ทิโคลพิดีน (Ticlopidine)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 15 กรกฎาคม 2564
- Tweet
- บทนำ: คือยาอะไร?
- ทิโคลพิดีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- ทิโคลพิดีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ทิโคลพิดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ทิโคลพิดีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ทิโคลพิดีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ทิโคลพิดีนอย่างไร?
- ทิโคลพิดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาทิโคลพิดีนอย่างไร?
- ทิโคลพิดีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยา (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาต้านเกล็ดเลือด(Antiplatelet drug)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยากันเลือดแข็งตัว(Anticoagulants)
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- อัมพาต อัมพฤกษ์: โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- เจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด(Angina Pectoris)
- ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร(Gastrointestinal bleeding or GI bleeding)
บทนำ: คือยาอะไร?
ยาทิโคลพิดีน (Ticlopidine) คือ ยาต้านเกล็ดเลือด(Antiplatelet drug)ด้วยกลไกลดการรวมตัวของเกล็ดเลือดและยับยั้งการสร้างสาร/ปัจจัยธรอมบัส (Thrombus, ลิ่มเลือด) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว ก่อให้เกิดผลทางคลินิกโดยทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้อย่างสะดวกขึ้น
ยาทิโคลพิดีน: เป็นยาประเภท Adenosine diphosphate receptor inhibitors (กลุ่มยาต้านเกล็ดเลือด) ถูกออกแบบให้เป็นยารับประทาน ตัวยาสามารถดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้มากกว่า 80% ซึ่งเมื่อยาเข้าสู่กระแสเลือด จะรวมตัวกับพลาสมาโปรตีนถึงประมาณ 98% ตับจะคอยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของยาทิโคลพิดีนในกระแสเลือดอย่างต่อเนื่อง และร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเพื่อกำจัดปริมาณยา 50% ออกจากร่างกายโดยผ่านไปกับปัสสาวะและอุจจาระ
คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุยาทิโคลพิดีนลงในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยระบุเงื่อนไขของการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด Clopidogrel ได้
ด้วยยาทิโคลพิดีนมีข้อควรระวังและข้อห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย การใช้ยาจึงต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
ทิโคลพิดีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาทิโคลพิดีนมีสรรพคุณรักษาโรค /ข้อบ่งใช้:
- ป้องกันอาการสมองขาดเลือด (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง อัมพาต อัมพฤกษ์: โรคหลอดเลือดสมอง)
- รักษาภาวะหัวใจขาดเลือด (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ)
- รักษาอาการปวดน่องเมื่อเดินมากจากกล้ามเนื้อขาดเลือด
ทิโคลพิดีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาทิโคลพิดีนคือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการจับตัวของเกล็ดเลือด จึงทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้น และเกิดฤทธิ์ของการรักษาตามมา
ทิโคลพิดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาทิโคลพิดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 250 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาแคปซูลชนิดรับประทาน ขนาด 250 มิลลิกรัม/แคปซูล
ทิโคลพิดีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาทิโคลพิดีนมีขนาดรับประทาน เช่น
- ผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป): รับประทานเริ่มต้นที่ 250 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น
- ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี: ยังไม่มีการศึกษาที่แน่ชัดถึงผลของยานี้รวมถึงผลข้างเคียงด้วย ในคนกลุ่มอายุดังกล่าว ดังนั้นการใช้ยานี้ในคนกลุ่มนี้จึงขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา
*****หมายเหตุ:
- สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้
- ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาทิโคลพิดีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาทิโคลพิดีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาทิโคลพิดีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ทิโคลพิดีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาทิโคลพิดีนสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ท้องเสีย
- คลื่นไส้
- อาหารไม่ย่อย
- เลือดออกง่าย
- ผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง
- ระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มมากขึ้น
- ตับอักเสบ และ
- ดีซ่าน
อนึ่ง: สำหรับผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาดอาจพบอาการมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร-ลำไส้ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง เลือดออกในทางเดินอาหาร), เกิดอาการชัก, ตัวเย็น, เสียการทรงตัว, หอบเหนื่อย/หายใจลำบาก, หากพบอาการดังกล่าว ต้องรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
มีข้อควรระวังการใช้ทิโคลพิดีนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ทิโคลพิดีน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติเลือดออกง่าย ผู้ที่มีปริมาณเกล็ดเลือดต่ำ
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดออกในกะโหลกศีรษะ ผู้ป่วยโรคตับในระยะรุนแรง
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีบาดแผลฉีกขาด ผู้ป่วยที่ไตทำงานผิดปกติตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับรุนแรง ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดมาใหม่ๆ
- ระวังการใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ การจะใช้ยากับผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น
- ในช่วง 3 เดือนแรกที่มีการใช้ยานี้ควรต้องตรวจสอบความเข้มข้นของเม็ดเลือดทุกๆประมาณ 2 สัปดาห์
- สำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดประเภทรอได้ (Elective surgery) ควรหยุดการใช้ยา ทิโคลพิดีนเป็นเวลาประมาณ 10 - 14 วัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกในระหว่างการผ่าตัด
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาทิโคลพิดีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ทิโคลพิดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาทิโคลพิดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาทิโคลพิดีน ร่วมกับ ยา Clopidogrel อาจทำให้ประสิทธิภาพการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวของยา Clopidogrel ด้อยประสิทธิภาพลงไป กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีบุคคลไป
- การใช้ยาทิโคลพิดีน ร่วมกับ ยาแก้ปวด เช่นยา Ibuprofen อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย สัง เกตจากปัสสาวะมีเลือดปน อุจจาระมีสีคล้ำเข้ม มีอาการปวดหัว วิงเวียน และอ่อนเพลีย หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาทิโคลพิดีน ร่วมกับ ยารักษาโรคหืด เช่นยา Theophylline สามารถกระตุ้นให้ร่าง กายผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจากยาทั้ง 2 ตัวเพิ่มขึ้นเช่น คลื่นไส้-อาเจียน ท้องเสีย ปวดหัว กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าวแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยาทิโคลพิดีนร่วมกับยา Codeine อาจทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของยา Codeine ด้อยลงไป การใช้ยาทั้ง 2 ตัวร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาทิโคลพิดีนอย่างไร?
สามารถเก็บยาทิโคลพิดีน:
- เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- เก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
ทิโคลพิดีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาทิโคลพิดีน มียาชื่อการค้าอื่นๆ และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Aplaket (อะพลาเค็ท) | Rottapharm |
Cenpidine (เซ็นพิดีน) | Central Poly Trading |
Ticlid (ทิคลิด) | sanofi-aventis |
Ticlo (ทิโคล) | Greater Pharma |
Ticlodin (ทิโคลดิน) | T.O. Chemicals |
Ticlopine (ทิโคลพีน) | Umeda |
Tilopin (ไทโลพิน) | Unison |
Tipidine (ทิพิดีน) | Seven Stars |
บรรณานุกรม
- https://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=ticlopidine [2021,July10]
- https://www.mims.com/india/drug/info/ticlopidine?type=full&mtype=generic [2021,July10]
- https://www.mims.com/singapore/drug/info/apo-ticlopidine?type=full [2021,July10]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ticlopidine [2021,July10]
- https://www.drugs.com/mtm/ticlid.html [2021,July10]