ฟีนาโซไพริดีน (Phenazopyridine) หรือ ไพริเดียม (Pyridium)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ:คือยาอะไร?

ฟีนาโซไพริดีน (Phenazopyridine) คือ ยาที่เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ลดอาการปวดระคายเคืองในช่องทางเดินปัสสาวะเมื่อมีการอักเสบ หรือ หลังทำหัตถการ เช่น ผ่าตัดช่องทางเดินปัสสาวะ แพทย์มักใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อบรรเทาอาการปวดจากโรคระบบทางเดินปัสสาวะให้ทุเลาเบาบางอย่างรวดเร็ว

ตัวยาฟีนาโซไพริดีนไม่ได้รักษาอาการอักเสบหรืออาการบาดเจ็บของร่างกาย แต่บรรเทาอาการปวดเท่านั้น ยานี้มักจะใช้แต่เพียง 1 - 2 วันแรก เมื่ออาการดีขึ้น ผู้ป่วยก็ควรต้องหยุดใช้ยา ตลาดยาทั้งต่างประเทศและในประเทศมักจะคุ้นหูกับชื่อการค้าของยานี้ว่า ‘ไพริเดียม (Pyridium)’

สำหรับการศึกษาเรื่องการกระจายตัวและการขับเคลื่อนของยาในร่างกายพบว่า ฟีนาโซไพ ริดีนจะออกฤทธิ์ที่ท่อปัสสาวะโดยตรงและถูกขับออกทางปัสสาวะ

ฟีนาโซไพริดีนจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย มีข้อกำหนด ข้อควรระวัง และความเหมาะสมในการใช้ยาของคนไข้แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน การใช้ยานี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เท่านั้น

ยาฟีนาโซไพริดีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

ฟีนาโซไพริดีน

ยาฟีนาโซไพริดีนมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • ใช้รักษาและบรรเทาอาการปวดของ
    • โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
    • ต่อมลูกหมากอักเสบติดเชื้อ
    • ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรังชนิดไม่ติดเชื้อ
    • กรวยไตอักเสบ
    • และท่อปัสสาวะอักเสบ

ยาฟีนาโซไพริดีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ฟีนาโซไพริดีนจะออกฤทธิ์ยับยั้งอาการปวดโดยตรงที่บริเวณผนังของท่อปัสสาวะ ทำให้อาการปวดทุเลาและดีขึ้น

ยาฟีนาโซไพริดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาฟีนาโซไพริดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • รูปแบบยาเดี่ยว ชนิดเม็ด ขนาดความแรง 100 มิลลิกรัม/เม็ด
  • รูปแบบยาผสม ชนิดเม็ด ขนาดความแรง 50 มิลลิกรัม/เม็ด

ยาฟีนาโซไพริดีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาฟีนาโซไพริดีนมีขนาดรับประทาน เช่น

ก. ผู้ใหญ่: เช่น รับประทานครั้งละ 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง หากใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะ ระยะเวลาการใช้ยานี้ได้สูงสุดไม่ควรเกิน 2 วัน

ข. เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): เช่น รับประทาน 12 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน โดยแบ่งการรับประทานออกเป็น 3 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 2 วัน

อนึ่ง:

  • ควรรับประทานยานี้ร่วมกับอาหารหรือหลังอาหาร
  • ผู้ป่วยไม่ควรปรับขนาดรับประทานยานี้เอง ควรใช้ยานี้ตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาฟีนาโซไพริดีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยา หรืออาหารเสริมอะไรอยู่ เพราะยาฟีนาโซไพริดีน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆและ/หรืออาหารเสริมที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาฟีนาโซไพริดีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

ยาฟีนาโซไพริดีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาฟีนาโซไพริดีนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น

  • รู้สึกไม่สบายในช่องท้อง
  • ปวดหัว
  • มีผื่นคัน
  • เป็นพิษกับตับ/ ตับอักเสบ
  • เม็ดเลือดแดงแตกซึ่งจะตามมาด้วยอาการโรคซีด สังเกตได้จากสีปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสีน้ำปลา

มีข้อควรระวังการใช้ยาฟีนาโซไพริดีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาฟีนาโซไพริดีน เช่น

  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่แพ้ยาฟีนาโซไพริดีน
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วย โรคตับ โรคไต
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้เป็นระยะเวลานานเกินไป
  • ระวังการใช้ยานี้กับ หญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยด้วยโรค G6PD (ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี)
  • หยุดการใช้ยานี้ทันทีหากพบว่า ผิวหนังมีสีผิดปกติไป เช่น ซีด - ขาว หรือเทาคล้ำ
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาฟีนาโซไพริดีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ยาฟีนาโซไพริดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาฟีนาโซไพริดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาฟีนาโซไพริดีนร่วมกับยาที่ใช้รักษาพิษจากสารไซยาไนด์ (Cyanide) เช่นยาโซเดียมไนไทรต์ (Sodium nitrite) สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงลดความสามารถในการจับกับออกซิเจน (ภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือด/ Methemoglobinemia) ซึ่งจะทำให้ออกซิเจนในเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง อาจพบอาการที่พัฒนาต่อไปอีก เช่น ผิวหนังมีสีออกเทาคล้ำรวมไปถึงปากและโคนเล็บ คลื่นไส้ ปวดหัว วิงเวียน อ่อนเพลีย หายใจลำบาก ชีพจรเต้นเร็ว สับสน และวิตกกังวล จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาฟีนาโซไพริดีนร่วมกับยารักษาโรคมะเร็ง เช่นยา Methotrexate สามารถสร้างความเสียหายให้กับตับของผู้ป่วยได้ โดยสังเกตจากอาการมี ไข้ หนาวสั่น ปวดบวมตามข้อกระดูก มีผื่นคัน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดท้อง ปัสสาวะมีสีคล้ำ/สีน้ำปลา หรือสีเหลืองเข็ม ตาและผิวหนังมีสีเหลืองขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษายาฟีนาโซไพริดีนอย่างไร?

สามารถเก็บยาฟีนาโซไพริดีน เช่น

  • เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง
  • เก็บยาให้พ้นแสง/แสงแดด และความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • และไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ

ยาฟีนาโซไพริดีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาฟีนาโซไพริดีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Anazo (เอนาโซ) Medicine Products
Phenazopyridine T Man (ฟีนาโซไพริดีน ทีแมน) T. Man Pharma
Phendiridine (เฟนดิริดีน) T P Drug
Pyrizole (ไพริโซล) BJ Benjaosoth
Sumedium (ซูมิเดียม) Milano
Uzone-T (ยูโซน-ที) Utopian

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Phenazopyridine [2021,Oct2]
  2. https://www.mims.com/malaysia/drug/info/phenazopyridine?mtype=generic [2021,Oct2]
  3. https://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=phenazopyridine [2021,Oct2]
  4. https://www.drugs.com/mtm/phenazopyridine.html[2021,Oct2]
  5. https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a682231.html#storage-conditions [2021,Oct2]