3. ตลาดยา – ตอนที่ 63

ด้านตลาดต่างประเทศ พบว่ามูลค่าส่งออก (Export value) ยา ของไทยเติบโตเฉลี่ย 5.5% ต่อปี (ปี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2566) คิดเป็นสัดส่วน (Proportion) เพียง 0.2% ของมูลค่าส่งออกสินค้าทั้งหมด เนื่องจากยาที่ส่งออกเป็นยาชื่อสามัญ (Generic drug) ทั่วไปที่มีมูลค่าไม่สูงนัก

ตลาดส่งออกหลัก คือ ประเทศเพื่อนบ้าน (Neighboring) อันได้แก่ เมียนมา, เวียดนาม, กัมพูชา, และสปป.ลาว มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 50% ของมูลค่าส่งออกยาทั้งหมด ทั้งนี้ การแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ของไวรัส COVID-19 เอื้อให้ไทยส่งออกยา เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยาในกลุ่มวัคซีน อนึ่ง ในปี พ.ศ. 2566 สัดส่วนส่งออกวัคซีน (Vaccine) อยู่ที่ 6.2% ของมูลค่าส่งออกยาทั้งหมด

ขณะที่การนำเข้ายาจะมีทั้งวัตถุดิบ (Raw material) ของตัวยาสำคัญ, ยาสำเร็จรูป (Finished goods), และยาต้นแบบ (Original drug) ที่มีราคาสูง (Expensive) เช่น ยาสร้างเม็ดเลือด (Blood-forming), ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics), และยาลดไขมันในเลือด (Hypolipidemic agent) ส่วนมากยาในกลุ่มนี้ เป็นการนำเข้าจาก 4 ประเทศหลัก อันได้แก่ เยอรมนี, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, และอินเดีย

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัส COVID-19 ทำให้ไทยนำเข้า (Import) ยาประเภทวัคซีนเพิ่มขึ้นมากจากจีน, เบลเยียม, เยอรมนี, สหรัฐอเมริกา, และฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2566 ไทยนำเข้าวัคซีนสัดส่วน (Proportion) 28.3% ของมูลค่าการนำเข้ายาทั้งหมด

แรงกดดันที่ผู้ผลิตยาภาคเอกชนต้องเผชิญมาจาก 

  1. การแข่งขัน (Competition) จากยานำเข้า (เช่น จากอินเดียและจีน) ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าไทย
  2. ผู้ผลิตบางกลุ่มไม่สามารถแข่งขันกับหน่วยงานภาครัฐทั้งด้านต้นทุนการผลิตและโอกาสเข้าถึงช่องทางการจำหน่าย (Channel of distribution) ทำให้มีข้อจำกัด (Limitation) ในการขยายตลาด
  3. การกำหนดราคากลางของยา (Average price) โดยกระทรวงสาธารณสุข (Public Health Ministry) และกรมบัญชีกลาง (Comptroller General’s Department) เพื่อให้สถานพยาบาลของรัฐจัดซื้อ (Procure) ได้ในราคาที่เหมาะสม (Appropriate) ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถปรับขึ้นราคายาบางประเภท
  4. ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP-PIC/S เนื่องจากไทยเป็นสมาชิกการตรวจประเมินยาแห่งสหภาพยุโรป (Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme) ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น และ
  5. การต้องจัดหาสถานที่เก็บ (Storage) และการกระจายยา (Distribution) ที่เหมาะสมและเพียงพอ (ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเงื่อนไขการกระจายยาแผนปัจจุบันปี พ.ศ. 2564 มีผลบังคับ (Effective) 1 มกราคม พ.ศ. 2565 แรงกดดัน (Pressure) ข้างต้น ทำให้ผู้ผลิตยาต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขัน (Competitive) ได้ในตลาดที่มีความท้าทาย (Challenge) สูงขึ้น

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/chemicals/phamaceuticals/io/io-pharmaceuticals-2025-2027 [2025, July 28].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Pharmacy_(shop) [2025, July 28].