7. ตลาดศูนย์บริการทางรังสี – ตอนที่ 12

รังสีแกมม่า ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง (Co-60), การฆ่าเชื้อโรคในเวชภัณฑ์ (Co-60), การวินิจฉัยโรคและรักษาโรคต่อมไทรอยด์ (Co-60)(I-125, I-131), การตรวจสอบการทำงานของไต (I-131), การตรวจสอบการทำงานของตับ, ทางเดินน้ำดี (Biliary tract), หรือกล้ามเนื้อหัวใจ (Tc-99m), และการศึกษาการไหลเวียน (Circulation) ของเลือดที่ปอดหรือสมอง (Tc-99m) เป็นต้น

รังสีเอ็กซ์ (X-ray) ใช้ในการถ่ายภาพอวัยวะต่างๆ (Organs) และตรวจจับ (Detect) วัตถุแปลกปลอม ส่วนสารกัมมันตรังสี (Radio-active) ที่มีบทบาทสำคัญตัวหนึ่งก็คือ โคบอลต์-60 ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสีชนิดหนึ่ง ที่ไม่มีอยู่ในธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นได้จากการนำโคบอลต์-59 ซึ่งเป็นโลหะในธรรมชาติอาบอนุภาคนิวตรอน ในเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู จนเกิดเป็นโคบอลต์-60 ซึ่งสลายตัวให้รังสีแกมม่า (Gamma) และเบต้า (Beta) โดยที่รังสีที่นำมาใช้ประโยชน์มาก คือรังสีแกมม่า ในด้านต่างๆ ดังนี้

  1. ทางการเกษตร
    • การปรับปรุงพันธุ์พืช (Mutation breeding) เช่น พันธุ์ข้าว กข6, กข 10, กข 15, ถั่วเหลืองพันธ์ดอยคำ, และกล้วยหอมทอง
    • การกำจัดแมลงศัตรูพืชโดยการทำหมัน (Sterile insect technique) เช่น กำจัดแมลงวันผลไม้บนดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
    • การถนอมอาหาร (Food preservation) โดยศูนย์ฉายรังสีอาหารและผลิตผลการเกษตร ของสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (Office of Atoms for Peace) ได้ให้บริการ ดังนี้
      • ยับยั้งการงอก: เช่น มันฝรั่ง, หอมใหญ่, กระเทียม, และขิง
      • ชะลอการสุก: เช่น มะม่วงและ มะละกอ
      • ชะลอการบาน: เช่น เห็ด
      • ทำลายพยาธิ: เช่น เนื้อหมูและ แหนม
      • ลดแบคทีเรียและเชื้อรา: เช่น ปลาสด, เนื้อสด, กุ้งแช่แข็ง, และเครื่องเทศ
      • ควบคุมแมลง: เช่น ข้าว, ถั่วเขียว, ผลไม้แห้ง, ปลาแห้ง, และ มะขามหวาน

นานาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการฉายรังสีมาแล้วนั้น จะไม่มีรังสีตกค้าง (Residual) อยู่เลย ทั้งนี้เนื่องจากรังสีแกมมาที่นำมาใช้ จะไม่แตกตัว (Break) และไม่ทำให้ตัวกลาง (Medium) กลายเป็นรังสีแต่อย่างใด อาหารที่ผ่านการฉายรังสี จึงปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค 

  1. ทางอุตสาหกรรม ในประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ165 แห่ง ที่นำสารกัมมันตรังสี โคบอลต์-60 มาใช้ ดังนี้
    • การวัดระดับ (Level) เช่น โรงงานทอผ้า (Weaving factory) และ โรงงานพลาสติก (Plastic)
    • การวัดความหนา (Thickness) เช่น โรงงานโลหะ (Metal work)
    • การวัดความหนาแน่น (Density) เช่น โรงงานพลาสติกและ โรงงานกระเบื้อง (Tile)
    • การสำรวจหลุมเจาะ (Bore-hole) เพื่อเสาะหาแหล่งแร่ (Mineral)
    • การฉายรังสีเวชภัณฑ์ (Medical supplies) เช่น เข็มฉีดยา (Syringe), ถุงมือ (Glove), มีดผ่าตัด (Scalpel), และยารักษาโรค

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/546 [2023, August 2].
  2. https://www.britannica.com/technology/nuclear-weapon/Residual-radiation-and-fallout#ref988697 [2023, August 2].