ฟันเสียชีวิต (ตอนที่ 2 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 31 สิงหาคม 2563
- Tweet
ฟันปกติจะมีสีโทนขาวขึ้นกับอาหารและการดูแลฟัน เช่น การดื่มกาแฟ การสูบบุหรี่ ซึ่งจะมีสีโทนเดียวกันทั้งปาก ส่วนฟันที่กำลังตายจะมีสีที่แตกต่างไปจากฟันซี่อื่น เช่น มีสีเหลือง น้ำตาลอ่อน เทา ดำ หรือ มีลักษณะฟันช้ำ สีคล้ำ (Discoloration) ยิ่งขึ้นเมื่อฟันผุและเส้นประสาทตาย
นอกจากนี้ อาการติดเชื้อ เป็นหนองกดเยื่อหุ้มรากฟัน (Periodontal membrane) จะทำให้มีอาการปวดมาก ซึ่งอาการติดเชื้ออาจมีลักษณะดังนี้
- ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
- การรับรู้รสแย่
- เหงือกบวม
- มีปุ่ม (Pimple) ที่เหงือก
ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากการเห็นและเอ็กซเรย์ฟัน ซึ่งกรณีที่ฟันตายแม้จะไม่มีอาการปวด ควรรีบรักษาให้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ เชื้อแบคทีเรียจากฟันที่ตายอาจแพร่กระจายไปยังฟันซี่อื่นซึ่งรวมถึงกรามและเหงือก
สำหรับการรักษาฟันตายทันตแพทย์อาจรักษาด้วย
- การรักษารากฟัน (Root canal) และตามด้วยการครอบฟัน (บางกรณี)
- การถอนฟัน (Removal) กรณีที่ฟันเสียมากและไม่สามารถรักษาได้
ทั้งนี้ ระหว่างรอการรักษาและมีอาการปวดฟันมาก สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มร้อน ที่จะทำให้เกิดการอักเสบและปวดมากขึ้น
- กินยาแก้อักเสบ
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารแข็ง
สำหรับการป้องกันฟันตายมีวิธีดังนี้
- รักษาสุขภาพช่องปากด้วยการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และขัดฟันอย่างน้อย 1 ครั้ง
- พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟัน กรณีที่พบปัญหาจะได้ทำการรักษาแต่เนิ่นๆ เช่น รักษาฟันผุก่อนที่จะลามไปถึงประสาทในฟัน
- ใส่ฟันยาง (Mouth guard) เพื่อป้องกันการกระแทกฟัน กรณีที่ต้องเล่นกีฬาที่อาจถูกแรงกระแทก เช่น ต่อยมวย ฮอกกี้ หรือ กรณีที่นอนกัดฟัน
- กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารหวานที่เพิ่มความเสี่ยงของฟันผุ
- ดื่มน้ำ โดยเฉพาะหลังอาหาร เพื่อล้างเชื้อแบคทีเรียจากฟัน
แหล่งข้อมูล:
- Identifying and Treating a Dead Tooth. https://www.healthline.com/health/dental-and-oral-health/dead-tooth [2020, August 30].
- Everything you need to know about a dead tooth. https://www.medicalnewstoday.com/articles/319062#causes [2020, August 30].