ประเภทอาหารทางการแพทย์ (Type of diet in hospital)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 21 ธันวาคม 2562
- Tweet
- อาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ (Healthy diet)
- อาหารในโรคตับแข็ง (Diet and liver cirrhosis)
- อาหารกับโรคตับอักเสบ (Diet for Hepatitis)
- อาหารในโรคตับ (Liver disease diet)
- อาหารในช่วงให้นมบุตร
- อาหารช่วงตั้งครรภ์ โภชนาการช่วงตั้งครรภ์ (Pregnancy and Diet)
- อาหารสำหรับคนท้องผูก (Foods for constipation)
ประเภทอาหารทางการแพทย์ (Type of diet in hospital) เป็นประเภทอาหารในโรคที่ต้องมีการแนะนำอาหาร, แพทย์ พยาบาล โภชนากร จึงแนะนำอาหารเป็นประเภทอาหารต่างๆ เช่น อาหารอ่อน, อาหารย่อยง่าย, อาหารรสจืด, หรือหลีกเลี่ยงอาหารท้องเสีย/เสาะท้อง, ดังนั้นผู้ป่วยหรือผู้ดูแลผู้ป่วยจึงควรเข้าใจชนิดของประเภทอาหารทางการแพทย์ เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำได้ถูกต้อง ซึ่งอาหารทางการแพทย์เหล่านี้คือ อาหารประเภทต่างๆที่แพทย์ พยาบาล โภชนากรแนะนำสำหรับผู้ป่วยนั่นเอง ซึ่งมีความหมายดังนี้
- อาหารปกติ: ได้แก่ อาหารที่กินเป็นประจำทุกวัน อาจเป็นข้าวสวย ข้าวต้ม แกงเผ็ด ผัดผักต่างๆ เป็นต้น และควรเป็นอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่
- อาหารอ่อน: ได้แก่
- อาหารที่ย่อยง่าย อ่อนนุ่ม มีน้ำมากกว่าปกติ และมีรสจืด เช่น ข้าวต้มหมูสับรสจืด ข้าวสวยหุงเปียก แกงจืดผักต้มเปื่อย แกงจืดหมูสับเต้าหู้
- ไข่ปรุงสุกยกเว้นไข่ดาว, ไข่ตุ๋น
- เนื้อปลา
- เนื้อสัตว์ต้องต้มเปื่อย
- ผักต้องต้มเปื่อยและเป็นชนิดใยอาหารต่ำ เช่น ผักกาดขาวต้ม แกงจืดผักกาดขาว
- ผลไม้ต้องเป็นผลไม้สุกงอม
- ขนมต้องเป็นขนมที่ย่อยง่ายเช่นกัน เช่น ข้าวเหนียวเปียก ขนมเปียกปูน ขนมเค้ก และ
- อาหารทุกชนิดควรเป็นอาหารมีประโยชน์ครบห้าหมู่
- อาหารเหลว/อาหารน้ำ: เป็นอาหารที่มีลักษณะเหลวเป็นน้ำ รสจืด มีคุณค่าอาหารน้อยกว่า 2 ชนิดแรกดังกล่าวมาก เช่น น้ำซุปต่างๆ น้ำแกงจืด หรือน้ำข้าว มักเป็นอาหารที่แพทย์แนะนำเมื่อ
- หลังเพิ่งหยุดท้องเสีย
- 1-3 วันหลังผ่าตัดลำไส้
- ในช่วงฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะลำคอและเจ็บปากเจ็บคอมาก
- ช่วงได้ยาเคมีบำบัดแล้วมีอาเจียนมาก
- อาหารเสาะท้อง: ได้แก่ อาหารที่กินแล้วท้องเสียได้ง่าย เช่น ส้ม ส้มตำ หรือนมสำหรับคนที่ดื่มแล้วทำให้ท้องเสีย อาหารกลุ่มนี้ มักมี
- รสจัด
- รสเปรี้ยว
- ใยอาหารสูง
- อาหารป้องกัน/ลดอาการท้องเสีย: ได้แก่
- อาหารอ่อน
- อาหารเหลว/อาหารน้ำ
- อาหารช่วยลดอาการท้องผูก: ได้แก่
- อาหารกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ ทั้งชนิดดิบและชนิดสุก
- อาหารย่อยง่าย: ได้แก่ อาหารอ่อน ซึ่งรวมทั้งไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ยกเว้นไข่ดาว
- อาหารย่อยยาก: ได้แก่ อาหารใยอาหารสูง คือ ผักและผลไม้ดิบ นอกจากนั้นคือ เนื้อสัตว์ต่างๆ รวมทั้งอาหารทะเลยกเว้นปลา
- อาหารใยอาหารสูง: ได้แก่ อาหารกลุ่มเดียวกับอาหารย่อยยาก
- อาหารเค็ม: ได้แก่ อาหารที่มีเกลือแกง/เกลือทะเลสูง เช่น น้ำปลา ซีอิ้ว อาหารเค็มจัด มันฝรั่งทอดคลุกเกลือ และขนมขบเคี้ยวต่างๆ
- อาหารหวาน: ได้แก่ อาหารที่มีน้ำตาลสูงให้รสหวานจัด เช่น ขนมต่างๆ ผลไม้รสหวานจัด เช่น เงาะ ลำไย
- อาหารรสจืด: ได้แก่ อาหารที่ ไม่เผ็ด ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว ไม่เค็ม
- อาหารรสจัด: คือ อาหารที่มีรสจัด อาจทั้ง เค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ด หรือ รสจัดเพียงรสใดรสหนึ่ง
- อาหารโปรตีนสูง อาหารโปรตีนต่ำ:
- อาหารโปรตีนสูงคือ เนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมทั้ง ปลา อาหารทะเล ไข่ และตับ
- อาหารโปรตีนต่ำคือ จำกัดอาหารที่มีโปรตีนสูง กินโปรตีนจากพืชแทนเป็นส่วนใหญ่
- อาหารคาร์โบไฮเดรตสูง อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ:
- อาหารคาร์โบไฮเดรตสูงคือ อา หารแป้งสูง หรือ อาหารหวาน ตรงข้ามกับ
- อาหารแป้งต่ำคือ กินแป้ง หรือหวานให้น้อยลง หรือ จำกัดการกินแป้งรวมทั้งกินของหวาน กินข้าวเพียงมื้อละ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ
- อาหารไขมันสูง อาหารไขมันต่ำ:
- อาหารไขมันสูงคือ มีไขมันสัตว์มาก หรือปรุงด้วยการทอด หรือผัดน้ำมัน
- ส่วนอาหารไขมันต่ำคือ อาหารต้ม ปิ้ง ย่าง หลีกเลี่ยงการกินไขมัน เขี่ยไขมันทิ้ง หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารผัดน้ำมัน และหลีกเลี่ยงไขมันสัตว์ แต่เมื่อจำเป็นควรใช้ไขมันพืชแทน
- อาหารตามแต่ละประเภท/ชนิดของโรค ซึ่ง แพทย์ และโภชนากร จะให้คำแนะนำเป็นแต่ละโรค/ผู้ป่วย เช่น
- อาหารสำหรับผู้ป่วยผ่าตัดโรคหัวใจ
- อาหารผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
- อาหารผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดยังไม่ได้