นโยบายด้านสุขภาพ ตอน ชีวิตหมอน่าสงสาร
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 5 กุมภาพันธ์ 2564
- Tweet
หมอมีหน้าที่รักษาผู้ป่วยให้หายจากความเจ็บป่วย เจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน ซึ่งบางครั้งต้องให้การดูแลญาติผู้ป่วยด้วย บางครั้งญาติอาจมีความทุกข์มากกว่าผู้ป่วย แต่ด้วยภาระงานของหมอที่มีมากเกินมากๆ จนอาจทำให้หมอนั้นเกิดปัญหาความไม่เข้าใจกับผู้ป่วย และญาติ เนื่องจากแพทย์รู้สึกเหนื่อยมากกับงาน และอาจไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วยและญาติ เนื่องมาจากความเคยชินกับปัญหาด้านสุขภาพ และเหตุการณ์ที่พบอยู่เป็นประจำ ดังเหตุการณ์ต่อไปนี้
“พี่พยาบาลครับ ผมขอยาแก้หวัดกับยาลดไข้ทานหน่อยครับ” หมอหนุ่มฝึกหัดปีที่ 1 พูดกับพี่พยาบาลประจำห้องตรวจ แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน เพื่อขอยาแก้ไข้หวัดทาน เนื่องจากเมื่อคืนเป็นไข้หวัด แต่ต้องอยู่เวร ก็ต้องมาขึ้นเวร ซึ่งต้องตรวจคนไข้ตลอดเวลา ไม่ได้พัก แล้วอาการไข้ขึ้นสูงกับน้ำมูกที่ไหลตลอดเวลาก็เป็นมากขึ้นช่วงเช้าก่อนลงเวร จึงได้พูดประโยคดังกล่าว โดยหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากพยาบาล เพราะเข้าใจว่าพยาบาลน่าจะหายาจากสต็อคที่เก็บยาไว้บ้าง แล้วจะค่อยเบิกยาภายหลัง เพราะตอนนี้เหนื่อยมากจริงๆ
“คุณหมอ พี่ช่วยหมอไม่ได้ ไม่มียาเลย คุณหมอต้องไปเปิดบัตรทำตามขั้นตอนที่คนไข้รายใหม่มาตรวจนะค่ะ” ก็คงต้องเป็นอย่างงั้นจริงๆ เพราะเดี๋ยวนี้ทางโรงพยาบาลจะไม่มีการสต็อคยาไว้เลย ถ้าไม่ใช่ยาเร่งด่วน แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คุณหมอฝึกหัดท่านนี้ก็พูดกับพยาบาลท่านนั้นด้วยอารมณ์ที่โกรธอย่างมากว่า “คุณจำไว้เลยนะ แค่นี้ก็ไม่ช่วยผม วันหลังอย่ามาให้ผมสั่งยา หรือมารักษากับผมนะ จำไว้”
ท่านคงคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรตามมา คุณหมอท่านนี้ก็ถูกร้องเรียนในด้านพฤติกรรมการให้บริการที่ไม่เหมาะสม ผมในฐานะผู้ดูแลแพทย์ฝึกหัด จึงได้เชิญคุณหมอมาพูดคุย จึงได้ความว่า คุณหมอนั้นเหนื่อยมากจริงๆ เพราะเป็นไข้หวัด แต่ก็ต้องมาอยู่เวร เพราะไม่ได้แลกเวร คาดว่าน่าจะอยู่เวรได้ ถ้าได้นอนบ้าง แต่พอดีคืนนั้น ผู้ป่วยก็เยอะมาก ไม่ได้นอนเลย ตอนเช้าแทบจะเป็นลม จึงพูดกับพยาบาลตามที่เล่ามาข้างต้น เพราะคิดว่าพยาบาลน่าจะพอมียาเก็บไว้บ้าง และไม่เคยรู้มาก่อนว่าโรงพยาบาลไม่มีการสต็อคยาไว้เลย เห็นว่าเป็นยาสามัญพื้นๆ ด้วยอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยมาก ง่วงนอน ทำให้เกิดอารมณ์โกรธขึ้นมาทันที ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้ จึงพูดไม่ดีออกไปแบบนั้น
คุณหมอก็ได้ไปขอโทษขอโพยกับพี่พยาบาล ซึ่งทางพี่พยาบาลก็ไม่ถือโกรธอะไร เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นดี เพียงแต่อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนสติคุณหมอไว้ว่า ต้องรู้จักการควบคุมอารมณ์ มิฉะนั้นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ โชคดีที่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนในองค์กรเดียวกัน ถ้าเกิดกับผู้ป่วยหรือญาติ ก็คงเป็นเรื่องใหญ่ๆ แน่นอน