ติดเชื้อที่ตาจากเพศสัมพันธ์ (ตอนที่ 4)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 25 ธันวาคม 2561
- Tweet
คลามายเดีย มักถูกเรียกว่าเป็นการติดเชื้อแบบซ่อนเร้น เพราะส่วนมากผู้ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการ แต่ถึงกระนั้น ผู้ติดเชื้อก็สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ ทำให้โรคนี้มีอัตราการติดเชื้อสูง อาการที่เกิดขึ้น ได้แก่
- ตกขาวผิดปกติ
- แสบเมื่อปัสสาวะ
- มีเลือดออกที่ช่องคลอด
- ปวดบริเวณช่องท้อง
- ปวดหลัง
- คลื่นไส้
- เป็นไข้
- เจ็บระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
หากติดเชื้อที่ตา จะทำให้เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis)
สามารถติดเชื้อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือออรัลเซ็กซ์ แม้แต่การไม่มีเพศสัมพันธ์ก็อาจติดเชื้อได้หากปากหรือช่องคลอดสัมผัสกับของเหลวที่มีเชื้ออย่างอสุจิ นอกจากนี้ทารกสามารถติดจากแม่ได้หากคลอดผ่านช่องคลอด
การรักษาทำได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ และงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะรักษาเสร็จ
โรคติดเชื้อเอชไอวี (Human immunodeficiency virus = HIV) เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ได้ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีมาหลายปีอาจไม่แสดงอาการ แต่จะมีปัญหาต่อระบบภูมิต้านทานในร่างกาย จนกลายเป็นโรคเอดส์และแสดงอาการดังนี้
- น้ำหนักลด
- เป็นไข้ หนาวสั่น และเหงื่อออกตอนกลางคืน
- เหนื่อยเพลีย
- ปวดศีรษะ
- ท้องเสีย คลื่นไส้ และอาเจียน
- เจ็บปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก
- ไอแห้ง
- เป็นผื่น
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic inflammatory disease = PID) ที่รักษาไม่หาย
- ติดเชื้ออื่น เช่น โรคเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal yeast infections)
- รอบเดือนเปลี่ยนแปลง ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนมามาก
แหล่งข้อมูล:
- The Eye and STIs. https://opto.ca/health-library/the-eye-and-stis [2018, December 24].
- Types of STDs (STIs). https://www.girlshealth.gov/body/sti/symptoms.html [2018, December 24].