ฟีนิลโพรพาโนลามีน (Phenylpropanolamine)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 20 เมษายน 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนอย่างไร?
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาฟีนิลโพรพาโนลามีนอย่างไร?
- ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคทางเดินหายใจ โรคระบบหายใจ โรคระบบทางเดินหายใจ (Respiratory tract disorder)
- โรคหูคอจมูก โรคทางหูคอจมูก โรคระบบหูคอจมูก (ENT disease)
- โรคหวัด (Common cold)
- ไซนัสอักเสบ โพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ (Sinusitis)
- ยาขับเสมหะ (Expectorants) และยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
- การตรวจทางหูคอจมูก การตรวจทางอีเอ็นที (Clinical examination of Ear Nose Throat or Clinical ENT examination)
บทนำ
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีน (Phenylpropanolamine) เป็นสารเคมีที่มีสูตรโครงสร้างหลัก เหมือนกับสาร Norephedrine (สารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่หลายอย่าง เช่น เกี่ยวข้องกับประสาทอัตโนมัติ) และสาร Nor pseudoephedrine (สารกระตุ้นให้สมองตื่นตัว/Stimulant ชนิดหนึ่ง) จึงทำให้มีคุณสมบัติออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทได้ด้วย
ในสหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกการใช้ยาตัวนี้จากท้องตลาด เพราะก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โดยเฉพาะในสตรีวัยรุ่น แต่ในแถบยุโรปยังมีจำหน่ายอยู่โดยจัดเป็นหมวดยาที่ช่วยบรรเทาอาการของหวัดและมีอาการไอร่วมด้วย
สำหรับในประเทศไทยเรายังมีจำหน่ายอยู่บ้างทั้งในรูปแบบ ยาเดี่ยว และยาผสมทั้งชนิดน้ำและชนิดเม็ด
หากศึกษาจากข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic, การศึกษาความเป็นไปของยาเมื่อยาเข้าสู่ร่างกาย) ของยาจะพบว่า ฟีนิลโพรพาโนลามีนถูกดูดซึมได้ดีจากระบบทางเดินอาหาร ใช้เวลาไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมงก็ทำให้ระดับยาในเลือดเพิ่มได้สูงสุด ตับจะคอยเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของยา และร่างกายคนต้องใช้เวลา 3 - 5 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยาออก ไปจากกระแสเลือด 50% โดยผ่านไปกับน้ำปัสสาวะเสียเป็นส่วนมาก ด้านหนึ่งของการออกฤทธิ์ของยานี้จะส่งผลถึงระบบการทำงานของหัวใจ รวมถึงยังมีผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบหลอดเลือด ดังนั้นการใช้ยาให้ปลอดภัยถูกต้องเหมาะสม จึงต้องขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้บรรเทารักษาอาการหวัด คัดจมูก
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ฟีนิลโพรพาโนลามีนเป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายกับสารสื่อประสาทในระบบประสาทอัตโนมัติ (Sympathomimetic) ลดการบวมและการหลั่งสารคัดหลั่งของเยื่อเมือก จึงทำให้การ คัดจมูกของผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาเม็ด ขนาดความแรง 25 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาเม็ด ชนิดผสมร่วมกับยาอื่นขนาด 12.5 และ 25 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาน้ำผสมร่วมกับยาชนิดอื่น ขนาด 5 และ 12.5 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีขนาดรับประทานเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูกน้ำมูกไหล เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทาน 25 มิลลิกรัมทุกๆ 4 ชั่วโมง
- เด็กอายุ 2 - 6 ปี: รับประทาน 6.25 มิลลิกรัมทุก 4 ชั่วโมง ขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 37.5 มิลลิกรัม/วัน
- เด็กอายุ 7 - 12 ปี: รับประทาน 12.5 มิลลิกรัมทุก 4 ชั่วโมง ขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 75 มิลลิกรัม/วัน
- เด็กอายุมากกว่า 12 ปี: รับประทาน 25 มิลลิกรัมทุกๆ 4 ชั่วโมง ขนาดรับประทานสูง สุดไม่เกิน 150 มิลลิกรัม/วัน
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี: ขนาดยาขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาฟีนิลโพรพาโนลามีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หาย ใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาฟีนิลโพรพาโนลามีนอาจส่ง ผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาฟีนิลโพรพาโนลามีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลา ใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้าง เคียง) เช่น
- อาจเกิดอาการชักในผู้ป่วยบางราย
- ประสาทหลอน
- หัวใจเต้นเร็ว
- วิงเวียน
- ง่วงนอน
- ปวดศีรษะ /ปวดหัว
- นอนไม่หลับ
- วิตกกังวล
- คลื่นไส้-อาเจียน
- และเหงื่อออกมาก เป็นต้น
มีข้อควรระวังการใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีน
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วย โรคต้อหิน โรคความดันโลหิตสูง โรคต่อมลูกหมากโต ภาวะลำไส้อุดตัน
- ห้ามใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์ด้วยส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์มารดา
- ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 3 - 5 วัน และควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 3 เดือน
- ระวังการใช้ยากับเด็ก รวมถึงผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยามดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาฟีนิลโพรพาโนลามีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนร่วมกับยาแก้ปวด เช่นยา Tamadol อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้ผู้ป่วยมีอาการชัก หากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนร่วมกับยาลดน้ำหนัก/ยาลดความอ้วน เช่นยา Phentermine อาจก่อให้เกิดผลต่อระบบการทำงานของหัวใจ เช่น มีอาการเจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็วมาก/หัวใจเต้นระรัว วิงเวียน เป็นลม ขา-เท้าบวม จากอาการข้างต้น จึงห้ามใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนร่วมกับยารักษาโรคพาร์กินสัน เช่นยา Selegiline สามารถทำให้ความดันโลหิตสูงมาก จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากต้องใช้ยาร่วมกัน ควรต้องหยุดการใช้ยา Selegiline อย่างน้อย 14 วัน
- การใช้ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนในผู้ป่วยโรคหัวใจ สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสูบฉีดโลหิตมากขึ้น และเพิ่มความต้องการออกซิเจนของร่างกายมากขึ้น อาจเกิดภาวะความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจขาดเลือดจนถึงขั้นตาย หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากับผู้ป่วยโรคหัวใจ
ควรเก็บรักษายาฟีนิลโพรพาโนลามีนอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาฟีนิลโพรพาโนลามีนชนิดรับประทาน เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิระหว่าง 20 - 25 องศาเซล เซียส (Celsius)
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- และไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาฟีนิลโพรพาโนลามีนที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Aorinyl (เอโอไรนิล) | Medicine Products |
Clinepect (คลิเนเพค) | Bangkok Lab & Cosmetic |
Phenylpropanolamine Pharmasant (ฟีนิลโพรพาโนลามีน ฟาร์มาซัน) | Pharmasant Lab |
T Man Cough Syrup (ทีแมนคัพไซรัป) | T. Man Pharma |
บรรณานุกรม
1 http://en.wikipedia.org/wiki/Phenylpropanolamine#Legal_status [2020,April18]
2 http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fthailand%2fdrug%2finfo%2fphenylpropanolamine%3fmtype%3dgeneric [2020,April18]
3 http://www.drugs.com/dosage/phenylpropanolamine.html [2020,April18]
4 http://www.drugs.com/sfx/phenylpropanolamine-side-effects.html [2020,April18]
5 http://druginfosys.com/Drug.aspx?drugCode=569&drugName=&type=4 [2020,April18]
6 http://druginfosys.com/Drug.aspx?drugCode=569&drugName=Phenylpropanolamine%20(HCl)&type=11 [2020,April18]
7 http://www.drugs.com/pregnancy/phenylpropanolamine.html [2020,April18]
8 http://dailymed.nlm.nih.gov/dailymed/lookup.cfm?setid=0b2249cb-ecf4-4be9-a6b2-0fe6ca2a7a36 [2020,April18]