ทีโอฟิลลีน (Theophylline)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ทีโอฟิลลีน เป็นสารที่สกัดได้จากใบชา ถูกค้นพบโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมันในปี ค.ศ.1888 (พ.ศ. 2431) จากนั้นมีการนำมาพัฒนาโดยมนุษย์สังเคราะห์ขึ้นภายใน ปีค.ศ.1900 (พ.ศ. 2443) ในครั้งแรกทีโอฟิลลีนถูกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ จากนั้นก็นำมาใช้รักษาโรคหืด ด้วยมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกและปอดคลายตัว ส่งผลให้ภาวะหลอดลมเกร็งตัวทุ เลาเบาบางลง

หลังจากร่างกายได้รับยาทีโอฟิลลีน ยาจะถูกส่งไปเปลี่ยนโครงสร้างที่อวัยวะตับ และ50% ของระดับยาในร่างกายจะถูกกำจัดออกโดยทางปัสสาวะภายในเวลา 5-8 ชั่วโมง

ในต่างประเทศสามารถพบรูปแบบของการจัดจำหน่ายยานี้ ทั้งชนิดรับประทาน ชนิดฉีด และชนิดเหน็บทวาร

ทีโอฟิลลีน จัดอยู่ในหมวดยาอันตราย การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ผู้ทำการรักษาเท่านั้น ไม่สมควรซื้อยามาใช้เอง

ยาทีโอฟิลลีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

ทีโอฟิลลีน

ยาทีโอฟิลลีน มีคุณสมบัติดังนี้ คือ

  • รักษาอาการหอบหืด
  • รักษาโรคถุงลมโป่งพอง

ยาทีโอฟิลลีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาทีโอฟิลลีน คือ จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของสาร Phospho diesterase ส่งผลให้เกิดการเพิ่มของ cAMP (Cyclic adenosine monophosphate, สารใช้ในกระบวนการทำงานของกล้ามเนื้อ) ในระดับเซลล์ และส่งผลให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อหลอดลมในที่สุด นอกจากนี้ทีโอฟิลลีนยังกระตุ้นให้เกิดการขับปัสสาวะ กระตุ้นการทำงานของสมองและหัวใจ ทำให้กรดหลั่งในกระเพาะอาหารอีกด้วย

ยาทีโอฟิลลีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาทีโอฟิลลีนในประเทศไทย มีการจัดจำหน่ายในรูปแบบของยาเดี่ยวและยาในรูปผสมกับตัวยาอื่น เช่น ผสมกับยาละลายเสมหะ

- รูปแบบยาเดี่ยว

  • ชนิดเม็ดขนาด 125 มิลลิกรัม
  • ชนิดเม็ดแบบออกฤทธิ์นาน ขนาด 200 และ 250 มิลลิกรัม
  • ชนิดแค็ปซูลขนาด 125, 200 และ 400 มิลลิกรัม

- รูปแบบผสมกับยาอื่น

  • ชนิดเม็ดขนาด 60 และ150 มิลลิกรัม
  • ชนิดน้ำขนาด 150 มิลลิกรัม ต่อ 15 ซีซี

ยาทีโอฟิลลีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ขนาดรับประทานของยาทีโอฟิลลีน คือ

  • ขนาดรับประทานเริ่มต้นผู้ใหญ่ รับประทาน 400 – 600 มิลลิกรัมต่อวัน จากนั้นปรับขนาดรับ ประทานเป็น 600 – 1000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ขนาดเริ่มต้นในเด็กอายุ 12 – 16 ปี รับประทาน 400 มิลลิกรัมต่อวัน จากนั้นปรับขนาดรับประ ทานเป็น 600 – 800 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ขนาดเริ่มต้นในเด็กอายุ 6 – 12 ปี รับประทาน 200 – 400 มิลลิกรัมต่อวัน จากนั้นปรับขนาดรับประทานเป็น 400 – 600 มิลลิกรัมต่อวัน (อายุ 9 – 12 ปี ) และปรับการรับประทานเป็น 400 มิลลิกรัมต่อวัน (อายุ 6 – 9 ปี )
  • ขนาดเริ่มต้นในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป รับประทาน 200 – 400 มิลลิกรัมต่อวัน จากนั้นปรับขนาดรับประทานเป็น 400 – 600 มิลลิกรัมต่อวัน

ทั้งนี้ สามารถรับประทานยาทีโอฟิลลีนได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร หากเป็นยาชนิดออกฤทธิ์นาน ให้กลืนยาและดื่มน้ำตามปกติ ห้ามเคี่ยวยาเป็นอันขาด ขนาดรับประทานและระยะเวลาในการใช้ยา ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษา ห้ามปรับเปลี่ยนการรับประทานด้วยตนเอง

เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาทีโอฟิลลีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาทีโอฟิลลีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพรายาหลายประ เภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาทีโอฟิลลีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า

ยาทีโอฟิลลีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

อาจพบผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง) ของยาทีโอฟิลลีนได้ดังนี้ คือ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ มือสั่น/ตัวสั่น และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

มีข้อควรระวังการใช้ยาทีโอฟิลลีนอย่างไร?

ข้อควรระวังของการใช้ยาทีโอฟิลลีน คือ

  • ห้ามใช้กับผู้ป่วยด้วยแผลในกระเพาะอาหาร
  • ห้ามใช้กับผู้ป่วยด้วยโรคตับขั้นรุนแรง โรคลมชัก อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ห้ามใช้กับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ
  • ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่แพ้ทีโอฟิลลีน
  • ห้ามใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน
  • ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยด้วยโรคไต หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และผู้สูงอายุ
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ

***** อนึ่ง

ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาทีโอฟิลลีนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ยาทีโอฟิลลีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ปฏิกิริยาระหว่างยาของยาทีโอฟิลลีนกับยาอื่นๆ ได้แก่

  • การใช้ยาทีโอฟิลลีนร่วมกับยาแก้ปวดบางประเภท อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอา การชัก โดยเฉพาะการนำมาใช้กับผู้ที่เคยมีประวัติด้วยโรคลมชัก ผู้ที่ติดเหล้า ผู้สูงอายุ ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บที่สมอง หรือผู้ที่ป่วยเป็นเนื้องอกสมอง ยาแก้ปวดดังกล่าว เช่น Tramadol
  • การใช้ทีโอฟิลลีนร่วมกับยาลดความดันโลหิตบางกลุ่ม สามารถลดประสิทธิภาพในการควบคุมความดันโลหิตของยาลดความดันโลหิตให้ด้อยประสิทธิภาพลงไป พร้อมกับมีอาการต่างๆเหล่านี้ตามมาเช่น คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ มือ/ตัวสั่น หายใจติดขัด/หายใจลำบาก เป็นต้น ยาลดความดันโลหิตที่กล่าวถึง เช่น Acebutolol, Atenolol, Esmolol, Metoprolol และ Nadolol เป็นต้น
  • การใช้ทีโอฟิลลีนร่วมกับยาต้านแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ) บางประเภทสามารถทำให้ปริ มาณยาทีโอฟิลลีนในกระแสเลือดมีระดับสูงขึ้น จนอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง)ของทีโอฟิลลีนตามมา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ชัก ใจสั่น ยาต้านแบคทีเรียดังกล่าว เช่น Cyprofloxacin, Enoxacin
  • การใช้ทีโอฟิลลีนร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน สามารถกระตุ้นให้เกิดผลข้างเคียงของทีโอฟิลลีนติดตามมาเช่น คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ มีอาการมือ/ตัวสั่น เป็นต้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาทีโอฟิลลีนร่วมกับการดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีกาเฟอีนเป็นส่วนผสม

ควรเก็บรักษายาทีโอฟิลลีนอย่างไร?

สามารถเก็บยาทีโอฟิลลีนในอุณหภูมิห้อง บรรจุในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดดและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ยาทีโอฟิลลีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ในประเทศไทย ชื่อการค้าของยาทีโอฟิลลีนและบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อทางการค้า บริษัทผู้ผลิต
Almarion (อัลมาเรียน) Chew Brothers
Almasal (อัลมาซอล) Chew Brothers (Theo+salbutamal sulfate)
Asiabron (เอเซียบรอน) Asian Pharm (Theo+glyceryl)
Asma-Dec (แอสมา-เดค) Medicine Products (Theo+glyceryl)
Asmasolon (แอสมาโซลอน) Great Eastern
Bronchil (บรอนชิล) Siam Bheasach (Theo+Guaifenesin)
Brondry (บรอนดราย) Suphong Bhaesaj (Theo+glyceryl)
Chintasma (จินทัสมา) Chinta (Theophylline+glyceryl guaiacolate)
Duralyn-CR (ดูรารีน-ซีอาร์) Raptakos
Forasma (ฟอราสมา) The Forty-Two (Theo+glyceryl)
Franol (ฟรานอล) sanofi-aventis
Mila-Asma (มิรา-แอสมา) Milano (Theo+glyceryl)
Nuelin SR (นิวลิน เอสอาร์) iNova
Polyasma (โพลีแอสมา) Pharmasant Lab
Polyphed (โพลีเฟด) Pharmasant Lab (Theo+glyceryl)
Qualiton (ควอลิตัน) T.O. Chemicals (Theo+glyceryl guaiacolate)
Sinmaline (ซินมาไลน์) SSP Laboratories
Sinoline (ไซโนไลน์) SSP Laboratories
S-Phylline (เอส-ฟิลลีน) Umeda
Temaco (เทมาโก) Nakornpatana
Theocap (ทีโอแคพ) A N H Products
Theolin (ทีโอลิน) T. Man Pharma
Theophylline Medicine Products (ทีโอฟิลลีน เมดิซีน โพรดักซ์) Medicine Products
Theori-200 (ทีโอรี-200) Meditab
Theotrim (ทีโอทริม) Trima
Xanthium (แซนเทียม) SMB

บรรณานุกรม

1. https://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=theophylline [2014,April20]
2. https://www.mims.com/THAILAND/drug/info/Franol/ [2014,April20].
3. https://www.mims.com/THAILAND/drug/info/Xanthium/[2014,April20].
4. http://www.drugs.com/search.php?searchterm=theophylline [2014,April20].
5. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a681006.html#storage-conditions [2014,April20].