ผื่นภูมิแพ้ (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 20 สิงหาคม 2563
- Tweet
โดยมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผิวหนังอักเสบ เช่น
- อายุ
- อาชีพ
- สภาพแวดล้อม
- ประวัติครอบครัว
- สภาพร่างกาย
- หอบหืด
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคผิวหนังอักเสบได้ดังนี้
- การตรวจร่างกาย
- สอบประวัติสุขภาพ
- การทดสอบบนผิวหนัง (Skin patch test)
- การตัดชิ้นเนื้อจากผิวหนังไปตรวจ (Skin biopsy)
ซึ่งการรักษา แพทย์อาจแนะนำให้
- ใช้ยาลดอาการแพ้และคัน เช่น ยาต้านฮีสทามีนอย่าง Diphenhydramine
- การรักษาโดยการส่องไฟ (Phototherapy)
- การทาครีมสเตียรอยด์เพื่อลดอาการคันและอักเสบ เช่น Hydrocortisone
- การทาครีมหรือโลชั่นสำหรับผิวแห้ง
- การแช่ตัว (Oatmeal baths) เพื่อลดอาการคัน
สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดผิวหนังอักเสบก็คือ การป้องกันตัวเองจากสิ่งที่ทำให้แพ้เป็นผื่น เช่น สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวกายกรณีที่ต้องทำงานที่เกี่ยวกับสารเคมีหรือสารที่ทำให้ระคายเคือง ส่วนกรณีที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม สิ่งที่ทำได้คือ การไม่ให้เกิดการประทุกระจาย (Flare-ups) ด้วยการ
- ไม่เกาบริเวณที่เป็น เพราะอาจทำให้เป็นแผลติดเชื้อ
- ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งด้วยการใช้สบู่อ่อน ทาโลชั่นให้ผิวชุ่มชื้น
- ใส่เสื้อผ้าฝ้ายสบายเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าขนสัตว์ (Wool)
- ลดความเครียด
แหล่งข้อมูล:
- What Is Dermatitis? https://www.healthline.com/health/dermatitis [2020, August 19].
- Dermatitis. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dermatitis-eczema/symptoms-causes/syc-20352380[2020, August 19].
- Dermatitis. https://dermnetnz.org/topics/dermatitis/ [2020, August 19].