1. ตลาดโรงพยาบาล – ตอนที่ 42
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 6 ตุลาคม 2567
- Tweet
เนื่องจากโรงพยาบาลแต่ละแห่งก็มีนโยบาย (Policy) ที่จะจับลูกค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ (Special care) ดังนั้น ถ้าเข้าใจรายได้ (Revenue) ที่มาจาก (Derive) ลูกค้ากลุ่มไหน หรือแม้แต่จุดเด่น (Outstanding) ของโรงพยาบาลนั้น จะทำให้สามารถจับจุดวิเคราะห์ (Analysis) ได้ถูกต้อง
หากเป็นโรงพยาบาลที่เน้นต่างชาติ (Foreigners) เป็นหลัก จำเป็นต้องติดตาม (Follow up) สภาวะเศรษฐกิจ (Economic condition) ของประเทศนั้นๆ เช่นกัน เช่น หุ้น (Stock) โรงพยาบาล ที่จับลูกค้ากลุ่มยุโรป พอประเทศในกลุ่มมีปัญหาเศรษฐกิจหรือซบเซา (Slow-down) ทำให้การบินมาก็มาใช้บริการน้อยลง (Decline)
หรือถ้าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ (Purchasing power) สูงจากประเทศอาหรับ มีการจัดรายการเหมาจ่าย (Package) เพื่อดึงดูด (Attract) ลูกค้าในกลุ่มนี้เป็นต้น
2) ฝึกดูอัตราส่วนตัวเลขทางการเงิน
การศึกษาอัตราส่วน (Ratio study) ทางการเงิน เช่น PE (= Price-to-earnings) และ ROE (= Return on equity) มีความสำคัญเนื่องจากมีบทบาท (Role) สำคัญในการประเมิน (Evaluate) ผลตอบแทน (Return) ของการลงทุน (Investment) ในหุ้นโรงพยาบาล ซึ่งมีความสำคัญของตัวเลขแต่ละตัวดังนี้
-
- PE เป็นอัตราส่วนที่นิยม (Popular) ใช้ในการประเมินความคุ้มค่าของหุ้นหรือโรงพยาบาล โดยเปรียบเทียบราคาหุ้นกับกำไรต่อหุ้น (Earnings per share - EPS) ของโรงพยาบาล โดยที่ค่า PE ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่ากำไรที่โรงพยาบาลทำได้ต่อราคาหุ้นเป็นเท่าไร นอกจากนี้ยังช่วยในการเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นของอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ (Healthcare) และระหว่างโรงพยาบาล
- ROE คืออัตราส่วนที่บ่งบอก (Indicate) ถึงกำไรที่โรงพยาบาลทำได้ ต่อส่วนของเงินทุนของผู้ถือหุ้น (Equity) ซึ่งเป็นส่วนทุนที่คนลงทุนเข้ามาในโรงพยาบาล ROE ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่าโรงพยาบาล ใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficiency) หรือไม่ ถ้า ROE สูงแสดงว่า โรงพยาบาลสามารถทำกำไรมากต่อส่วนของเงินทุนที่ถือหุ้น (ROE)
การศึกษา PE และ ROE จะช่วยในการตัดสินใจ (Decision-making) ในการลงทุนในหุ้นของโรงพยาบาล โดยที่ PE สูง และ ROE สูง หมายความว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง (Risk) และต้องชำระราคาสูง แต่มีโอกาสทำกำไรมาก ส่วน PE ต่ำและ ROE ต่ำอาจชี้ (Denote) ว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงน้อย แต่ก็กำไรน้อย
ข้อสำคัญก็คือ ต้องพิจารณา (Consider) และเปรียบเทียบ (Compare) อัตราส่วนนี้ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เพื่อตัดสินใจการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายการเงิน (Financial goal) ระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนพร้อมยอมรับ
3) กลยุทธ์ที่ใช้ทำธุรกิจและการเติบโต
ดูว่าธุรกิจของโรงพยาบาลนั้นๆ สามารถเติบโต (Grow) ต่อไปในอนาคต โดยอาศัยกลยุทธ์ (Strategy) แบบใด เพราะหมายถึงราคาหุ้น (Stock price) และเงินปันผล (Dividend) ที่คาดหวังในทิศทาง (Direction) ของโรงพยาบาล เช่น
-
- กลยุทธ์การเติบโต ด้วยการควบรวมกิจการ (Merger) กล่าวคือ อยากโตไวทั้งรายได้และกำไร ก็ใช้ทางลัด (Short-cut) กันไปเลย โดยวิธีการซื้อ (Acquisition)โรงพยาบาลอื่น แล้วนำมาปรับปรุงใหม่ (Renovate) ตกแต่งให้เป็นหัวเรื่อง (Theme)K เดียวกัน สวมยี่ห้อ (Brand) ของเขาเข้าไป
แหล่งข้อมูล –
- https://stock2morrow.com/article/2255 [2024, October 5].
- https://www.mitrade.com/th/insights/shares/investing-tips/best-hospital-stocks [2024, October 5].
