ถึงตายได้ด้วยไข้กาฬหลังแอ่น (ตอนที่ 2)

ถึงตายได้ด้วยไข้กาฬหลังแอ่น-2

การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง ระบบทางเดินอาหาร หรือระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น โดยเชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดไปยังระบบประสาท นอกจากนี้เชื้อแบคทีเรียยังสามารถเข้าสู่ระบบประสาทได้โดยตรงหลังการได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะ การผ่าตัด หรือการติดเชื้อ

การติดเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นเกิดได้จากการสัมผัสเมือกจากช่องจมูก (Nasopharynx) โดยตรงหรือจากละอองหายใจ (Respiratory droplets) จากจมูกและคอของผู้ที่มีเชื้อ เช่น การกอด การจาม หรือการไอ มีส่วนน้อยที่ติดต่อทางระบบปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ (Urogenital tract) และรูทวารหนัก (Anal canal)

โดยระยะเวลาของการฟักตัวของเชื้อมีตั้งแต่ 1-10 วัน แต่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-4 วัน ซึ่งเราสามารถพบเชื้อในจมูกได้ใน 2-4 วัน และ 24 ชั่วโมงหลังการให้ยาปฏิชีวนะ

ร้อยละ 10-20 ของผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการ หรือที่เรียกว่าเป็น ตัวพาหะ (Carrier) ส่วนอาการของโรคไข้กาฬหลังแอ่นจะแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี โดยอาการระยะแรกจะคล้ายกับอาการของไข้หวัด ซึ่งอาการต่างๆ ได้แก่

  • มีความรู้สึกไม่สบาย
  • ไข้สูงทันทีทันใด
  • ปวดศีรษะรุนแรง/ต่อเนื่อง
  • คอแข็ง
  • คลื่นไส้หรืออาเจียน
  • ตาไม่สู้แสง (Photophobia)
  • เซื่องซึมหรือไม่ค่อยตื่น
  • ปวดข้อ
  • สับสนหรือจิตใจเปลี่ยนแปลง

สิ่งสำคัญก็คือ หากมีผื่นสีแดงหรือสีม่วง หรือกดแล้วไม่เป็นสีขาว อาจเป็นสัญญาณของอาการเลือดเป็นพิษ (Blood poisoning) ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างฉุกเฉิน

นอกจากนี้ยังมีอาการอย่างอื่นของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) และภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia) ซึ่งอาจได้แก่

  • กระหม่อมตึงหรือนูนในเด็ก
  • ร้องเสียงแหลมหรือร้องครางในเด็ก
  • การเคลื่อนไหวแบบกระตุกในเด็ก
  • อาเจียนพุ่ง (Projectile vomiting) ในเด็ก
  • หงุดหงิด
  • หายใจเร็ว
  • อ่อนเพลียหรือนอนมาก
  • ผิวหนังเป็นจุด ซีดหรือเป็นจ้ำ
  • ปวดกล้ามเนื้อ ข้อ หน้าอก หรือช่องท้อง
  • ท้องเสีย
  • มือเท้าเย็นหรือสั่น
  • ชัก

แหล่งข้อมูล:

  1. An Overview of Meningococcal Meningitis.http://www.webmd.com/children/meningococcal-meningitis-symptoms-causes-treatments-and-vaccines#1 [2017, July 22].
  2. Meningococcal meningitis. http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs141/en/ [2017, July 22].
  3. Meningococcal disease. https://www.cdc.gov/meningococcal/about/index.html [2017, July 22].
  4. Meningococcal Meningitis. http://emedicine.medscape.com/article/1165557-overview [2017, July 22].