พามาบรอม (Pamabrom)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 7 กันยายน 2558
- Tweet
- บทนำ
- พามาบรอมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- พามาบรอมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- พามาบรอมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- พามาบรอมมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- พามาบรอมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้พามาบรอมอย่างไร?
- พามาบรอมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาพามาบรอมอย่างไร?
- พามาบรอมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาขับปัสสาวะ (Diuretics Drugs)
- โรคไต (Kidney disease)
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
บทนำ
ยาพามาบรอม (Pamabrom) เป็นยาขับปัสสาวะถูกนำมาใช้บำบัดรักษาอาการบวมน้ำหรือภาวะที่มีน้ำคั่งอยู่ในร่างกายมากเกินปกติ ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะปัสสาวะไม่ออก/ปัสสาวะขัด หรือผู้ที่แพ้ยานี้ และห้ามใช้กับผู้ป่วยเด็ก นอกจากนี้ยังมีข้อพึงระวังการใช้พามาบรอมกับผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น การรับประทานยานี้ไม่ควรเกิน 4 ครั้งต่อวันด้วยจะทำให้การขับปัสสาวะมีความถี่มากก่อให้เกิดความรำคาญ ผู้ป่วยควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอ 6 - 8 แก้วต่อวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำในระหว่างที่ใช้ยานี้
ผลข้างเคียงที่โดดเด่นของยานี้จะเป็นเรื่องปัสสาวะมีสีเหลืองเพียงเท่านั้น ปกติแพทย์หรือเภสัชกรจะแจ้งให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้าเพื่อมิให้ผู้ป่วยมีความกังวลใจจนเกินไป และกรณีใช้ยานี้แล้วแพ้ยานี้เช่น มีอาการอึดอัด/หายใจลำบาก ผื่นขึ้นเต็มตัว ตัวบวม มีไข้ ต้องหยุดใช้ยานี้ทันทีแล้วรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็วทันที/ฉุกเฉิน สำหรับประเทศไทยอาจพบเห็นการใช้ยานี้ในบางสถานพยาบาลเท่านั้น
พามาบรอมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาพามาบรอมมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อบรรเทาอาการบวม (Swelling) ของร่างกาย
พามาบรอมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาพามาบรอมมีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะเร่งการขับปัสสาวะ/ขับน้ำของไต จึงส่งผลทำให้อาการบวมที่มีสาเหตุจากการสะสมน้ำตามเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายลดลง
พามาบรอมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาพามาบรอมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเช่น
ก. ยาเม็ดชนิดรับประทานขนาด 50 มิลลิกรัม/เม็ด
ข. ยาเม็ดชนิดรับประทานที่ผสมร่วมกับยาอื่นเช่น
- Pamabrom 25 มิลลิกรัม + Dicyclomine hydrochloride 10 มิลลิกรัม + Paracetamol 325 มิลลิกรัม/เม็ด
- Pamabrom 25 มิลลิกรัม + Acetaminophen 325 มิลลิกรัม/เม็ด
พามาบรอมมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาพามาบรอมมีขนาดรับประทานเช่น
- ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: รับประทานเริ่มต้น 50 มิลลิกรัมหลังอาหารเช้า จากนั้นให้รับ ประทาน 50 มิลลิกรัมทุก 6 ชั่วโมง หรือรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ ห้ามรับประทานยาเกิน 4 ครั้ง/วัน
*อนึ่ง: ขณะรับประทานยานี้ควรดื่มน้ำ 6 - 8 แก้วต่อวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำของร่างกาย และช่วยมิให้ไตทำงานหนักเกินไป
- เด็กและผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี: เนื่องจากอาจเกิดการใช้ยาเกินขนาดได้สูงในบุคคลกลุ่มนี้ การใช้ยานี้ในคนกลุ่มนี้จึงอาจใช้เฉพาะกรณีอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
*****หมายเหตุ:
- ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาพามาบรอม ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆเช่น โรคไต โรคตับ รวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาพามาบรอม อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาพามาบรอมสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
พามาบรอมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาพามาบรอมสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ได้ดังนี้ เช่น ทำให้ปัสสาวะมีสีเหลือง
*กรณีที่พบอาการแพ้ยานี้ อาการที่พบได้เช่น มีผื่นคัน อึดอัด/หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก ใบหน้า-ปาก-ลิ้นหรือคอบวม ต้องหยุดใช้ยานี้ทันทีแล้วรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
มีข้อควรระวังการใช้พามาบรอมอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้พามาบรอมเช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยากับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
- ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง:
ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาพามาบรอมด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
พามาบรอมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาพามาบรอมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นเช่น
การใช้ยาพามาบรอมร่วมกับยาลดความดันโลหิตเช่น Enarapril, Quinapril, Fosinopril, Ramipril หรือยารักษาความดันในหลอดเลือดปอดสูง Fenodopam จะส่งผลให้เกิดความดันโลหิตต่ำติดตามมา กรณีที่ต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
ควรเก็บรักษาพามาบรอมอย่างไร?
สามารถเก็บยาพามาบรอมภายใต้อุณหภูมิห้องที่เย็น ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็ง ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
พามาบรอมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาพามาบรอมที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าและบริษัทผู้ผลิตเช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Diurex max (ไดยูเร็กซ์ แม็กซ์) | ALVA-AMCO Pharmacal com.lnc |
MENSODOL (เมนโซดอล) | Anthus |
Pamaspas (พามาสแปส) | Pharmed |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Pamabrom [2015,Aug22]
- http://www.drugs.com/sfx/pamabrom-side-effects.html [2015,Aug22]
- http://www.mims.com/India/drug/info/PAMASPAS/PAMASPAS%20tab [2015,Aug22]
- http://www.drugs.com/otc/102238/diurex-max.html [2015,Aug22]
- http://www.everydayhealth.com/drugs/diurex-water-capsules [2015,Aug22]
- http://www.drugs.com/drug-interactions/accupril-with-pamabrom-1980-1277-1784-0.html [2015,Aug22]
- http://www.drugs.com/cdi/acetaminophen-and-pamabrom.html [2015,Aug22]