3. ตลาดยา – ตอนที่ 55
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 8 เมษายน 2568
- Tweet

ทั้งนี้อุตสาหกรรมยา (Pharmaceutical industry) มีลักษณะเฉพาะ (Characteristics) ที่สำคัญคือ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมมาตรฐานการผลิต (Manufacturing standard) อย่างเข้มงวด (Strictly) โดยต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน (Good manufacturing practice: GMP) และอยู่ภายใต้การกำกับดูแล (Supervision) ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) (Food and Drug Administration: FDA)
รวมถึงมีกฎหมายและระเบียบ (Rules and regulations) ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติยา (Drug Act) และกฎหมายสิทธิบัตร (Patent Law) ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ยาที่ผลิตออกมามีคุณภาพ (Quality), ความปลอดภัย (Safety), และประสิทธิผล (Effectiveness) ตามมาตรฐานที่กำหนด
จากข้อมูลของ Speeda พบว่ายาที่ผลิตได้ของไทยเกือบทั้งหมด เป็นการผลิตเพื่อใช้เองภายในประเทศ (Domestic) โดยมีการส่งออก (Export) เล็กน้อยราว (Approximately) 10% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด สำหรับการจำหน่ายในประเทศ มีช่องทางการจำหน่าย (Distribution channel) ที่สำคัญ 2 ช่องทาง
อันได้แก่ การจำหน่ายผ่านโรงพยาบาลมีสัดส่วน (Proportion) 80% ของปริมาณการจำหน่ายในประเทศทั้งหมด โดยแบ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐ (Public hospital) 60% และโรงพยาบาลเอกชน (Private hospital) 20% ที่เหลือเป็นการจำหน่ายผ่านร้านขายยา (Drug store) อีก 20%
ในส่วนของการจำหน่ายผ่านช่อทางโรงพยาบาล (Hospital channel) พบว่า ส่วนใหญ่เป็นยาที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ (Prescription drug) ซึ่งแบ่งออกเป็นยาชื่อสามัญ (Generic) 60% และยาจดสิทธิบัตร 40% ด้านการจำหน่ายผ่านร้านขายยา ประกอบด้วยร้านขายยาแบบโดดเดี่ยว (Stand-alone) ซึ่งมีสัดส่วน 80% ของร้านขายยาทั้งหมด และร้านขายยาแบบสายโซ่ (Chain store) อีก 20%
ในสถานการณ์ (Situation) ด้านการผลิตและจำหน่าย จากการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analysis) ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (Office of Industrial Economics) พบว่า ปริมาณการผลิตและจำหน่ายยาของไทย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี พ.ศ.2567 ปรับตัวลดลงจากปีก่อน ที่ 7.2% และ 8.5% ตามลำดับ
ทั้งนี้ มีสาเหตุหลักมา จากการชะลอตัว (Slow down) ของคำสั่งซื้อ (Purchase ord=er) จากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสำคัญ (Major market) ในเอเชีย เช่น เมียนมา, เวียดนาม, และญี่ปุ่น ที่มีความต้องการ (Demand) ลดลง ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องปรับลดกำลังผลิต (Production capacity) ในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์
โดยเฉพาะยาแคปซูล (Capsule), ยาฉีด (Injection) ยาครีม (Cream), ยาผง (Powder), และยาเม็ด (Tablet) เพื่อควบคุมระดับสินค้าคงคลัง (Inventory) ให้สอดคล้องกับอุปสงค์ (Demand) ที่ ชะลอตัว ในด้านการจำหน่ายในประเทศที่ลดลง (Decline) มีสาเหตุสำคัญมาจากกำลังซื้ออของผู้บริโภคชะลอตัวลง จากกดดันหลายประการ
แหล่งข้อมูล –