจาก
ก. ร่างกายได้รับไบโอตินน้อยลง: สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง สำคัญ ได้แก่
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด: เช่น
- ยาที่เพิ่มการทำลายไบโอตินในร่างกาย เช่น ยากันชักบางชนิด เช่น ยา Phenytoin, Carbamazepine
- ยาปฏิชีวนะ: จากที่ยากลุ่มนี้ที่เมื่อใช้ต่อเนื่องในระยะยาว จะมีส่งผลฆ่าแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้ที่รวมถึงชนิดสร้างไบโอตินให้ร่างกาย
- จากภาวะทุพโภชนา: คือร่างกายขาดอาหารมีประโยชน์ต่อเนื่อง จึงขาดสารอาหารที่รวมถึงไบโอติน จากพฤติกรรมการบริโภค หรือ จากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือจากการขาดคนดูแล เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว กรณีผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยอดอาหารต่อเนื่องเพื่อลดน้ำหนักตัว
- ทุพโภชนาจากมีโรคระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง จึงส่งผลให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆที่รวมถึงไบโอตินได้อย่างเพียงพอ เช่น โรคโครห์น เป็นต้น
- ผู้ป่วยที่ได้อาหารทางสายให้อาหารต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยเฉพาะการให้อาหารทางหลอดเลือดดำ เช่น ในผู้ป่วยผ่าตัดลำไส้ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ข. ร่างกายต้องการไบโอตินสูงกว่าปกติ: เช่น กรณีหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร
ค. พันธุกรรมผิดปกติ: โรคทางพันธุกรรมที่พบได้น้อยมากๆๆ ที่ร่างกายขาดสารที่จะนำไบโอตินมาใช้
ภาวะขาดไบโอตินมีอาการอย่างไร?
ไม่มีอาการเฉพาะของภาวะขาดไบโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน แต่เป็นอาการทั่วไปที่คล้ายกับในโรคต่างๆ โดยอาการที่พบได้บ่อย เช่น
- ผิวแห้ง ผิวตกสะเก็ด
- ตาแห้ง เยื่อตาอักเสบบ่อย
- มุมปากมีแผลบ่อย
- ผมร่วง ผมบาง ผมเปราะ
- เล็บเปราะ หักง่าย
- ภาวะซีด
- ปวดกล้ามเนื้อ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อาการทางระบบประสาท เช่น ไม่มีสมาธิ ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ถ้าขาดไบโอตินรุนแรง อาจมีอาการชัก
- อาการอื่นๆทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้
ควรพบแพทย์เมื่อไร?
เมื่อมีอาการดังกล่าวในหัวข้อ”อาการฯ” และอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการเลวลงหลังดูแลตนเองประมาณ 1-2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอเพื่อให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุ
แพทย์วินิจฉัยภาวะขาดไบโอตินได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยภาวะขาดไบโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน ได้จาก
- ประวัติอาการ โรคประจำตัวต่างๆ ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว ประวัติการใช้ยาต่างๆ และรวมถึงพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
- การตรวจร่างกาย
- และที่ให้ผลการวินิจฉัยได้แน่นอนคือ การตรวจปัสสาวะ (ปัสสาวะ: การตรวจปัสสาวะ) ดูค่าไบโอตินในปัสสาวะที่จะต่ำผิดปกติ
รักษาภาวะขาดไบโอตินอย่างไร?
แนวทางการรักษาภาวะขาดไบโอติน / ภาวะขาดไบโอทิน ได้แก่
- การให้ไบโอตินเสริมอาหาร
- การเพิ่มการบริโภคอาหารที่มีไบโอตินสูง
- การรักษาควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง
- และการรักษาตามอาการ
ก. การให้ไบโอตินจากอาหารเสริม อาจเป็นในรูปแบบรับประทาน หรือรูปแบบยาฉีด ทั้งนี้ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา
ข. เพิ่มปริมาณอาหารที่มีไบโอตินสูงในทุกมื้ออาหาร ซึ่งอาหารที่มีไบโอตินสูง ดังได้กล่าวในหัวข้อ ”บทนำฯ”
ค.การรักษา ควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง(ดังได้กล่าวในหัวข้อ”สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงฯ” ) ซึ่งจะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันตามแต่ละสาเหตุ แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในแต่ละสาเหตุในเว็บ haamor.com เช่น โรคโครห์น การตั้งครรภ์
ง. การรักษาตามอาการ: เช่น
- การใช้ครีมบำรุงผิวกรณีผิวแห้ง
- การใช้ครีมบำรุงเล็บกรณีเล็บเปราะ หักง่าย
- การใช้น้ำตาเทียมกรณีตาแห้ง
ภาวะขาดไบโอตินมีการพยากรณ์โรคอย่างไร? มีผลข้างเคียงอย่างไร?
ภาวะขาดไบโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน เป็นภาวะมีการพยากรณ์โรคที่ดี โอกาสเกิดการขาดจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตพบได้น้อย เพราะแพทย์สามารถให้การรักษาควบคุมภาวะนี้ได้ดีเมื่อพบแพทย์แต่เนิ่นๆ
อนึ่ง ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถรักษา ควบคุม สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะขาดไบโอตินได้ ผู้ป่วยก็สามารถกลับมามีภาวะขาดไบโอตินซ้ำได้อีกเสมอ
ในส่วนผลข้างเคียงจากการขาดไบโอติน ก็คือ การเกิดภาวะทุพโภชนานั้นเอง
ดูแลตนเองอย่างไร?ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?
การดูแลตนเองเมื่อมีภาวะขาดไบโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน จะเช่นเดียวกับการดูแลตนเองในกรณีทุพโภชนาจากการขาดสารอาหารต่างๆ เช่น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล
- กินยาต่างๆที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วน ไม่ขาดยา ไม่หยุดยาเอง
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหาร
- กินอาหารที่มีไบโอตินสูงในทกมื้ออาหาร
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงที่รวมถึงการออกกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขสภาพสม่ำเสมอทุกวัน เพราภาวะทุโภชนาที่เกิดร่วมกับการขาดสารอาหารต่างๆที่รวมถึงไบโอติน จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ ร่างกายจึงติดเชื้อต่างๆได้ง่าย
- ดูแล รักษา ควบคุม โรค/ภาวะที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงฯ ดังกล่าวในหัวข้อ”สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงฯ”ให้ไดดี
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
- ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อ
- อาการต่างๆเลวลงทั้งที่ปฏิบัติตนและกินยาตามแพทย์สั่ง
- มีอาการผิดปกติที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น ชาตามปลายมือ ปลายเท้า บวม เท้า หรือ เนื้อตัวบวม หรือมีอาการชัก
- มีผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น วิงเวียนมาก ท้องผูกมาก
- เมื่อกังวลในอาการ
ป้องกันภาวะขาดไบโอตินอย่างไร?
การป้องกันภาวะขาดไบโอติน/ภาวะขาดไบโอทิน ได้แก่
ก. กรณีคนทั่วไป: การป้องกันคือ
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ในทุกๆวัน ในปริมาณที่เหมาะสมที่ไม่ก่อให้เกิด
โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน ถ้าเป็นไปได้ ควรเป็นทุกมื้ออาหาร
ข. กรณีมีโรคประจำตัว หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่จะขาดไบโอติน : การป้องกัน ได้แก่
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ควรทุกมื้ออาหาร
- ดูแล รักษา ควบคุม ภาวะ/โรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงฯ ดังกล่าวในหัวข้อ”ปัจจัยเสี่ยงฯ”ให้ไดดี
ค. กรณีมีพันธุกรรมที่ผิดปกติ การป้องกันภาวะขาดไบโอติน คือ
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลสม่ำเสมอตามแพทย์นัด
- ปฏิบัติตน และใช้ยาต่างๆตามคำแนะนำของแพทย์ ที่รวมถึงอาหารเสริมไบโอติน
บรรณานุกรม
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK56068/table/summarytables.t2/?report=objectonly [2020,Dec5]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Biotin [2020,Dec5]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Biotin_deficiency [2020,Dec5]
- https://emedicine.medscape.com/article/984803-overview#showall [2020,Dec5]
- https://ods.od.nih.gov/factsheets/Biotin-HealthProfessional/ [2020,Dec5]