3. ตลาดยา – ตอนที่ 28

ผู้จัดการรายวัน 360 รายงานว่า ผู้เล่น (Player) ในตลาดยา ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2566 สดใส โดยมีปัจจัยบวกการตลาดเชิงรุก ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งพาณิชย์สมัยใหม่ (Modern trade) และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เพื่อรองรับส่วนตลาด (Market segment) ของยาที่จะเติบโตตามความต้องการ (Demand) การใช้ยาเพื่อรักษาโรคที่เพิ่มขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท BLC จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยา (Pharmaceutical industry) ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้น (Favorable trend) ต่อเนื่อง จากการกลับมารักษาในโรงพยาบาลตามปกติ (Back to normal) ของผู้ป่วย โดยคาดว่าปริมาณการผลิต (Manufacture) และจำหน่ายยา (Distribution) ในประเทศช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น

ความต้องการใช้ยาเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับโรคระบาดในฤดูฝน เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza), โรคไข้เลือดออก (Dengue) เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ที่มีปริมาณ 9,733.46 ตัน จากการขยายตัวของการจำหน่ายยาครีม (Cream), ยาเม็ด (Tablet),และยาแคปซูล (Capsule) ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรค

ขณะที่การส่งออก (Export) ผลิตภัณฑ์ยาในไตรมาส 3/2566 มีแนวโน้มการขยาย (Expansion) ตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่าส่งออก 119.86 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,195.1 ล้านบาท) จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญ (Major) เช่น จีน, ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา, และอาเซียน (ASEAN = Association of South-East Asia Nations)

BLC ได้วางแผนขับเคลื่อน (Drive) การเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง โดยทำการตลาดเชิงรุก (Pro-active marketing) เพื่อขยายฐานผู้บริโภค (Consumer base) ให้มากขึ้น ผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก คือ

  1. การสร้างการรับรู้ยี่ห้อ (Brand awareness) โดยมุ่งเน้นการสื่อสารทางการตลาด (Marketing communication) ผ่านทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
  2. ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งพาณิชย์สมัยใหม่ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง (Access) ผลิตภัณฑ์ของ BLC ได้อย่างทั่วถึง

บริษัทฯ ได้นำสินค้ากลุ่มยาสามัญ (Generic drug) ประจำบ้าน, เครื่องสำอาง (Cosmetics), และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food supplement) เข้าไปจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และอิเล็กทรอนิกส์ รองรับโอกาส (Opportunity) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Economic recovery) รวมไปถึงการเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ผลิตและจำหน่ายยาสามัญใหม่ รวมถึงยาตามบัญชีนวัตกรรมไทย ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการวิจัยและผลิต รวมทั้งกลุ่มยาที่มีอัตราการเติบโตสูง (Growth) และคาดว่าจะมีอัตราการทำกำไรขั้นต้น (Profit margin) ที่ 70% ในช่วง 3 - 5 ปีแรก

“BLC พร้อมแสวงหาโอกาสการเติบโต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ (Business alliance) อย่างต่อเนื่อง โดยเรามีแผนผลิตและจัดจำหน่ายยาสามัญใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดยา และวิจัย-พัฒนานวัตกรรมสมุนไพรไทย (Thai-herb Innovation) เพื่อส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ตามนโยบายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความพร้อมทั้งด้านโรงงาน (Factory) และกระบวนการผลิต (Production process) ที่มีมาตรฐานระดับสากล (International standard), ความแข็งแกร่ง (Robust) ของทีมขาย (Sales-force), และศักยภาพ (Potential) การเติบโตของตลาดยาในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยส่งเสริมให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ” CEO กล่าว

แหล่งข้อมูล

  1. https://mgronline.com/business/detail/9660000096766 [2024, March 9].
  2. https://www.nstda.or.th/innovation/ [2024, March 9].