ฟอซาเพรบพิแทนท์ (Fosaprepitant)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์(Fosaprepitant หรือ Fosaprepitant dimeglumine) เป็นยาที่ใช้ ป้องกัน อาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการได้รับยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง แต่ไม่สามารถบำบัดผู้ป่วยที่กำลังเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนอยู่ก่อนแล้ว ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ยังไม่ใช่ตัวยาที่ออกฤทธิ์ได้ทันทีแต่อยู่ในรูปของสารตั้งต้น (Prodrug) โดยยาฟอซาเพรบพิแทนท์จะถูกเปลี่ยนโครงสร้างเคมีไปเป็นตัวยา อะเพรบพิแทนท์ (Aprepitant) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ได้ในร่างกาย

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ มีรูปแบบเภสัชภัณฑ์เป็นยาฉีดที่ต้องหยดเข้าหลอดเลือดดำ ตัวยาที่อยู่ในกระแสเลือดจะแทรกซึมไปตามเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์พบว่า ยาฟอซาเพรบพิแทนท์จะถูกเปลี่ยนไปเป็นยาอะเพรบพิแทนท์ ที่บริเวณ ไต ปอด และลำไส้เล็กส่วนปลาย โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีหลังจากเข้าสู่กระแสเลือด และร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 9–13 ชั่วโมงเพื่อกำจัดตัวยานี้ในรูปของยาอะเพรบพิแทนท์ออกจากกระแสเลือด ซึ่งจะถูกขับทิ้งไปกับปัสสาวะและอุจจาระ

ข้อจำกัดของการใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์บางประการที่ผู้บริโภคควรทราบ ได้แก่

  • แพทย์จะไม่ใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยา ฟอซาเพรบพิแทนท์ หรือยาอะเพรบพิแทนท์ มาก่อน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ร่วมกับ ยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานเอนไซม์ CYP3A4ในตับ (ยากลุ่ม CYP3A4 inhibitors, Cytochrome P450 3A4 inhibitor) อย่างเช่นยา Aripiprazole ซึ่งการใช้ยาร่วมกัน จะทำให้ระดับยา Aripiprazole ในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นจนก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)รุนแรงต่อร่างกาย หรือการใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิดจะทำให้ระดับ ของยาเม็ดคุมกำเนิด อย่าง Progestins ในกระแสเลือดลดต่ำลงจนไม่สามารถ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ผู้ป่วยจึงควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาว่า ตนเองมียาอะไรที่ใช้เป็นประจำอยู่ก่อน
  • การใช้ยานี้จะต้องให้กับผู้ป่วยก่อนเข้ารับการทำเคมีบำบัดประมาณ 30 นาที
  • เพื่อประสิทธิผลในการป้องกันอาการ คลื่นไส้-อาเจียน แพทย์อาจสั่งจ่ายยากลุ่ม 5-HT3 antagonist ร่วมกับ ยา Dexamethasone ให้กับผู้ป่วยร่วมด้วย
  • ตัวยาฟอซาเพรบพิแทนท์ อาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงกับผู้ป่วยได้หลาย ประการ เช่น ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ท้องเสียหรือไม่ก็ท้องผูก อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ กรณีนี้ผู้ป่วยควรขอคำปรึกษาจาก แพทย์ พยาบาล เพื่อการบำบัดรักษาเพื่อบรรเทาอาการข้างเคียงดังกล่าว

ในประเทศไทยตัวยาฟอซาเพรบพิแทนท์ ถูกจัดอยู่ในประเภทยาควบคุมพิเศษ เราจะพบเห็นการใช้ยานี้ในสถานพยาบาลเท่านั้น และหากผู้ป่วยต้องการทราบข้อมูลการใช้ยาชนิดนี้เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากแพทย์ที่ดูแลรักษาอาการป่วยหรือสอบถามได้จากเภสัชกรในสถานพยาบาลนั้นๆ

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

ฟอซาเพรบพิแทนท์

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ ป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน จากการทำเคมีบำบัด/ได้รับยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ตัวยาฟอซาเพรบพิแทนท์มีกลไกการออกฤทธิ์คือ เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จะถูกร่างกายเปลี่ยนไปเป็นสารออกฤทธิ์/ยาในกลุ่ม Neurokinin 1 antagonist ที่มีชื่อว่า ยา Aprepitant ซึ่งมีกลไกป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ตามสรรพคุณ

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เป็น

  • ยาฉีดชนิดผงปราศจากเชื้อ ที่ประกอบด้วย Fosaprepitant 150 มิลลิกรัม/ขวด

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์มีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น

  • ผู้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่ 18ปีขึ้นไป: หยดยา 150 มิลลิกรัม เข้าหลอดเลือดดำโดยใช้ระยะเวลาในการให้ยา ประมาณ 20–30 นาที เป็นอย่างต่ำ และแพทย์จะให้ยาประเภท Corticosteroids เช่น Dexamethasone ร่วมกับยาในกลุ่ม 5-HT3 antagonist เพื่อเสริมฤทธิ์การป้องกันอาการคลื่นไส้-อาเจียนร่วมด้วย
  • เด็ก/ผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

อนึ่ง:

  • ต้องให้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์กับผู้ป่วยเป็นเวลาประมาณ 30 นาที ก่อนเข้ารับ การทำเคมีบำบัด
  • การเตรียมยาฟอซาเพรบพิแทนท์สำหรับหยดเข้าหลอดเลือดดำ ต้องเจือจางยาและละลายผงยาด้วยสารละลาย Sodium chloride 0.9% เป็นปริมาณ 5 มิลลิลิตร
  • ห้ามใช้ยาที่มีสิ่งปนเปื้อนที่ไม่ใช่ส่วนประกอบในสูตรตำรับ
  • ขนาดการใช้ยา Dexamethasone และ 5-HT3 antagonist เพื่อช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการทำเคมีบำบัดร่วมกับยาฟอซาเพรบพิแทนท์ขึ้นอยู่กับสภาพ ร่างกายของผู้ป่วย กรณีผู้ป่วยมีประวัติ คลื่นไส้อาเจียนหลังทำเคมีบำบัดที่อาการ รุนแรงในระดับปานกลาง อาจใช้ยา Dexamethasone และ 5-HT3 antagonist เพียงวันแรกก็เพียงพอแล้ว แต่กรณีที่มีอาการคลื่นไส้-อาเจียนรุนแรงมาก อาจจะต้องใช้ยา 5-HT3 antagonist ในวันแรกที่ทำเคมีบำบัด และใช้ Dexamethasone เป็นเวลา 4 วันต่อเนื่อง

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่เท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาฟอซาเพรบพิแทนท์ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้บาอะไรอยู่ เพราะยาฟอซาเพรบพิแทนท์อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกิดภาวะโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่ำ
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสีย เบื่ออาหาร ท้องผูก ปวดท้อง กรดไหลย้อน อาเจียน คลื่นไส้ ปากแห้ง ท้องอืด สะอึก
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น วิงเวียน ง่วงนอน ปวดศีรษะ
  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น หัวใจเต้นช้า ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ ชีพจรเต้นผิดปกติ บวมตามร่างกาย
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดสิว ผื่นแดง คัน ผิวแพ้แสงแดดได้ง่าย ผื่นผิวหนังอักเสบ
  • ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก/ปัสสาวะขัด
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อหดเกร็งตัว/เป็นตะคริว
  • ผลต่อตา: เช่น เยื่อตาอักเสบ
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น วิตกกังวล นอนไม่หลับ เคลิบเคลิ้ม
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น ไอ จาม ระคายคอ
  • ผลต่อตับ: เช่น ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
  • ผลต่อการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น ทำให้เบื่ออาหาร

มีข้อควรระวังการใช้ฟอซาเพรบพิแทนท์อย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ร่วมกับยาต่อไปนี้ เช่นยา Pimozide, Terfenadine, Astemizole, และCisapride
  • ห้ามใช้ยานี้กับเด็ก/ผูที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ห้ามใช้ยานี้เป็นยา รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ชนิดเรื้อรัง
  • การใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร จะต้องมีคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
  • การใช้ยานี้ควรใช้เพียงระยะสั้นๆ และไม่ใช้รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนแบบ ทั่วไป ใช้เฉพาะการป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัดเท่านั้น
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาฟอซาเพรบพิแทนท์ด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ร่วมกับยา Hydrocodone อาจทำให้ระดับยา Hydrocodone ในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงรุนแรงตามมาจากยา Hydrocodone เช่น วิงเวียน ง่วงนอน ขาดสมาธิ ความดันโลหิตต่ำ มีภาวะกดการหายใจ เป็นลมไปจนถึงขั้นโคม่า หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ร่วมกับยา Fentanyl อาจทำให้ระดับยา Fentanyl ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นจนอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงรุนแรงติดตามมาจากยาFentanyl เช่น รู้สึกสับสน เป็นลม วิงเวียน ง่วงนอน หัวใจเต้นช้า เพื่อป้องกันอาการดังกล่าวเมื่อใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
  • การใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ร่วมกับยา Warfarin อาจทำให้ประสิทธิภาพของยา Warfarin ด้อยลงไปจนทำให้เกิดอาการ เจ็บหน้าอก ตาพร่า ปวดตามร่างกาย บวมตามแขน-ขา ซึ่งเหล่านี้เป็นอาการของหลอดเลือดอุดตันจากการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์ปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีบุคคลไป
  • การใช้ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ร่วมกับยา Lidocaine อาจทำให้ระดับยา Lidocaine ในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงรุนแรงของยา Lidocaine ติดตามมา หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป

ควรเก็บรักษาฟอซาเพรบพิแทนท์อย่างไร?

ควรเก็บยาฟอซาเพรบพิแทนท์ตามเงื่อนไขที่ระบุในเอกสารกำกับยา เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น

ฟอซาเพรบพิแทนท์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาฟอซาเพรบพิแทนท์ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Ivemend (ไอวีเมนด์)MSD

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Emend

บรรณานุกรม

  1. https://www.drugs.com/ppa/fosaprepitant.html[2017,May6]
  2. http://test-wp.geniesolutions.com.au/downloads//common/products/MIMS_Annual/HTML/07792.html[2017,May6]
  3. http://www.mims.com/thailand/drug/info/ivemend/?type=brief[2017,May6]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/fosaprepitant-index.html?filter=3&generic_only=[2017,May6]